คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 821

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 487 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดิน, การครอบครองทำประโยชน์, ตัวแทนเชิด, นิติกรรมอำพราง, การปฏิบัติตามสัญญา
จำเลยเคยทำหนังสือสัญญาจะขายที่ดินที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 1717 ของโจทก์ให้แก่ ด. มีข้อความในสัญญาจะขายว่าผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อมีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินแปลงนี้และเข้าทำประโยชน์ได้ทุกอย่าง ผู้ขายจะไปทำการรังวัดแบ่งแยกชี้แนวเขตให้กับผู้ซื้อนั้น แม้จำเลยรู้ว่า ด. นำที่ดินดังกล่าวไปจัดสรรแบ่งขายตลอดจนกระทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเป็นแปลง ๆ ในนามของจำเลยก็ดี ไม่พอที่จะถือว่าจำเลยเชิด ด. เป็นตัวแทนจัดสรรที่ดิน การรังวัดแบ่งแยกเป็นเรื่องที่จำเลยปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ไปทำการรังวัดแบ่งแยกให้ ด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการ, การเชิดตัวแทน, และอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา แม้ไม่มีการประชุมสามัญประจำปี กรรมการชุดเดิมยังมีอำนาจ
ข้อบังคับของบริษัทโจทก์ ข้อ 4 มีความว่า "เมื่อมีการประชุมสามัญประจำปีภายหลังแต่การจดทะเบียนบริษัท ในทุก ๆ ปีต่อไปของบริษัทก็ดี ผู้ที่เป็นกรรมการต้องออกจากตำแหน่งทั้งสิ้น ..." ดังนี้ กรรมการชุดเดิมต้องออกจากตำแหน่งต่อเมื่อมีการประชุมสามัญประจำปีในทุก ๆ ปี ถ้าไม่มีการประชุมสามัญประจำปี กรรมการก็ยังคงเป็นกรรมการของบริษัทอยู่ต่อไปหลังจากตั้งกรรมการชุดเดิมแล้ว บริษัทโจทก์ไม่มีการประชุมสามัญประจำปีกรรมการบริษัทโจทก์ชุดเดิมจึงมีอำนาจลงลายมือชื่อในใบแต่งทนายฟ้องจำเลยได้
ข้อที่ว่า บริษัทจำเลยเชิด ช. และ ส. ออกแสดงเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลย ทำการกู้เงินจากบริษัทโจทก์ และบริษัทจำเลยได้รับและถือเอาประโยชน์จากการกู้ยืมรายนี้ ย่อมอยู่ในประเด็นว่าบริษัทจำเลยได้กู้เงินโจทก์โดย ช. และส. เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทจำเลยในสัญญากู้ยืมหรือไม่
การตั้งตัวแทนที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือต้องทำเป็นหนังสือนั้นใช้แก่กรณีที่มีสัญญาตั้งตัวแทน ไม่ใช้แก่กรณีเชิดบุคคลเป็นตัวแทน
พยานโจทก์เบิกความว่า การกู้ยืมเงินรายนี้จำเลยให้ดอกเบี้ยร้อยละ2 บาทต่อเดือน ดังนี้ เป็นเพียงเสนอด้วยวาจาเบื้องต้นเท่านั้น แต่เมื่อโจทก์จำเลยตกลงทำสัญญากันแน่นอน ก็คิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน จึงไม่ฝ่าฝืนอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรรมการ, การเชิดตัวแทน, และอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา แม้ไม่มีการประชุมสามัญประจำปี กรรมการชุดเดิมยังคงมีอำนาจ
ข้อบังคับของบริษัทโจทก์ ข้อ 4 มีความว่า 'เมื่อมีการประชุมสามัญประจำปี'ภายหลังแต่การจดทะเบียนบริษัท ในทุก ๆ ปีต่อไปของบริษัทก็ดี ผู้ที่เป็นกรรมการต้องออกจากตำแหน่งทั้งสิ้น ...' ดังนี้ กรรมการชุดเดิมต้องออกจากตำแหน่งต่อเมื่อมีการประชุมสามัญประจำปีในทุก ๆ ปี ถ้าไม่มีการประชุมสามัญประจำปี กรรมการก็ยังคงเป็นกรรมการของบริษัทอยู่ต่อไป หลังจากตั้งกรรมการชุดเดิมแล้ว บริษัทโจทก์ไม่มีการประชุมสามัญประจำปีกรรมการบริษัทโจทก์ชุดเดิมจึงมีอำนาจลงลายมือชื่อในใบแต่งทนายฟ้องจำเลยได้
ข้อที่ว่า บริษัทจำเลยเชิด ช. และ ส. ออกแสดงเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลย ทำการกู้เงินจากบริษัทโจทก์และบริษัทจำเลยได้รับและถือเอาประโยชน์จากการกู้ยืมรายนี้ย่อมอยู่ในประเด็นว่าบริษัทจำเลยได้กู้เงินโจทก์โดย ช. และส. เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทจำเลยในสัญญากู้ยืมหรือไม่
การตั้งตัวแทนที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือต้องทำเป็นหนังสือนั้นใช้แก่กรณีที่มีสัญญาตั้งตัวแทนไม่ใช้แก่กรณีเชิดบุคคลเป็นตัวแทน
พยานโจทก์เบิกความว่า การกู้ยืมเงินรายนี้จำเลยให้ดอกเบี้ยร้อยละ2 บาทต่อเดือน ดังนี้ เป็นเพียงเสนอด้วยวาจาเบื้องต้นเท่านั้น แต่เมื่อโจทก์จำเลยตกลงทำสัญญากันแน่นอน ก็คิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน จึงไม่ฝ่าฝืนอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนจำนำทรัพย์ ศาลยืนยันสิทธิยึดทรัพย์ของผู้รับจำนำ
โจทก์มอบรถยนต์ของโจทก์พร้อมด้วยทะเบียนรถและใบโอนรถซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ในช่องผู้โอน ให้ส.นำไปขายผู้อื่น.แล้วส.นำรถยนต์ไปจำนำไว้กับจำเลยผู้ซึ่งรับจำนำไว้โดยสุจริต. การกระทำของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการเชิดส.ให้เป็นตัวแทนของโจทก์. ฉะนั้น โจทก์จะติดตามเอารถยนต์คืนโดยไม่ไถ่ถอนการจำนำก่อนหาได้ไม่. จำเลยมีสิทธิยึดรถยนต์ไว้ได้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้จนครบถ้วน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทน การจำนำ และสิทธิของผู้รับจำนำ: โจทก์มอบรถพร้อมเอกสารให้ตัวแทนนำไปจำนำ จำเลยมีสิทธิยึดรถจนกว่าจะได้รับชำระหนี้
โจทก์มอบรถยนต์ของโจทก์พร้อมด้วยทะเบียนรถและใบโอนรถซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ในช่องผู้โอน ให้ ส.นำไปขายผู้อื่น แล้ว ส.นำรถยนต์ไปจำนำไปกับจำเลยผู้ซึ่งรับจำนำไว้โดยสุจริต การกระทำของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการเชิด ส. ให้เป็นตัวแทนของโจทก์ ฉะนั้น โจทก์จะติดตามเอารถยนต์คืนโดยไม่ไถ่ถอนการจำนำก่อนหาได้ไม่ จำเลยมีสิทธิยึดรถยนต์ไว้ได้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้จนครบถ้วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนจำนำทรัพย์ โจทก์จะติดตามเอารถคืนต้องไถ่ถอนการจำนำก่อน
โจทก์มอบรถยนต์ของโจทก์พร้อมด้วยทะเบียนรถและใบโอนรถซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ในช่องผู้โอน ให้ส.นำไปขายผู้อื่นแล้วส.นำรถยนต์ไปจำนำไว้กับจำเลยผู้ซึ่งรับจำนำไว้โดยสุจริต การกระทำของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการเชิดส.ให้เป็นตัวแทนของโจทก์ ฉะนั้น โจทก์จะติดตามเอารถยนต์คืนโดยไม่ไถ่ถอนการจำนำก่อนหาได้ไม่จำเลยมีสิทธิยึดรถยนต์ไว้ได้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้จนครบถ้วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121-1122/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ขายฝากและการรับผิดแทนตัวแทน แม้ไม่มีเอกสารมอบอำนาจ
โจทก์ไม่รู้หนังสือ. เชิดบุตรของตนเป็นตัวแทนเพื่อติดต่อทางเอกสารกับจำเลยตลอดมา เมื่อจำเลยชำระเงินให้โจทก์. โจทก์ให้บุตรทำใบรับเงินให้จำเลย โจทก์ย่อมต้องรับผิดต่อจำเลยผู้สุจริตเสมือนว่าบุตรนั้นเป็นตัวแทนของตน. โดยจำเลยไม่จำต้องมีหนังสือแต่งตั้งตัวแทนมาแสดง.
บทบัญญัติมาตรา 653 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ว่า การนำสืบถึงการใช้หนี้เงินกู้ จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงนั้น. ไม่นำมาใช้บังคับ.ในกรณีชำระเงินไถ่การขายฝาก.
เอกสารใบรับเงินซึ่งมิได้ปิดอากรแสตมป์ในวันออกใบรับเงินนั้น. เมื่อมีการปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว. แม้จะมิได้เสียเงินเพิ่มอากร. ศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121-1122/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ขายฝากและการรับรองการชำระหนี้โดยตัวแทนที่มิได้มีหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์ไม่รู้หนังสือ เชิดบุตรของตนเป็นตัวแทนเพื่อติดต่อทางเอกสารกับจำเลยตลอดมา เมื่อจำเลยชำระเงินให้โจทก์ โจทก์ให้บุตรทำใบรับเงินให้จำเลย โจทก์ย่อมต้องรับผิดต่อจำเลยผู้สุจริตเสมือนว่าบุตรนั้นเป็นตัวแทนของตน โดยจำเลยไม่จำต้องมีหนังสือแต่งตั้งตัวแทนมาแสดง
บทบัญญัติมาตรา 653 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ว่า การนำสืบถึงการใช้หนี้เงินกู้ จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงนั้น ไม่นำมาใช้บังคับ ในกรณีชำระเงินไถ่การขายฝาก
เอกสารใบรับเงินซึ่งมิได้ปิดอากรแสตมป์ในวันออกใบรับเงินนั้น เมื่อมีการปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว แม้จะมิได้เสียเงินเพิ่มอากร ศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121-1122/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ขายฝากโดยตัวแทนที่ไม่ได้รับมอบอำนาจ และการรับฟังพยานหลักฐาน
โจทก์ไม่รู้หนังสือ เชิดบุตรของตนเป็นตัวแทนเพื่อติดต่อทางเอกสารกับจำเลยตลอดมา เมื่อจำเลยชำระเงินให้โจทก์ โจทก์ให้บุตรทำใบรับเงินให้จำเลย โจทก์ย่อมต้องรับผิดต่อจำเลยผู้สุจริตเหมือนว่าบุตรนั้นเป็นตัวแทนของตน โดยจำเลยไม่จำต้องมีหนังสือแต่งตั้งตัวแทนมาแสดง
บทบัญญัติมาตรา 653 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ว่า การนำสืบถึงการใช้หนี้เงินกู้ จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงนั้น ไม่นำมาใช้บังคับในกรณีชำระเงินไถ่การขายฝาก
เอกสารใบรับเงินซึ่งมิได้ปิดอากรแสตมป์ในวันออกใบรับเงินนั้น เมื่อมีการปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว แม้จะมิได้เสียเงินเพิ่มอากร ศาลก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาตกลงชำระหนี้เป็นหลักฐานรับสภาพหนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง แม้มีข้อพิพาทเรื่องคุณภาพงาน
จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์แก้ไขปรับปรุงเครื่องปรับอากาศของจำเลยด้วยสัมภาระของโจทก์ โดยชำระสินจ้างให้โจทก์แล้วบางส่วน นอกนั้นจะชำระเมื่องานเสร็จ โจทก์ลงมือแก้ไขปรับปรุงเครื่องปรับอากาศนั้นแล้ว แต่ทำความเย็นไม่ได้ตามที่กำหนดในสัญญาจ้าง จำเลยแจ้งให้โจทก์แก้ไข ก็แก้ไขไม่สำเร็จ จนจำเลยต้องจ้างผู้อื่นแก้ไข ต่อมาจำเลยได้ทำสัญญากับโจทก์ขอผ่อนชำระสินจ้างที่ค้างชำระเป็นสี่งวดหากผิดนัดยอมเสียดอกเบี้ยให้ด้วยจำเลยชำระงวดแรกแล้ว อีกสามงวดไม่ยอมชำระ โดยอ้างว่าโจทก์ไม่แก้ไขเครื่องปรับอากาศให้ทำความเย็นได้ตามสัญญาจ้าง สัญญาที่จำเลยทำกับโจทก์ครั้งหลังนี้ ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะมิได้กล่าวถึงเรื่องค่าเสียหายในการผิดสัญญาจ้าง เป็นแต่เพียงความตกลงในการชำระหนี้เท่านั้น สิทธิและความรับผิดของโจทก์จำเลยซึ่งมีอยู่ต่อกันตามสัญญาจ้างยังไม่ระงับสิ้นไป สัญญาตกลงชำระหนี้ไม่ปิดปากจำเลยมิให้โต้เถียงว่าเครื่องปรับอากาศซึ่งโจทก์รับจ้างติดตั้งชำรุดบกพร่องทำความเย็นไม่ได้ตามที่กำหนด ซึ่งโจทก์จะต้องรับผิดชอบ
แม้โจทก์แก้ไขปรับปรุงเครื่องปรับอากาศทำความเย็นไม่ได้ตามที่กำหนดในสัญญาจ้าง โจทก์พยายามแก้ไข แต่แก้ไขไม่สำเร็จ จนจำเลยต้องจ้างผู้อื่นแก้ไขซึ่งโจทก์จะต้องรับผิดชอบ แต่เมื่อโจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระสินจ้างที่ค้างชำระแทนที่จำเลยจะใช้สิทธิยึดหน่วงสินจ้างไว้ก่อนจนกว่าโจทก์จะแก้ไขความชำรุดบกพร่องสำเร็จ จำเลยกลับยอมทำสัญญาตกลงจะผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ ถือได้ว่าจำเลยสละสิทธิยึดหน่วงที่จำเลยมีอยู่เสียแล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระสินจ้างตามสัญญาตกลงชำระหนี้นั้น
จำเลยเชิดบุคคลหนึ่งให้มีอำนาจทำการแทนบริษัทจำเลยได้ เมื่อบุคคลนั้นทำสัญญาในนามจำเลยตกลงจะผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ สัญญานั้นย่อมสมบูรณ์ผูกพันจำเลย จำเลยจะยกเอาข้อบังคับของบริษัทมายันโจทก์หรือบุคคลภายนอกไม่ได้
การที่จำเลยทำสัญญากับโจทก์ยอมตกลงจะผ่อนชำระหนี้สินจ้างที่ค้างชำระให้แก่โจทก์เป็นงวด ๆ นั้น ย่อมเป็นการรับสภาพหนี้ อันมีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง.
(ข้อกฎหมายตามวรรคแรก วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2512)
of 49