คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 821

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 487 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1384/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายตั๋วแลกเงินลด การค้ำประกัน และการวินิจฉัยพยานของศาล
โจทก์ฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการว่า จำเลยทั้งสองนำตั๋วแลกเงินของ อ.มาขายลดให้โจทก์ โดยตกลงว่าถ้าโจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้จำเลยยอมชำระเงินตามตั๋วคืนให้โจทก์ โจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ จึงขอให้จำเลยร่วมกันชำระหนี้ เมื่อจำเลยให้การว่า อ.เป็นผู้ขายตั๋วแลกเงินให้โจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นเพียงผู้ค้ำประกัน ดังนี้ การที่ศาลล่างฟังว่าจำเลยที่ 2 เชิด ช.เป็นตัวแทนของห้างจำเลยที่ 1 นำตั๋วแลกเงินไปขายลดแก่โจทก์ก็ดี และที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ช.ลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกันเป็นวิธีปฏิบัติของโจทก์ซึ่งเป็นธนาคารในกรณีที่จำเลยผู้เป็นลูกค้าเอาตั๋วแลกเงินของผู้อื่นมาขายลดให้ก็ดี เป็นอำนาจของศาลในการที่จะวินิจฉัยและเชื่อฟังพยานที่คู่ความนำสืบเพียงใด ไม่เป็นการฟังพยานไม่ชอบหรือนอกประเด็น
จำเลยฎีกาว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) และโจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้น แต่ข้อที่จำเลยฎีกาทั้งสองประการนี้ ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นไว้ จำเลยก็ไม่โต้แย้งคัดค้าน ทั้งไม่ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการรับผิดต่อการซื้อเชื่อของตัวแทน แม้ไม่ได้เชิดตัวแทนโดยตรง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 ในฐานะตัวการรับผิดในการกระทำของตัวแทน โดยฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เชิดและยินยอมให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทน ไปซื้อเชื่อสินค้าจากโจทก์แล้วค้างชำระค่าสินค้าเหล่านั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เชิดและยินยอมให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนแต่เมื่อได้ความว่า ซ. ซึ่งเป็นลูกจ้างและตัวแทนของจำเลยที่ 1 ได้ซื้อเชื่อสินค้าจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ในฐานะตัวการย่อมต้องรับผิดค่าสินค้าต่อโจทก์ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนและการรับผิดในสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ลงชื่อเป็นพยานและผู้ให้ความยินยอม
จำเลยเป็นเจ้าของที่ดิน ให้ผู้อื่นทำการจัดสรรแบ่งที่ดินขายโจทก์ได้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินนั้นกับผู้จัดสรร โดยจำเลยลงชื่อเป็นพยานและผู้ให้คำยินยอม ย่อมถือได้ว่าจำเลยเชิดผู้จัดสรรออกเป็นตัวแทน หรือยอมให้ผู้จัดสรรเชิดตัวเขาเองออกแสดงเป็นตัวแทนของตนในการขายที่ดินให้แก่โจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
จำเลยฎีกาว่า ฟ้องเคลือบคลุมและคดีขาดอายุความ โดยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนในการซื้อขายที่ดิน เจ้าของที่ดินต้องรับผิดชอบต่อสัญญา
จำเลยเป็นเจ้าของที่ดิน ให้ผู้อื่นทำการจัดสรรแบ่งที่ดินขาย โจทก์ได้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินนั้นกับผู้จัดสรร โดยจำเลยลงชื่อเป็นพยานและผู้ให้คำยินยอม ย่อมถือได้ว่าจำเลยเชิดผู้จัดสรรออกเป็นตัวแทน หรือยอมให้ผู้จัดสรรเชิดตัวเขาเองออกแสดงเป็นตัวแทนของตนในการขายที่ดินให้แก่โจทก์ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
จำเลยฎีกาว่า ฟ้องเคลือบคลุมและคดีขาดอายุความ โดยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองที่ดินด้วยใบมอบอำนาจที่ไม่สมบูรณ์ เจ้าของที่ดินต้องรับผิดแม้มีการปลอมแปลง
เจ้าของที่ดินพิมพ์ลายนิ้วมือลงในใบมอบอำนาจโดยมิได้กรอกข้อความ เพื่อให้ผู้รับมอบอำนาจนำไปวางเป็นประกันการค้าไม้ซุง แต่ผู้รับมอบอำนาจกับพวกกลับนำไปกรอกข้อความให้มีอำนาจทำการจำนองแทนเจ้าของที่ดิน เมื่อผู้รับจำนองได้รับจำนองไว้โดยสุจริตเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเจ้าของที่ดินจะอ้างเอาความประมาทเลินเล่อของตนมาเป็นเหตุให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่ แม้ว่าผู้รับมอบอำนาจกับพวกจะถูกศาลพิพากษาลงโทษในคดีอาญาข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมก็ตามเจ้าของที่ดินก็ต้องรับผิดชำระหนี้ไถ่ถอนจำนอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2579/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำแทนของตัวแทนเชิด: ห้างฯ ยอมรับนับถือการกระทำของจำเลยที่ 3 แม้พ้นสถานะผู้จัดการแล้ว
จำเลยที่ 3 ซึ่งเคยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่1 แต่ได้พ้นจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแล้ว ได้เปิดบัญชีกระแสรายวันและทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีเปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตและทำสัญญารับมอบสินค้าเชื่อ (ทรัสต์รีซีท) กับธนาคารโจทก์ ในนามของห้างจำเลยที่ 1และประทับตราชื่อห้างจำเลยที่ 1 ซึ่งแสดงว่าจำเลยที่ 3 กระทำแทนห้างจำเลยที่ 1 มิใช่กระทำเป็นส่วนตัวและ ห้างจำเลยที่ 1ก็ทราบดีถึงกิจการที่จำเลยที่ 3 ได้กระทำ และยอมรับเอาเป็นกิจการที่ทำแทนห้างจำเลยที่ 1 ดังนี้ ถือได้ว่าห้างจำเลยที่ 1 ได้เชิดหรือ รู้อยู่แล้วยอมให้จำเลยที่ 3 แสดงออกเป็นตัวแทนของตน มีอำนาจกระทำกิจการดังกล่าวแทนห้าง ห้างจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อธนาคารโจทก์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า แม้จำเลยที่ 3 จะพ้นจากหุ้นส่วนผู้จัดการห้างจำเลยที่ 1 แต่ก็คงกระทำแทนห้างจำเลยที่ 1 และเพื่อประโยชน์ของห้างจำเลยที่ 1 ตลอดมา เท่ากับโจทก์ตั้งประเด็นไว้ว่า ห้างจำเลยที่ 1เชิดหรือรู้อยู่แล้วยอมให้จำเลยที่ 3 แสดงออกเป็นตัวแทนของห้างจำเลยที่ 1 การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ห้างจำเลยที่ 1 เชิดจำเลยที่ 3 เป็นตัวแทน จึงมิใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2579/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนเชิด: ห้างฯ ยอมรับการกระทำของอดีตหุ้นส่วนผู้จัดการที่เปิดบัญชีและกู้เงินแทนห้างฯ ทำให้ผูกพันตามสัญญา
จำเลยที่ 3 ซึ่งเคยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่1แต่ได้พ้นจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแล้วได้เปิดบัญชีกระแสรายวันและทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีเปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตและทำสัญญารับมอบสินค้าเชื่อ (ทรัสต์รีซีท)กับธนาคารโจทก์ ในนามของห้างจำเลยที่ 1 และประทับตราชื่อห้างจำเลยที่ 1 ซึ่งแสดงว่าจำเลยที่ 3 กระทำแทนห้างจำเลยที่ 1 มิใช่กระทำเป็นส่วนตัวและห้าง ห้างจำเลยที่ 1 ก็ทราบดีถึงกิจการที่จำเลยที่ 3 ได้กระทำ และยอมรับเอาเป็นกิจการที่ทำแทนห้างจำเลยที่ 1 ดังนี้ ถือได้ว่าห้างจำเลยที่ 1 ได้เชิดหรือรู้อยู่แล้วยอมให้จำเลยที่ 3 แสดงออกเป็นตัวแทนของตน มีอำนาจกระทำกิจการดังกล่าวแทนห้าง ห้างจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อธนาคารโจทก์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า แม้จำเลยที่ 3 จะพ้นจากหุ้นส่วนผู้จัดการห้างจำเลยที่ 1 แต่ก็คงกระทำแทนห้างจำเลยที่ 1 และเพื่อประโยชน์ของห้างจำเลยที่ 1 ตลอดมา เท่ากับโจทก์ตั้งประเด็นไว้ว่า ห้างจำเลยที่ 1เชิดหรือรู้อยู่แล้วยอมให้จำเลยที่ 3 แสดงออกเป็นตัวแทนของห้างจำเลยที่ 1 การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าห้างจำเลยที่ 1 เชิดจำเลยที่ 3 เป็นตัวแทน จึงมิใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812-1813/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจขายที่ดินโดยไม่สุจริต การรู้เห็นยินยอมมีผลผูกพัน การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
มารดาทำสัญญาโอนขายที่ดินมีโฉนดของจำเลยให้แก่ผู้มีชื่อแทนจำเลย ตามใบมอบอำนาจซึ่งมารดาให้น้องจำเลยเขียนชื่อและพิมพ์ลายนิ้วมือแทนจำเลย โดยจำเลยรู้เห็นยินยอมในการกระทำนี้ จำเลยจะกล่าวอ้างในภายหลังว่าตนมิได้มอบอำนาจให้มารดาขายที่ดินแทน หาได้ไม่ เพราะเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจตัวแทน: การมอบอำนาจรับเงินกู้ ไม่ครอบคลุมถึงการเป็นตัวแทนจ่ายเงินให้จำเลย
การเป็นตัวแทน จะต้องมีการแต่งตั้งจากตัวการโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้มีอำนาจทำการแทนตัวการ และตัวแทนตกลงที่จะทำการเช่นว่านั้น
จำเลยมีหนังสือขอกู้เงินโจทก์และทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้มีชื่อเป็นตัวแทนมารับเงินจากโจทก์ ผู้มีชื่อนั้นได้รับเงินกู้จากโจทก์แล้ว แต่มิได้นำไปมอบให้แก่จำเลย
แม้ผู้มีชื่อนั้นจะรับรองต่อโจทก์ว่าจะนำเงินกู้ไปจ่ายให้แก่จำเลยก็ดี และจะจัดให้ผู้กู้ผู้ค้ำประกันลงชื่อในสัญญากู้สัญญาค้ำประกันก็ดี ก็มิใช่เป็นเรื่องโจทก์มอบอำนาจให้ไปจัดการผู้มีชื่อนั้นจึงหาใช่เป็นตัวแทนของโจทก์ไม่
การกู้เงินของจำเลยจากโจทก์ มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้กู้ยืม และตัวแทนซึ่งจำเลยมอบอำนาจให้มารับเงินกู้จากโจทก์ก็ได้รับเงินไปแล้ว ดังนี้ จำเลยซึ่งเป็นตัวการย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของตัวแทนซึ่งกระทำไปภายในขอบอำนาจ แม้ตัวแทนจะมิได้นำเงินกู้ไปมอบแก่จำเลยโจทก์ก็ฟ้องร้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขาย ผู้ซื้อ และการจัดสรรที่ดิน โดยไม่ถือว่าเป็นการเชิดตัวแทน
จำเลยเคยทำหนังสือสัญญาจะขายที่ดินที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 1717 ของโจทก์ให้แก่ ด. มีข้อความในสัญญาจะขายว่าผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อมีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินแปลงนี้และเข้าทำประโยชน์ได้ทุกอย่าง ผู้ขายจะไปทำการรังวัดแบ่งแยกชี้แนวเขตให้กับผู้ซื้อนั้นแม้จำเลยรู้ว่า ด. นำที่ดินดังกล่าวไปจัดสรรแบ่งขายตลอดจนกระทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเป็นแปลง ๆ ในนามของจำเลยก็ดี ไม่พอที่จะถือว่าจำเลยเชิด ด. เป็นตัวแทนจัดสรรที่ดิน การรังวัดแบ่งแยกเป็นเรื่องที่จำเลยปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ไปทำการรังวัดแบ่งแยกให้ ด.
of 49