คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุเทพ กิจสวัสดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5576/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างปิดงานขาดอายุความ ย่อมทำให้สิทธิรับเงินเพิ่มร้อยละสิบห้าหายไปด้วย
โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยฟ้องเรียกเอาค่าจ้างจากจำเลยในระหว่างที่จำเลยปิดงานและโจทก์ไม่ได้ทำงานตามปกติค่าจ้างที่โจทก์ฟ้องเรียกนี้ไม่ใช่เงินเดือนค้างจ่ายที่มีกำหนดจ่ายเป็นระยะเวลาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 แต่เป็นสินจ้างคนงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(9) มีอายุความ2 ปี ลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 31 วรรคสองนั้น ต้องมีสิทธิได้รับค่าจ้างที่ค้างชำระด้วยจึงจะมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มเมื่อค่าจ้างที่โจทก์ฟ้องเรียกจากจำเลยขาดอายุความ สิทธิในการรับเงินเพิ่มย่อมหมดไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5544/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินและการสันนิษฐานเรื่องส่วนแบ่งเมื่อสารบัญจดทะเบียนไม่ได้ระบุ
โจทก์และจำเลยทั้งหกทำบันทึกข้อตกลงขอรังวัดแบ่งกรรมสิทธิ์รวมต่อเจ้าพนักงานที่ดินโดยโจทก์ยอมให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4แบ่งแยกที่ดินออกไป และโจทก์ยอมรับส่วนที่เหลือจากการแบ่งแยกโดยยอมรับว่าที่ดินส่วนที่เหลือจากการแบ่งแยกเป็นกรรมสิทธิ์รวมของโจทก์ จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 เช่นนี้ การรังวัดแบ่งแยกที่ดินย่อมผูกพันโจทก์ โจทก์ จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินส่วนที่เหลือ เมื่อสารบัญจดทะเบียนมิได้ระบุเนื้อที่ดินส่วนของโจทก์ไว้เป็นพิเศษ จึงต้องสันนิษฐานว่าโจทก์ จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6 มีส่วนคนละเท่ากัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5436/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างเนื่องจากเกษียณอายุเข้าข่ายเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย แม้กฎหมายเฉพาะจะกำหนดคุณสมบัติพนักงานไว้
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 11)ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2532 ข้อ 7 บัญญัติว่านายจ้าง ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง กรณีสัญญาจ้างมี กำหนดระยะเวลาการจ้าง แน่นอนและมีลักษณะเป็นครั้งคราวเป็นการจร เป็นไปตามฤดูกาลหรือเป็นงานตามโครงการด้วย แต่จำเลยมิได้ให้การ ต่อสู้ถึงลักษณะงานว่าเป็นการจ้างตามที่กำหนดไว้ดังกล่าว แม้จำเลย จะฎีกาว่าเป็นการจ้างมีกำหนดระยะเวลาไว้แน่นอนก็เป็นฎีกาที่ ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย การที่พนักงานพ้นจากตำแหน่งเพราะมีอายุครบ 60 ปี ตามพ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจฯ เป็นการกำหนดคุณสมบัติโดยทั่ว ๆ ไปของพนักงาน และให้รัฐวิสาหกิจ ถือปฏิบัติเป็นแนวเดียวกันเท่านั้น แต่การพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุ ดังกล่าวจะเป็นการเลิกจ้างหรือไม่ ต้องพิจารณาตาม ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46 วรรคสอง ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าว ถือ ว่าการเกษียณอายุเป็นการเลิกจ้างแล้ว เพราะโจทก์ต้องออกจากงาน โดยไม่ได้กระทำผิดตามข้อ 47.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5332/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีพินัยกรรมโมฆะและการคำนวณทุนทรัพย์ค่าขึ้นศาล
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะ เป็นการเรียกร้องให้ทรัพย์ตามพินัยกรรมคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท เป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้จึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ตามราคาทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5332/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมไม่เป็นโมฆะ: การพิสูจน์เจตนาและสติสัมปชัญญะของผู้ทำพินัยกรรม และการคำนวณค่าฤชาธรรมเนียม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะ อันเป็นการเรียกร้องให้ทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมคืนมาเป็นทรัพย์มรดกเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ผู้เป็นทายาท จึงเป็นคำขอปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4761/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนรับเงินค่าที่ดิน แม้ไม่มีหลักฐานการแต่งตั้ง ก็มีหน้าที่ส่งมอบเงินให้เจ้าของที่ดิน
จำเลยได้รับเงินค่าขายที่ดินของโจทก์ไว้ในฐานะเป็นผู้กระทำการแทนโจทก์ผู้ขาย จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องส่งมอบ ให้แก่โจทก์ แม้โจทก์ไม่มีหลักฐานการตั้งจำเลยเป็นตัวแทน ในกิจการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ก็หาเป็นเหตุให้จำเลยพ้นจาก ความรับผิดที่ต้องส่งเงินที่ได้รับไว้แทนคืนแก่โจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4761/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ส่งมอบเงินค่าขายที่ดิน: แม้ไม่มีหลักฐานการตั้งตัวแทน ก็ยังต้องรับผิดชอบ
จำเลยได้รับเงินค่าขายที่ดินของโจทก์ไว้ในฐานะเป็นผู้กระทำแทนโจทก์ผู้ขาย จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องส่งมอบให้แก่โจทก์ แม้โจทก์ไม่มีหลักฐานการตั้งจำเลยเป็นตัวแทนในกิจการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ก็หาเป็นเหตุให้จำเลยพ้นจากความรับผิดที่ต้องส่งเงินที่ได้รับไว้แทนคืนแก่โจทก์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4625/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิของประกันภัยและการเรียกร้องค่าเสียหายส่วนที่เหลือจากผู้ทำละเมิด
ค่าสินไหมทดแทนที่ผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ไปเป็นจำนวนเพียงใดผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยและของผู้รับประโยชน์ ซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกเพียงนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 คดีนี้โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 900,000 บาท เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากผู้รับประกันภัยไปบางส่วนเป็นเงิน 300,000 บาทแล้ว โจทก์จึงคงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยผู้ทำละเมิดในจำนวนของวินาศภัยของทรัพย์ที่เอาประกันภัยเฉพาะส่วนที่เหลืออีก 600,000 บาท เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4295/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ทะเบียนบ้านส่งผลต่อการแจ้งข้อฟ้อง ทำให้จำเลยไม่ทราบคดี และมีเหตุสมควรให้พิจารณาคดีใหม่
เจ้าหน้าที่ทะเบียนบ้านบันทึกในสำเนาทะเบียนบ้าน ช่องย้ายออกของบุตรจำเลย ว่าย้ายไปที่บ้านเลขที่ 40/3 ถนนเพชรเกษม ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่ช่องย้ายออกของจำเลย เจ้าหน้าที่ไม่ได้บันทึกชื่อถนน จึงเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ทะเบียนบ้าน ไม่ใช่ความบกพร่องของจำเลย ดังนั้นหากมีการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องไปยังที่อยู่ใหม่ของจำเลยโดยระบุชื่อถนนดังกล่าวลงไปให้ชัดเจน จำเลยก็มีโอกาสทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง และสามารถยื่นคำให้การแก้คดีได้ การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาของจำเลยจึงไม่อาจถือว่าเป็นไปโดยจงใจและไม่มีเหตุอันสมควรที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายนัดและคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยไม่ทราบเพราะไม่เคยอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับที่ลงประกาศศาลดังกล่าวจึงเป็นพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ เมื่อจำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันที่พฤติการณ์นั้นได้สิ้นสุดลง และภายใน6 เดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 จึงมีเหตุสมควรให้พิจารณาคดีใหม่ตามคำขอของจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4295/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความบกพร่องเจ้าหน้าที่ทะเบียนบ้านส่งผลต่อการแจ้งข้อฟ้อง การขาดนัดยื่นคำให้การไม่ถือจงใจ ศาลพิจารณาคดีใหม่ได้
ในช่องย้ายออกของบุตรจำเลย 3 คน เจ้าหน้าที่ทะเบียนบ้านบันทึกว่าย้ายไปที่บ้านเลขที่ 40/3 ถนนเพชรเกษม ตำบลหาดใหญ่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่ช่องย้ายออกของจำเลย เจ้าหน้าที่บันทึกขาด ถนนเพชรเกษม ไป จึงเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ทะเบียนบ้าน ไม่ใช่ความบกพร่องของจำเลย ดังนั้น หากมีการส่ง หมายเรียกและสำเนาฟ้องไปยังที่อยู่ใหม่ของจำเลย โดยระบุชื่อถนน ดังกล่าวลงไปให้ชัดเจน จำเลยก็มีโอกาสทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง และ สามารถยื่น คำให้การแก้คดีได้ การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัด พิจารณาของจำเลยจึงไม่อาจถือว่าเป็นไปโดยจงใจและไม่มีเหตุอันสมควร ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประกาศหนังสือพิมพ์ กำหนดวันให้จำเลยยื่น คำให้การแก้คดี และให้ประกาศหนังสือพิมพ์ เรื่องคำบังคับ ให้จำเลย ปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยไม่ทราบเพราะไม่เคยอ่าน หนังสือพิมพ์ฉบับที่ลงประกาศศาลดังกล่าว จึงเป็นพฤติการณ์นอกเหนือ ไม่อาจบังคับได้ เมื่อจำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่พฤติการณ์นั้นได้สิ้นสุดลงและภายใน 6 เดือนนับแต่ วันที่ได้ยึดทรัพย์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 จึง มีเหตุสมควรให้พิจารณา คดีใหม่ตามคำขอของจำเลย.
of 33