คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุไร คังคะเกตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3148-3149/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่รับบัญชีระบุพยานและการฎีกาในปัญหาข้อจำกัดการสืบพยาน รวมถึงค่าขึ้นศาลสำหรับคำขอพิจารณาคดีใหม่
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับบัญชีระบุพยานของโจทก์ และไม่อนุญาตให้โจทก์สืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 แม้โจทก์จะได้ยื่นคำแถลงแจ้งเหตุขัดข้องและจำเป็นที่มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนด และขอยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลชั้นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นกรณีที่โจทก์ได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งระหว่างพิจารณาตามมาตรา 226(2)แล้วก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มิได้หยิบยกปัญหานี้ขึ้นว่ากล่าวมาในชั้นอุทธรณ์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
แม้ผู้ร้องจะนำสืบพยานฝ่ายเดียว แต่ถ้าเป็นพยานที่มีน้ำหนักและเหตุผลเป็นที่เชื่อถือได้ ศาลก็ย่อมจะรับฟังพยานเช่นว่านั้นแล้ววินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทให้ผู้ร้องเป็นฝ่ายชนะคดีได้
โจทก์ฎีกาเพียงแต่ขอให้พิจารณาคดีใหม่ มิได้ฎีกาขอให้ตนเป็นฝ่ายชนะคดี จึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลสำนวนละ 200 บาท ตามบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตาราง 1 ข้อ 2(ข).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำสั่งอายัดชั่วคราวเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดและการบังคับคดี
หมายอายัดชั่วคราวนั้น เป็นเพียงวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี คำสั่งนั้นก็ยังมีผลต่อไปจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่าที่จำเป็นเพื่อบังคับตามคำพิพากษาเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้ออกหมายอายัดชั่วคราวให้ผู้คัดค้านส่งเงินที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิได้รับจากผู้คัดค้านต่อศาล แต่ผู้คัดค้านยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่งอายัดชั่วคราวโดยคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์คำสั่ง ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์คดีถึงที่สุด และในชั้นบังคับคดีศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านส่งเงินจำนวนเดียวกันกับที่มีคำสั่งในหมายอายัดชั่วคราว ดังนี้ย่อมถือได้ว่าคำสั่งอายัดชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันยกเลิกไป ปัญหาว่าผู้คัดค้านต้องส่งเงินต่อศาลชั้นต้นตามหมายอายัดชั่วคราวตามที่โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ไว้ก่อนนั้นหรือไม่ จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีอีกต่อไป การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้คัดค้านเสีย จึงชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งอายัดชั่วคราวมีผลจนกว่าจะมีการบังคับคดีตามคำพิพากษา หากศาลมีคำสั่งในชั้นบังคับคดี คำสั่งอายัดชั่วคราวเป็นอันยกเลิก
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้คัดค้านส่งเงินต่อศาลตามหมายอายัดชั่วคราว เป็นเพียงวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี คำสั่งนั้นก็ยังคงมีผลต่อไปจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่าที่จำเป็นเพื่อบังคับตามคำพิพากษานั้นเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าในชั้นบังคับคดีศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านส่งเงินจำนวนเดียวกันกับที่มีคำสั่งในหมายอายัดชั่วคราว ย่อมถือได้ว่าคำสั่งที่ให้ผู้คัดค้านส่งเงินตามหมายอายัดชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันยกเลิกไป ปัญหาว่าผู้คัดค้านต้องส่งเงินต่อศาลชั้นต้นตามหมายอายัดชั่วคราวหรือไม่ จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีอีกต่อไป หากผู้คัดค้านเห็นว่าตนมีสิทธิที่จะไม่ส่งเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งของศาลชั้นต้นในชั้นบังคับคดีก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3145/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำสั่งอายัดชั่วคราวเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดและการบังคับคดี
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้คัดค้านส่งเงินต่อศาลตามหมายอายัดชั่วคราว เป็นเพียงวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี คำสั่งนั้นก็ยังคงมีผลต่อไปจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่าที่จำเป็นเพื่อบังคับตามคำพิพากษานั้นเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าในชั้นบังคับคดี ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านส่งเงินจำนวนเดียวกันกับที่มีคำสั่งในหมายอายัดชั่วคราวย่อมถือได้ว่าคำสั่งที่ให้ผู้คัดค้านส่งเงินตามหมายอายัดชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันยกเลิกไป ปัญหาว่าผู้คัดค้านต้องส่งเงินต่อศาลชั้นต้นตามหมายอายัดชั่วคราวหรือไม่ จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีอีกต่อไป หากผู้คัดค้านเห็นว่าตนมีสิทธิที่จะไม่ส่งเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งของศาลชั้นต้นในชั้นบังคับคดีก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3091/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในชั้นศาล การพิจารณาประเด็นส่วนควบ และการรอการลงโทษ
การฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยทั้งสองเบิกความเท็จหาจำต้องรอให้ศาลพิพากษาคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเสียก่อนไม่ เพราะความผิดเกิดตั้งแต่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาลในคดีนั้นแล้ว เมื่อจำเลยทั้งสองแถลงหมดพยานบุคคล และขอให้ศาลชั้นต้นเดินเผชิญสืบบ้านพิพาท โจทก์แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่มีความจำเป็น แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงให้ทนายของคู่ความถ่ายภาพบ้านพิพาททั้งสองหลังส่งศาล แสดงว่าจำเลยทั้งสองพอใจคำสั่ง ศาลชั้นต้น และไม่ติดใจขอให้ศาลชั้นต้นเดินเผชิญสืบบ้านพิพาท การที่ศาลจะไปเดินเผชิญสืบหรือไม่เป็นดุลพินิจ ของศาล การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า บ้านพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2แสดงว่า บ้านพิพาทไม่ได้เป็นส่วนควบกับบ้านเลขที่ 75 อยู่ในตัวถือได้ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในประเด็นเรื่องส่วนควบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3091/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีแพ่ง: ความผิดเกิดขึ้นทันทีที่เบิกความเท็จ ไม่ต้องรอผลคดี และการนำสืบพยานเป็นดุลพินิจศาล
การฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จหาจำต้องรอให้ศาลพิพากษาคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเสียก่อนไม่ เพราะความผิดเกิดตั้งแต่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาลในคดีนั้นแล้ว เมื่อจำเลยทั้งสองแถลงหมดพยานบุคคลและขอให้ศาลชั้นต้นเดินเผชิญสืบบ้านพิพาท โจทก์แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่มีความจำเป็น แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมให้ทนายของคู่ความถ่ายภาพบ้านพิพาททั้งสองหลังส่งศาล ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้คัดค้าน ทั้งได้ถ่ายภาพบ้านพิพาทส่งศาลแล้ว แสดงว่าจำเลยทั้งสองพอใจคำสั่งศาลชั้นต้นและไม่ติดใจขอให้ศาลชั้นต้นเดินเผชิญสืบบ้านพิพาทอีก และการที่ศาลจะไปเดินเผชิญสืบหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล กรณีถือได้ว่าจำเลยทั้งสองหมดพยานที่จะนำเข้าสืบต่อศาลแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2558/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ค่าสินค้าและการคิดดอกเบี้ยเมื่อส่งมอบสินค้าเกินกำหนดและมีการทวงถามหนี้
โจทก์ได้ส่งเหล็กเส้นให้จำเลยตามจำนวนและคุณลักษณะตามสัญญาแล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระเงินให้โจทก์ตามสัญญา แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์ได้ทวงถามจำเลยแล้ว ดังนี้ โจทก์มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินนับตั้งแต่วันผิดนัดจนถึงวันที่จำเลยที่ 1 วางเงินต่อศาล.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีเงินในบัญชี ผู้รับทราบแล้ว และลงวันที่เอง จำเลยไม่มีความผิด
โจทก์ทราบดีอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชีพอที่จะชำระให้แก่โจทก์ได้ ทั้งจำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่ายแม้ต่อมาโจทก์จะเป็นผู้ลงวันที่สั่งจ่ายเอง โดยจำเลยยินยอมให้ลงและทำหนังสือสัญญาขายลดเช็คไว้กับโจทก์ด้วย จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็ค - ความผิด พ.ร.บ.เช็ค - ผู้รับรู้ฐานะผู้สั่งจ่าย - การลงวันที่เช็ค
การที่โจทก์ขอให้จำเลยออกเช็คพิพาทแลกเอาเช็คฉบับเก่าที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินคืนไป แสดงให้เห็นว่าโจทก์ทราบอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชีพอที่จะชำระเงินให้แก่โจทก์ได้ นอกจากนี้โจทก์ยอมรับว่าเช็คพิพาทจำเลยทั้งสองไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย โจทก์เป็นผู้ลงเอง แม้จำเลยที่ 2 ยินยอมให้ลงและยังได้ทำหนังสือสัญญาขายลดเช็คไว้กับโจทก์ ดังนี้จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการออกเช็ค – ผู้รับรู้ฐานะทางการเงิน – การลงวันที่เช็ค
โจทก์ทราบดีอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชีพอที่จะชำระให้แก่โจทก์ได้ ทั้งจำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย แม้ต่อมาโจทก์จะเป็นผู้ลงวันที่สั่งจ่ายเอง โดยจำเลยยินยอมให้ลงและทำหนังสือสัญญาขายลดเช็คไว้กับโจทก์ด้วยจำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.
of 35