พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3302/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด/สัญญาจ้างแรงงาน: นับแต่วันเกิดเหตุ/จ่ายค่าเสียหาย/รับสภาพหนี้ และผลกระทบต่อการฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยได้ขับรถยนต์โดยสารของโจทก์ไปในทางการที่จ้าง โดยขับรถด้วยความประมาททำให้ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย การบรรยายฟ้องดังกล่าวโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน อายุความฟ้องร้องจึงมีกำหนด 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 ค่าซ่อมรถยนต์โดยสารคันที่จำเลยขับ และค่าซ่อมกำแพงอู่รถของโจทก์ซึ่งเกิดจากการขับรถโดยประมาทของจำเลย ถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์โดยตรง โจทก์อาจเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ได้นับแต่วันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันที่ก่อให้เกิดความเสียหายอันเป็นขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ อายุความจึงนับเริ่มตั้งแต่นั้น มิใช่นับเริ่มแต่วันที่โจทก์ใช้ค่าซ่อมรถยนต์โดยสารและกำแพงอู่รถของโจทก์ที่เสียหายให้บริษัทผู้รับจ้างซ่อม ค่าซ่อมเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงและค่าซ่อมรถของบุคคลภายนอก ซึ่งจำเลยกระทำละเมิดต่อบุคคลภายนอกสองรายและโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกสองรายไม่พร้อมกัน อายุความฟ้องร้องซึ่งมีกำหนด 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 164 ย่อมเริ่มต้นนับไม่พร้อมกัน โดยนับแต่วันที่โจทก์ได้ใช้เงินแก่บุคคลภายนอกไปอันเป็นขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ ภายในกำหนดอายุความ จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แก่โจทก์อายุความย่อมสะดุดหยุดลงในวันทำหนังสือรับสภาพหนี้แล้วเริ่มต้นนับใหม่ตั้งแต่วันนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินสร้างลานจอดรถและอาคารพาณิชย์: สิทธิเช่าเป็นไปตามสัญญาแต่ละฉบับ และข้อเสนอเช่าต่อไม่ใช่ข้อผูกมัด
สัญญาเช่าที่ดินที่กำหนดให้ผู้เช่าสร้างลานจอดรถยนต์แล้วมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่านั้น เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าการเช่าธรรมดา แม้ที่ดินตามสัญญาเช่าดังกล่าวจะเป็นที่ดินส่วนหนึ่งของสัญญาเช่าอีกฉบับหนึ่งซึ่งระบุให้ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องสร้างอาคารพาณิชย์แล้วจดทะเบียนยกกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ให้เช่า โดยผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าเช่าอาคารพาณิชย์มีกำหนด 25 ปี นับแต่วันก่อสร้างเสร็จก็ตาม ก็ไม่เกี่ยวกับการเช่าที่ดินเพื่อทำลานจอดรถยนต์ จำเลยจะมีสิทธิเช่าที่ดินอันเป็นลานจอดรถยนต์ได้นานเพียงใดต้องดูระยะเวลาแห่งการเช่านั้นเป็นเกณฑ์
ท้ายหนังสือบอกเลิกการเช่าของโจทก์ที่มีมาถึงจำเลยมีข้อความว่า ถ้าจำเลยประสงค์จะเช่าต่อให้ติดต่อแผนกที่ดินและโรงเรือนของโจทก์ เป็นเพียงคำแนะนำของโจทก์เท่านั้นไม่ใช่คำเสนอให้เช่าของโจทก์ แม้จำเลยจะได้สนองตอบรับการเช่าก็ไม่ถือว่าโจทก์จำเลยได้ต่อสัญญาเช่ากันอีก
ปัญหาเรื่องอายุความในทางแพ่งเป็นข้อที่ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
เงินที่จำเลยนำไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์เป็นค่าเช่ารายเดือน มิใช่วางเป็นค่าเสียหาย โจทก์ไปขอรับเงินเป็นค่าเสียหายแต่พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานวางทรัพย์ไม่ยอมจ่ายให้โจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยได้
ท้ายหนังสือบอกเลิกการเช่าของโจทก์ที่มีมาถึงจำเลยมีข้อความว่า ถ้าจำเลยประสงค์จะเช่าต่อให้ติดต่อแผนกที่ดินและโรงเรือนของโจทก์ เป็นเพียงคำแนะนำของโจทก์เท่านั้นไม่ใช่คำเสนอให้เช่าของโจทก์ แม้จำเลยจะได้สนองตอบรับการเช่าก็ไม่ถือว่าโจทก์จำเลยได้ต่อสัญญาเช่ากันอีก
ปัญหาเรื่องอายุความในทางแพ่งเป็นข้อที่ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
เงินที่จำเลยนำไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์เป็นค่าเช่ารายเดือน มิใช่วางเป็นค่าเสียหาย โจทก์ไปขอรับเงินเป็นค่าเสียหายแต่พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานวางทรัพย์ไม่ยอมจ่ายให้โจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินและลานจอดรถยนต์: การสิ้นสุดสัญญาและการคิดดอกเบี้ย
สัญญาเช่าที่ดินที่กำหนดให้ผู้เช่าสร้างลานจอดรถยนต์ แล้ว มอบ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่านั้น เป็นสัญญาต่างตอบแทน ยิ่ง กว่า การ เช่าธรรมดา แม้ที่ดินตามสัญญาเช่าดังกล่าวจะเป็นที่ดิน ส่วนหนึ่ง ของ สัญญาเช่าอีกฉบับหนึ่งซึ่งระบุให้ผู้เช่ามีหน้าที่ต้อง สร้างอาคารพาณิชย์แล้ว จดทะเบียนยกกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ให้เช่า โดยผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าเช่าอาคารพาณิชย์มีกำหนด 25 ปี นับแต่ วันก่อสร้างเสร็จก็ตาม ก็ไม่เกี่ยว กับการเช่าที่ดินเพื่อทำลานจอดรถยนต์ จำเลยจะมีสิทธิเช่าที่ดินอันเป็นลานจอด รถยนต์ ได้ นานเพียงใดต้องดูระยะเวลาแห่งการเช่านั้นเป็นเกณฑ์ ท้ายหนังสือบอกเลิกการเช่าของโจทก์ที่มีมาถึงจำเลยมีข้อความว่า ถ้าจำเลยประสงค์จะเช่าต่อให้ติดต่อแผนกที่ดินและโรงเรือนของโจทก์ เป็นเพียงคำแนะนำของโจทก์เท่านั้น ไม่ใช่คำเสนอให้เช่า ของโจทก์ แม้จำเลยจะได้สนองตอบรับการเช่าก็ไม่ถือว่าโจทก์จำเลยได้ต่อสัญญาเช่ากันอีก ปัญหาเรื่องอายุความในทางแพ่งเป็นข้อที่ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เงินที่จำเลยนำไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์เป็นค่าเช่ารายเดือน มิใช่วางเป็นค่าเสียหาย โจทก์ไปขอรับเงินเป็นค่าเสียหาย แต่พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานวางทรัพย์ไม่ยอมจ่ายให้ โจทก์จึง มีสิทธิ เรียกดอกเบี้ยจากจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2725/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ภูมิลำเนาของจำเลยและกำหนดเวลาการยื่นคำขอพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยทั้งสองฎีกาว่าจำเลยทั้งสองมีสิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนด 6 เดือน นับแต่วันยึดทรัพย์ตามมาตรา 208 วรรคหนึ่งตอนท้าย เมื่อมีการส่งคำบังคับโดยเจ้าหน้าที่ศาลให้แก่จำเลยทั้งสองโดยการปิดคำบังคับไว้ ณ ภูมิลำเนาจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม2531 จำเลยทั้งสองยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2531จึงเลยกำหนด 15 วัน นับจากวันที่การส่งคำบังคับมีผลใช้ได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 79 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2686/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิ่งราวทรัพย์สลากกาชาด: พยานหลักฐานโจทก์น่าเชื่อถือกว่าจำเลย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ผู้เสียหายซื้อสลากกาชาดถูกรางวัลรถจักรยานยนต์จำเลยแย่งสลากกาชาดฉบับดังกล่าวไปจากมือผู้เสียหายนำไปขอรับรถจักรยานยนต์ที่ถูกรางวัล ดังนี้เป็นการลักทรัพย์สลากกาชาดโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าจำเลยมีความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2565/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องสัญญาซื้อขาย, การนำสืบหลักฐาน, สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายและการหักกลบลบหนี้
เมื่อจำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้คดีว่า จ.หาใช่หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ไม่ การที่ จ.ลงลายมือชื่อในสัญญาซื้อขายเป็นการทำในฐานะส่วนตัว โจทก์ย่อมมีสิทธินำสืบได้ว่าผู้ขายคือโจทก์เพราะในสัญญาซื้อขายดังกล่าวได้ระบุด้วยว่าผู้ขายคือโจทก์และมีตราประทับของโจทก์ด้วย สัญญาซื้อขายข้อ 10 กำหนดว่า ถ้าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดก็ตาม จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 2 แล้วโจทก์ยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาแก่จำเลยที่ 2 โดยสิ้นเชิงภายใน 30 วันนับแต่เมื่อได้รับแจ้งจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นข้อกำหนดเพียงให้สิทธิจำเลยที่ 2 เรียกค่าเสียหายจากโจทก์เท่านั้น มิได้ให้สิทธิจำเลยที่ 2 ไม่ต้องชำระราคาที่ค้างหรือหักกลบลบหนี้กันได้เอง หากจำเลยที่ 2 มีความเสียหายอย่างไรก็ชอบที่จะฟ้องแย้งหรือหักกลบลบหนี้เข้ามาในคำให้การทั้งตามคำให้การของจำเลยก็ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนค่าเสียหายที่แน่นอนอันพอจะถือได้ว่าจำเลยประสงค์จะให้เกิดประเด็นในเรื่องหักกลบลบหนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2555/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรส: การนำสืบเอกสารการสมรสก่อนซื้อทรัพย์สินพิพาทพิสูจน์สถานะเป็นสินสมรสได้
การที่ผู้ร้องที่ 1 นำสืบพยานบุคคลและพยานเอกสารคือสำเนาสูติบัตร สำเนาใบสำคัญการหย่าเพื่อแสดงว่าผู้ร้องที่ 1 กับ จำเลยที่ 2 จดทะเบียนสมรสกันจริงพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจดทะเบียนการหย่าให้ กับนำสืบสำเนาหนังสือยินยอมว่าในวันที่จำเลยที่ 2 ไปจดทะเบียนซื้อและจำนองที่ดินกับบ้านนั้น ผู้ร้องที่ 1 ให้ความยินยอมแล้วดังนี้ผู้ร้องมิได้นำสืบพยานบุคคลเพียงอย่างเดียว แม้มิได้นำทะเบียนสมรสมาแสดง ก็ไม่ใช่การนำสืบพยานบุคคลแทนพยานเอกสารไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94 เมื่อการจดทะเบียนสมรสระหว่างผู้ร้องที่ 1 กับจำเลยที่ 2เกิดขึ้นก่อนวันที่จำเลยที่ 2 ซื้อที่ดินและบ้านพิพาท ที่ดินและบ้านพิพาทจึงเป็นสินสมรส.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2548/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดี: การพิสูจน์สถานะผู้กระทำการแทนและดุลพินิจศาลที่ไม่รับฟังพยาน
ข้อเท็จจริงว่า นายอาษายังคงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวอ้างและไม่ใช่ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปตาม ป.วิ.พ. มาตรา84(1) เมื่อโจทก์ไม่นำสืบโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ที่โจทก์อ้างว่า โจทก์ได้นำพยานมาเบิกความเพื่อยืนยันว่านายอาษายังคงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ แต่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นว่าเป็นเรื่องที่ศาลจะรู้ได้เองไม่จำต้องสืบพยานแล้วบันทึกเพียงว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 นั้นเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้โจทก์นำพยานเข้าสืบในประเด็นดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อโจทก์ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2475/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีอาวุธปืนและการตีความว่าอาวุธปืนมีทะเบียนหรือไม่ ศาลฎีกาพิจารณาจากคำให้การและหลักฐานที่ปรากฏ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนไม่ปรากฏหลักฐานใบอนุญาตให้มีและใช้จากนายทะเบียนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยยื่นคำให้การมีใจความว่า จำเลยขอให้การรับสารภาพ ความจริงอาวุธปืนตามฟ้องมีหมายเลขทะเบียน แต่เมื่อพนักงานสอบสวนส่งไปตรวจพิสูจน์ ปรากฏว่าไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากทะเบียนอาวุธปืนชำรุด หากสามารถตรวจสอบได้ก็จะเป็นประโยชน์แก่จำเลย ขอให้ศาลรอการลงโทษด้วย ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า จำเลยยื่นคำให้การรับสารภาพศาลสอบ แล้วจำเลยยืนยันให้การตามนี้ โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน เช่นนี้ คำให้การของจำเลยดังกล่าวเป็นการปฏิเสธว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองและพาไปโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นอาวุธปืนมีทะเบียน เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ต้องฟังข้อเท็จจริงว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองและพาไปโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นจำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7,72 วรรคสาม และมาตรา 8 ทวิ,72 ทวิ วรรคสอง เท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2343/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักเงินประกันตัวเพื่อชำระหนี้ส่วนตัวของลูกหนี้ ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 แต่สำหรับข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 นั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง จึงห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อหาความผิดดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220