คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุไร คังคะเกตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 346 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์กรรมสิทธิ์ที่ดิน - โฉนดที่ดินมีน้ำหนักกว่าพยานบุคคล - ส่วนควบเป็นกรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดิน
โจทก์นำยึดที่ดินพิพาทที่มีชื่อจำเลยถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดพร้อมตึกซึ่งไม่มีหมายเลขบ้าน ผู้ร้องอ้างว่าที่ดินพิพาทและตึกที่ปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ภาระการพิสูจน์จึงตกแก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ร้องมีเพียงพยานบุคคลมาสืบและคำเบิกความของพยานเหล่านั้นไม่น่าเชื่อพยานผู้ร้องจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างโฉนดที่ดินพิพาทซึ่งเป็นเอกสารมหาชนและมีชื่อจำเลยถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องตามนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 ส่วนตึกที่ตั้งอยู่บนที่ดินดังกล่าวเป็นส่วนควบของที่ดินพิพาทย่อมถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกเสร็จสิ้นแล้ว ผู้คัดค้านขอถอนผู้จัดการมรดกไม่ได้
ผู้จัดการมรดกได้แบ่งปันทรัพย์มรดกแก่ทายาทเสร็จสิ้นแล้วผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมจะต้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกโดยอ้างว่าผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: การพิจารณาเรื่องราคาที่เหมาะสมและระยะเวลาการขายทรัพย์เพื่อชำระหนี้
ในการขายทอดตลาดทรัพย์ ผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้เคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าว แต่ เมื่อได้ปรึกษา ป. รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี และวางทรัพย์ภูมิภาคแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีถามผู้เข้าสู้ราคา ว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้อีกหรือไม่ตาม ที่ ป. แนะนำปรากฏว่าผู้ซื้อทรัพย์เสนอเพิ่มราคาเป็น3,500,000 บาท ป.จึง อนุมัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคา3,500,000 บาท การดำเนินการขายทอดตลาด เช่นนี้ถือได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำต่อเนื่องตาม ระเบียบและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคากันอย่างเต็มที่และ ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อรักษาผลประโยชน์ ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุด หาใช่เป็นการที่ผู้ทอดตลาดถอนทรัพย์ จากการขายทอดตลาดโดยปริยายไม่จึงเป็นการขายทอดตลาดที่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงวันขายทอดตลาดได้เป็นเวลา เกือบ3 ปี ได้ทำการขายทอดตลาดมาเป็นครั้งที่ 11 และราคา ที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาปานกลางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้อีกทั้งยังสูงกว่าราคาที่ผู้แทนโจทก์เคย กำหนดว่าควรขายได้เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบที่จะอนุมัติให้ ขายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดบังคับคดี: ศาลพิจารณาความเหมาะสมของราคาและระยะเวลาในการขาย รวมถึงดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาท ช.เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้เคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าว แต่ได้ปรึกษาป.รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 3 แล้วป.เห็นว่า เพื่อรักษาประโยชน์ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุดจึงให้ ช.ออกมาถามว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้อีกหรือไม่ ปรากฏว่าผู้ซื้อทรัพย์เสนอเพิ่มราคาเป็น3,500,000 บาท ป.จึงอนุมัติให้ ช.เคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคาดังกล่าว ถือได้ว่า ช.ได้กระทำต่อเนื่องตามระเบียบและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคากันอย่างเต็มที่เป็นการขายทอดตลาดที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาท ช.เจ้าพนักงานบังคับคดี มิได้เพียงแต่แจ้งแก่ผู้สู้ราคาว่าราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้สูงสุดนั้นต่ำไปเท่านั้น หากแต่ได้ถามผู้สู้ราคาซึ่งอยู่ในขณะนั้นประมาณ 20 คนว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนออีกหรือไม่ และดำเนินการขายทอดตลาดต่อไปจนในที่สุดได้เคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งได้เพิ่มราคาสูงสุดเป็น 3,500,000 บาท การที่ช.ผู้ทอดตลาดแจ้งแก่ผู้สู้ราคาว่า ราคานั้นต่ำไปจะมีใครให้ราคาสูงกว่านี้อีกหรือไม่ จึงยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อรักษาประโยชน์ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุด มิใช่เป็นการที่ผู้ทอดตลาดถนนทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยปริยาย การขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อนำเงินที่ขายได้มาชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีข้อที่จะต้องพิจารณาว่าสมควรจะอนุมัติให้ขายแก่ผู้ให้ราคาสูงสุดหรือไม่อยู่ 2 ประการ ประการแรกราคาทรัพย์ที่แท้จริงประมาณเท่าใด ประการที่สอง สมควรจะขายได้แล้วหรือไม่ปรากฏว่าตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงวันขายทอดตลาดได้ เป็นเวลาเกือบ 3 ปี ได้ทำการขายทอดตลาดมาเป็นครั้งที่ 11และราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาปานกลางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้ อีกทั้งยังสูงกว่าราคาที่ผู้แทนโจทก์เคยกำหนดว่าควรขายได้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงสมควรอนุมัติขายได้แล้ว การปฏิบัติของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันขนส่งยาเสพติด การรับสารภาพ และพยานหลักฐานสนับสนุน
จำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่ารถคันที่ใช้บรรทุกกัญชา และร่วมโดยสารมาในรถตั้งแต่ขับออกจากกรุงเทพมหานคร การขนกัญชาเป็นการกระทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะขนกันเป็นจำนวนมากด้วยย่อมมีโทษสูง ตามธรรมดาผู้กระทำผิดย่อมจะต้องปกปิดเป็นความลับ ถ้า จำเลยที่ 1 มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็นในการกระทำความผิดแล้วก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่ผู้กระทำความผิดจะกล้าให้จำเลยโดยสารมาในรถด้วย พฤติการณ์ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการร่วมกันมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับอนุญาต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเรือประมง: ศาลรับฟังพยานบุคคลยืนยันโจทก์เป็นผู้ซื้อ แม้สัญญาจะระบุชื่อจำเลยเป็นผู้ซื้อ
การนำสืบพยานหลักฐานถึงการเข้าเป็นคู่สัญญาของโจทก์ในการซื้อเรือประมงระหว่าง ด. กับจำเลยทั้งสองว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อด้วยหรือไม่ ไม่ใช่เป็นการนำสืบในข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาซื้อขายที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือแม้เอกสารสัญญาซื้อขายจะระบุว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ซื้อเรือศาลก็รับฟังพยานบุคคลว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อเรือได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางซ้ำ: ศาลพิพากษาให้ริบของกลางที่ศาลชั้นต้นริบไปแล้วไม่ได้
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาริบกัญชาของกลางไว้ในคดีอื่นแล้วและโจทก์มิได้ขอให้ริบในคดีนี้ ศาลจะพิพากษาให้ริบกัญชาของกลางอีกไม่ได้ เป็นการริบของกลางซ้ำและเกินคำขอ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียม: พฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะพิจารณา
ข้อเท็จจริงตามคำร้องของทนายจำเลยที่ว่า จำเลยเตรียมค่าฤชาธรรมเนียมมาไม่พอวางศาล ทนายจำเลยบอกให้จำเลย ที่ 1 เบิกเงินจากธนาคาร จำเลยที่ 1 เบิกเงินไม่ทัน ยังถือไม่ได้ ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ซึ่งศาลจะสั่งขยาย ระยะเวลาให้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียมอุทธรณ์: พฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะพิจารณา
จำเลยเตรียมเงินค่าฤชาธรรมเนียมอุทธรณ์มาไม่พอวางศาลทนายจำเลยบอกให้จำเลยที่ 1 เบิกเงินจากธนาคาร แต่จำเลยที่ 1เบิกเงินไม่ทัน ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์และค่าทนายความส่วนที่ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเอกสารรับเงินในหน้าที่ เจ้าพนักงาน ไม่ถือเป็นเอกสารปลอม แต่เป็นเอกสารเท็จ
จำเลยมีหน้าที่รับเงินและออกใบเสร็จรับเงิน การที่จำเลยรับเงินและออกใบเสร็จรับเงินให้ ส. แล้วต่อมาได้แก้ไขสำเนาเป็นออกให้ อ. เป็นการกระทำในอำนาจหน้าที่ของจำเลย และลงลายมือชื่อตนเองเป็นผู้ทำและผู้แก้ไขเอกสารนั้น จึงเป็นเอกสารที่แท้จริงที่จำเลยทำขึ้น แม้ข้อความในต้นฉบับและสำเนาจะไม่ตรงกัน ก็เป็นแต่เพียงเอกสารเท็จ ไม่ทำให้เอกสารนั้นเป็นเอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161,265
of 35