คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุไร คังคะเกตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลล่างให้จำคุกเกินห้าปี โจทก์ร่วมไม่อาจฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ถือเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างให้จำคุกจำเลยเกินห้าปี โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคสอง และข้อห้ามฎีกานี้ใช้บังคับโจทก์ร่วมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีอาญา: โจทก์ร่วมฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลล่างให้จำคุกเกินห้าปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตถือเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างให้จำคุกจำเลยเกินห้าปี โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ตามป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคสอง และข้อห้ามฎีกานี้ใช้บังคับโจทก์ร่วมด้วย เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)ได้นิยามศัพท์คำว่า "โจทก์" ไว้ให้รวมถึงโจทก์ร่วมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวและการใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืน
ผู้ตายเดินไปที่ข้างรั้วบ้านจำเลย แล้วใช้ปืนลูกซองสั้นยิงไปบริเวณชานบ้านของจำเลย ซึ่งขณะนั้นจำเลยกับภริยากำลังนั่งกินอาหาร กระสุนปืนถูกภริยาจำเลยล้มฟุบลงไป จำเลยคว้ามีดโต้กระโดดจากบ้านลงไปเพื่อฟันผู้ตาย ผู้ตายวิ่งหนีเข้าไปในบ้านผู้ตายจำเลยวิ่งไล่ตาม แล้วผู้ตายหันหน้ามาทางจำเลย พร้อมกับใช้ปืนยิงสวนมาทันที 1 นัด ไม่ถูกจำเลย จำเลยใช้มีดฟันไป ผู้ตายยกแขนทั้งสองข้างขึ้นรับ แล้วผู้ตายก็ได้หันหลังจะขึ้นบันไดบ้านจำเลยเข้าใจว่าผู้ตายจะขึ้นไปเอากระสุนปืนมายิงจำเลยอีก จึงใช้มีดฟันทางด้านหลังถูกที่ต้นคอและฟันซ้ำถูกบริเวณใบหน้า ผู้ตายจึงล้มลง ข้อเท็จจริงดังกล่าวแสดงว่า ขณะที่จำเลยไล่ฟันผู้ตายนั้นผู้ตายยังถือปืนอยู่ตลอดเวลาและสามารถยิงมายังจำเลยได้ การที่จำเลยใช้มีดฟันผู้ตายไปจนอาวุธปืนจะหลุดไปจากมือของผู้ตายย่อมเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เพราะหากปืนยังอยู่ในมือผู้ตายตราบใด ภยันตรายก็จะมีแก่จำเลยอยู่จนตราบนั้น และเป็นเรื่องที่ผู้ตายตั้งใจมาทำร้ายจำเลย จำเลยมีสิทธิป้องกันตัวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้กำลังเพื่อป้องกันภยันตรายจากอาวุธปืนของผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายเดินไปที่ข้างรั้วบ้านจำเลย แล้วใช้ปืนลูกซองสั้นยิงไปบริเวณชานบ้านจำเลย ซึ่งขณะนั้นจำเลยกับภริยากำลังนั่งกินอาหารกระสุนปืนถูกภริยาจำเลยล้มฟุบลงไป จำเลยคว้ามีดโต้กระโดดจากบ้านลงไปเพื่อฟันผู้ตาย ผู้ตายวิ่งหนีเข้าไปในบ้านผู้ตาย จำเลยวิ่งไล่ตามแล้วผู้ตายหันหน้ามาทางจำเลย พร้อมกับใช้ปืนยิงสวนมาทันที 1 นัดไม่ถูกจำเลย จำเลยใช้มีดฟันไป ผู้ตายยกแขนทั้งสองข้างขึ้นรับ แล้วผู้ตายก็หันหลังจะขึ้นบันไดบ้าน จำเลยเข้าใจว่าผู้ตายจะขึ้นไปเอากระสุนปืนมายิงจำเลยอีก จึงใช้มีดฟันทางด้านหลังถูกที่ต้นคอและฟันซ้ำถูกบริเวณใบหน้า ผู้ตายล้มลง แสดงว่าขณะที่จำเลยไล่ฟันผู้ตายนั้น ผู้ตายยังถือปืนอยู่ตลอดเวลาและสามารถยิงมายังจำเลยได้ การที่จำเลยใช้มีดฟันผู้ตายจนอาวุธปืนจะหลุดไปจากมือของผู้ตาย ย่อมเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เพราะหากปืนยังอยู่ในมือผู้ตายตราบใด ภยันตรายก็จะมีแก่จำเลยอยู่จนตราบนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อป้องกันภัยอันตรายจากอาวุธปืน ย่อมเป็นเหตุป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงไปบริเวณชานบ้านของจำเลยซึ่งขณะนั้นจำเลยกับนางพ.ภริยากำลังนั่งรับประทานอาหาร กระสุนปืนถูกนาง พ. ล้มฟุบลงจำเลยคว้ามีดโต้กระโดดจากบ้านลงไปเพื่อฟันผู้ตาย ผู้ตายยิงปืนอีก 1 นัด แต่ไม่ถูกจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันไป และผู้ตายยกแขนทั้งสองข้างขึ้นรับ แล้วผู้ตายก็ได้หันหลังจะขึ้นบันไดบ้านซึ่งจำเลยเข้าใจว่า ผู้ตายจะขึ้นไปเอากระสุนปืนมายิงจำเลยอีก ดังนั้นจำเลยจึงใช้มีดฟันทางด้านหลังถูกที่ต้นคอ ผู้ตายเซมาทางด้านหลัง จำเลยจึงฟันซ้ำอีก 1 ที ถูกบริเวณใบหน้าแสดงว่าขณะที่จำเลยไล่ฟันผู้ตายนั้น ผู้ตายยังถือปืนอยู่ตลอดเวลา และสามารถยิงมายังจำเลยได้ การที่จำเลยใช้มีดฟันผู้ตายไปจนอาวุธปืนจะหลุดไปจากมือของผู้ตาย ย่อมเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เพราะหากปืนยังอยู่ในมือผู้ตายตราบใดภยันตรายก็จะมีแก่จำเลยอยู่จนตราบนั้น และเป็นเรื่องที่ผู้ตายตั้งใจมาทำร้ายจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิป้องกันตัวได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คแลกเงินสดไม่เป็นความผิดฐานออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
การออกเช็คแลกเงินสดไม่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย อันจะเป็นความผิดตามมาตรา 4แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ซึ่งเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังที่จำเลยออกเช็คแลกเงินสด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดต่อไป ตาม ป.อ.มาตรา 2 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คแลกเงินสดไม่ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.เช็ค หากมิใช่การชำระหนี้จริง
การออกเช็คแลกเงินสดมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 ซึ่งเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังที่จำเลยออกเช็คแลกเงินสดไปจากโจทก์ร่วม การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดต่อไปจำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในประเด็นการครอบครองปรปักษ์ เมื่อศาลเคยวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว
คดีก่อนผู้คัดค้านฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลยว่าบุกรุกเข้าไปในที่พิพาทที่เป็นของผู้คัดค้าน ผู้ร้องให้การว่าผู้ร้องได้ครอบครองปรปักษ์ที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ผู้ร้องยื่นคำร้องคดีนี้ขอให้ศาลสั่งว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์ ดังนี้ประเด็นแห่งคดีเหมือนกันและคู่ความเดียวกัน ทั้งศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วจึงต้องห้ามมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องซ้ำในประเด็นกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
คดีก่อนผู้คัดค้านเป็นโจทก์ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลยว่า ผู้คัดค้านเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 274 ผู้ร้อง ได้บุกรุกเข้าไปในที่ดินของผู้คัดค้าน ขอให้ขับไล่ผู้ร้องออกไป ผู้ร้องให้การว่า ผู้ร้องได้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินดังกล่าวมากว่า 30 ปีแล้ว ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ในคดีนี้ผู้ร้องมายื่นคำร้องว่า ผู้ร้องครอบครองที่ดินบางส่วนของที่ดินโฉนดเลขที่ 274 ด้วยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 22 ปีเศษแล้ว ผู้ร้อง จึงได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ขอให้ศาลสั่งว่า ที่ดิน ดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ประเด็นของคดีทั้งสองจึงมีว่า ผู้ร้องได้ ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้วหรือไม่ เมื่อประเด็นแห่งคดีเหมือนกันและ เป็นคู่ความเดียวกัน ทั้งศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วย่อมต้องห้าม มิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำอีก ตาม ป.พ.พ. มาตรา144.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในคดีครอบครองปรปักษ์ เมื่อประเด็นข้อพิพาทและคู่ความเหมือนเดิม
คดีก่อนผู้คัดค้านเป็นโจทก์ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลยว่า ผู้คัดค้านเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท ผู้ร้องได้บุกรุกเข้าไปในที่ดินพิพาท ขอให้ขับไล่ผู้ร้องไป ผู้ร้องให้การว่า ผู้ร้องได้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทมากว่า 30 ปีแล้ว คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องครอบครองที่ดินบางส่วนของที่ดินพิพาทด้วยความสงบเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 22 ปีแล้ว ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ ขอให้ศาลสั่งว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้อง ประเด็นของคดีทั้งสองจึงมีว่า ผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินพิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382แล้วหรือไม่ เมื่อประเด็นแห่งคดีเหมือนกันและเป็นคู่ความเดียวกันทั้งศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ย่อมต้องห้ามมิให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
of 35