พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 709/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับทางศุลกากรต้องอาศัยความยินยอมของผู้ถูกปรับ การหักเงินประกันค่าอากรเพื่อชำระค่าปรับโดยไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับกรมศุลกากรจำเลยคืนเงินอากรขาเข้าของโจทก์ที่วางเป็นประกันไว้แล้วเหลืออยู่จากจำเลย ไม่ใช่เป็นเรื่องเรียกร้องให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิด จึงนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 มาใช้บังคับมิได้
การเปรียบเทียบปรับโดยอธิบดีตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ มาตรา 102 ก็ดี หรือโดยคณะกรรมการเปรียบเทียบตามมาตรา 102 ทวิ ก็ดี จะต้องปรากฏว่าผู้จะถูกฟ้องได้ยินยอมและใช้ค่าปรับตามที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบได้เปรียบเทียบด้วยจึงจะชอบ
กรมศุลกากรจำเลยเห็นว่าโจทก์มีความผิดฐานสำแดงเท็จชนิดและราคาสินค้าผ้าเพื่อหลีกเลี่ยงอากร จึงเสนอคณะกรรมการเปรียบเทียบพิจารณาปรับโจทก์สองเท่าของอากรที่ขาด คณะกรรมการเปรียบเทียบมีมติเห็นชอบด้วย แล้วนิติกรของจำเลยได้มีหนังสือเรียกโจทก์มาทำกความตกลงตามมติของคณะกรรมการเปรียบเทียบ แต่โจทก์ไม่มาติดต่อจำเลยจึงส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ดังนี้ แสดงว่าโจทก์หาได้ยินยอมตามที่เปรียบเทียบและใช้ค่าปรับแต่อย่างใดไม่ ส่วนที่โจทก์ทำสัญญาทัณฑ์บนไว้กับกรมศุลกากรจำเลยพร้อมกับนำหลักฐานสัญญาค้ำประกันของธนาคารมาวางค้ำประกันไว้ ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ขอรับสินค้าที่ถูกกักไว้เพื่อไปจำหน่าย มิใช่เรื่องที่โจทก์ยินยอมให้ปรับ จำเลยจึงไม่มีอำนาจสั่งปรับโจทก์ และจะหักเงินประกันค่าอากรขาเข้าซึ่งเหลืออยู่ที่จำเลยชำระค่าปรับไม่ได้ต้องคืนให้โจทก์ไป
การเปรียบเทียบปรับโดยอธิบดีตามพระราชบัญญัติศุลกากรฯ มาตรา 102 ก็ดี หรือโดยคณะกรรมการเปรียบเทียบตามมาตรา 102 ทวิ ก็ดี จะต้องปรากฏว่าผู้จะถูกฟ้องได้ยินยอมและใช้ค่าปรับตามที่ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบได้เปรียบเทียบด้วยจึงจะชอบ
กรมศุลกากรจำเลยเห็นว่าโจทก์มีความผิดฐานสำแดงเท็จชนิดและราคาสินค้าผ้าเพื่อหลีกเลี่ยงอากร จึงเสนอคณะกรรมการเปรียบเทียบพิจารณาปรับโจทก์สองเท่าของอากรที่ขาด คณะกรรมการเปรียบเทียบมีมติเห็นชอบด้วย แล้วนิติกรของจำเลยได้มีหนังสือเรียกโจทก์มาทำกความตกลงตามมติของคณะกรรมการเปรียบเทียบ แต่โจทก์ไม่มาติดต่อจำเลยจึงส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ดังนี้ แสดงว่าโจทก์หาได้ยินยอมตามที่เปรียบเทียบและใช้ค่าปรับแต่อย่างใดไม่ ส่วนที่โจทก์ทำสัญญาทัณฑ์บนไว้กับกรมศุลกากรจำเลยพร้อมกับนำหลักฐานสัญญาค้ำประกันของธนาคารมาวางค้ำประกันไว้ ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ขอรับสินค้าที่ถูกกักไว้เพื่อไปจำหน่าย มิใช่เรื่องที่โจทก์ยินยอมให้ปรับ จำเลยจึงไม่มีอำนาจสั่งปรับโจทก์ และจะหักเงินประกันค่าอากรขาเข้าซึ่งเหลืออยู่ที่จำเลยชำระค่าปรับไม่ได้ต้องคืนให้โจทก์ไป