คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุไร คังคะเกตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3908/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอทุเลาการชำระค่าปรับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย: ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากสามารถขอคืนเงินได้หากชนะคดี
โจทก์ขอทุเลาการชำระค่าปรับตามคำสั่งของจำเลยที่ 5ในฐานะคณะกรรมการบริหารกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายซึ่งสั่งให้โจทก์ชำระค่าปรับแก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกองทุนดังกล่าวตั้งขึ้นโดยกฎหมาย มีฐานะเป็นนิติบุคคล และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการบริหารกองทุนตั้งขึ้นและมีหน้าที่ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 23,24 และ 25 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 หากโจทก์ชนะคดีก็ไม่เป็นการยากที่จะขอคืนเงินค่าปรับที่โจทก์ชำระได้จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้โจทก์ได้ทุเลาการที่จะต้องชำระเงินค่าปรับตามคำสั่งของจำเลยที่ 5 ก่อนพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3841/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้สำคัญผิดว่าตนเองเป็นเจ้าของ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 บัญญัติว่า บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็น เจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ฯลฯ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ การที่ผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้อื่นแม้จะเข้าใจผิดว่าเป็นที่ดิน ของตนเองก็ตาม หากแต่ผู้ร้องได้ยึดถือครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ อย่างแท้จริง ไม่จำเป็นที่ผู้ร้องจะต้องรู้มาก่อนว่าที่ดินนั้น เป็นของผู้คัดค้านแล้วแย่งการครอบครองเป็นเวลาสิบปีจึงจะได้ กรรมสิทธิ์ฉะนั้น เมื่อผู้ร้องเข้าครอบครองที่ดินของผู้คัดค้าน โดยเข้าใจผิดว่าเป็นของผู้ร้องเองโดยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนา เป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินสิบปี ผู้ร้องย่อมได้กรรมสิทธิ์ใน ที่ดินของผู้คัดค้านตามกฎหมายแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3831/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่งดสืบพยาน การประวิงคดี และการใช้ดุลพินิจของศาล
ตามรายงานกระบวนพิจารณาบันทึกว่าศาลสั่งงดสืบพยานจำเลยเมื่อเวลา 9.30 น. ต่อมาวันเดียวกันเวลา 14.45 น. ทนายจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งดังกล่าว ศาลสั่งรวมสำนวน ถือว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งศาลแล้วจึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ จำเลยเคยขอเลื่อนคดีมา 2 นัดแล้ว นัดแรกจำเลยอ้างว่าป่วยครั้นถึงวันนัดที่สอง จำเลยไม่ได้เตรียมพยานอื่นมา ศาลได้ให้โอกาสจำเลยเลื่อนคดีนัดที่สองไปโดยกำชับให้จำเลยนำพยานที่จะสืบทั้งหมดมาศาลในวันนัดและเลื่อนคดีไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนเศษ จำเลยยังไม่นำพยานมาศาลในวันนัดถือว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีศาลจึงชอบที่จะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและงดสืบพยานจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3827/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ฆ่าและลักทรัพย์จากผู้ตายและผู้เสียหายโดยมีเจตนาเดียวกัน
จำเลยวางแผนการที่จะฆ่าผู้ตายและผู้เสียหายเพื่อจะเอาทรัพย์มาตั้งแต่เวลาประมาณ 11 นาฬิกา เมื่อมีโอกาสจึงฆ่าผู้ตายก่อน โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทรัพย์จากผู้ตายหรือไม่ แล้วจำเลยจึงฆ่าผู้เสียหายและเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป แต่ผู้เสียหายไม่ตายตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยกระทำต่อผู้ตายและผู้เสียหายด้วยเจตนาอันเดียวกันและเป็นการกระทำต่อเนื่องกันถือได้ว่าเป็นการกระทำในคราวเดียวกัน จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทมิใช่หลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3827/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเดียวกัน กระทำต่อเนื่อง: กรรมเดียวผิดหลายบท
จำเลยวางแผนการที่จะฆ่าผู้ตายและผู้เสียหายเพื่อจะเอาทรัพย์มาตั้งแต่เวลาประมาณ 11 นาฬิกา เมื่อมีโอกาสจึงฆ่าผู้ตายก่อน โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทรัพย์จากผู้ตายหรือไม่ แล้วจำเลยจึงฆ่าผู้เสียหายและเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป แต่ผู้เสียหายไม่ตาย ตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยกระทำต่อผู้ตายและผู้เสียหายด้วยเจตนาอันเดียวกันและเป็นการกระทำต่อเนื่องกันถือได้ว่าเป็นการกระทำในคราวเดียวกัน จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่หลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3653/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันมีผลต่อเนื่องจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษากลับ หรือมีการทำสัญญาค้ำประกันใหม่
สัญญาค้ำประกันที่ผู้ร้องทำต่อศาลชั้นต้นในชั้นขอทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ผู้ร้องเป็นผู้รับผิดชอบแทนจำเลย โดยยินยอมชำระเงินตามคำสั่งศาลแทนจนครบ สัญญาค้ำประกันดังกล่าวมิได้ยุติเพียงศาลอุทธรณ์พิพากษาเท่านั้น หากผู้ร้องประสงค์จะ ผูกพันตนเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ก็ควรเพิ่มเติมข้อจำกัดความรับผิดชอบ นั้นไว้ในสัญญาโดยชัดแจ้ง ดังนั้นความรับผิดของผู้ร้องตามสัญญา ค้ำประกันดังกล่าวจะสิ้นไปก็ต่อเมื่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา ศาลใดศาลหนึ่งพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์หรือในระหว่างฎีกา ได้มีการทำหนังสือสัญญาค้ำประกันขึ้นใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3416/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายอสังหาริมทรัพย์ของผู้เยาว์ต้องได้รับอนุญาตจากศาล แม้ผู้แทนโดยชอบธรรมยินยอมก็ไม่สมบูรณ์
การขายอสังหาริมทรัพย์ของผู้เยาว์ ผู้เยาว์เองหรือผู้ใช้อำนาจปกครองจะกระทำมิได้เว้นแต่ศาลจะอนุญาต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1574 เมื่อผู้แทนโดยชอบธรรมต้องห้ามโดยกฎหมายมิให้ทำนิติกรรมขายที่ดินซึ่งหมายความรวมถึงนิติกรรมจะขายที่ดินแทนผู้เยาว์โดยลำพังแล้ว จะถือว่าการที่ผู้เยาว์ทำนิติกรรมพร้อมกับผู้แทนโดยชอบธรรม มีผลว่าผู้แทนโดยชอบธรรมอนุญาตให้ทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาลก่อนหรือถือว่านิติกรรมที่ผู้เยาว์กระทำด้วยตนเองในขณะยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยมิได้รับอนุญาตจากศาลมีผลผูกพันผู้เยาว์เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วก็เท่ากับเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ต้องมาขออนุญาตจากศาล ซึ่งผิดไปจากเจตนารมณ์ของกฎหมาย สัญญาจะซื้อขายที่จำเลยที่ 8 ได้กระทำไปในขณะที่ยังเป็นผู้เยาว์ จึงไม่มีผลผูกพันจำเลยที่ 8 แม้ขณะที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 8 จะบรรลุนิติภาวะแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3364/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการกระทำความผิดต่อเสรีภาพ: การแบ่งหน้าที่และสนับสนุนการหลบหนีถือเป็นตัวการ
จำเลยที่ 2 ขับรถยนต์พาจำเลยที่ 1 และ ห.มาที่บ้านโจทก์ร่วมระหว่างที่จำเลยที่ 1 และ ห.ขึ้นไปบนบ้านของโจทก์ร่วม จำเลยที่ 2กลับรถหันหน้าออกถนนใหญ่และติดเครื่องยนต์ไว้ตลอดเวลา เมื่อจำเลยที่ 1 และ ห.กระทำความผิดแล้ววิ่งออกจากบ้านมาขึ้นรถยนต์ที่จำเลยที่ 2 จอดคอยอยู่แล้วหลบหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 และ ห.วางแผนกระทำผิดว่าเมื่อจำเลยที่ 1 และ ห.ฉุดคร่าโจทก์ร่วมลงจากบ้านแล้ว จำเลยที่ 2 รับหน้าที่คอยพาตัวโจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 กับ ห.หลบหนีไปเช่นนี้ ถือได้ว่า เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ และร่วมกระทำความผิดด้วยกัน จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการในการกระทำผิดต่อเสรีภาพด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3196/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับมอบเอกสารปลอมและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบ มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยรับมอบเอกสารของกลางและจ่ายเงินให้ผู้นำมาส่งมอบโดยจำเลยทราบดีว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ซึ่งแม้การที่จำเลยต้องจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนแก่ผู้นำมาส่งมอบจะทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยมิได้มีส่วนร่วมในการปลอมเอกสารและรอยตราในเอกสาร การกระทำของจำเลยเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดอันเป็นความผิดฐานเป็นผู้ใช้ ตาม ป.อ. มาตรา 84 ข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ตามป.อ. มาตรา 84 แต่ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยในฐานตัวการร่วมกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 83 จึงแตกต่างจากที่ปรากฏในทางพิจารณาในสาระสำคัญ ลงโทษจำเลยฐานผู้ใช้ไม่ได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสองแต่การกระทำของจำเลยซึ่งยังถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตาม ป.อ. มาตรา 86 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2739/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อและการขอคืนของกลาง: เจ้าของรถมีสิทธิขอคืนแม้มีข้อตกลงรับผิดชอบค่าเช่าซื้อ
สัญญาเช่าซื้อที่ระบุว่า ในระหว่างที่ชำระค่าเช่าซื้อยังไม่หมดรถยนต์ที่เช่าซื้อเสียหายหรือสูญหายไปด้วยเหตุใด ๆผู้เช่าซื้อตกลงยอมชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างทั้งหมดให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อจนครบถ้วน นั้น มิได้มีความหมายถึงขนาดว่าผู้ให้เช่าซื้อเล็งเห็นผลว่า ผู้เช่าซื้อจะนำรถยนต์ไปกระทำความผิดอันจะฟังว่าผู้ให้เช่าซื้อรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด และการขอคืนของกลางก็เป็นสิทธิที่ผู้ให้เช่าซื้อซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงจะร้องขอคืนได้แม้ว่าจะมีข้อสัญญาให้ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างจนครบถ้วนดังกล่าวแล้วก็ตาม
of 35