พบผลลัพธ์ทั้งหมด 713 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2466/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของสมาชิกพรรคการเมือง: สิทธิทางศาลต้องมีกฎหมายรองรับเฉพาะเจาะจง
ไม่มีบทบัญญัติใดในพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524ที่บัญญัติให้สมาชิกพรรคการเมืองใช้สิทธิทางศาลได้ โจทก์ในฐานะสมาชิกพรรคจำเลยที่ 1 จึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีมาให้ศาลวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคตามข้อบังคับใหม่เป็นโมฆะและตราบใดที่โจทก์ยังไม่ถูกบังคับให้กระทำหรืองดเว้นกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งโดยอาศัยอำนาจจากการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่สิทธิและหน้าที่ของโจทก์มีอยู่อย่างไร ก็มีอยู่อย่างนั้น ข้ออ้างที่ว่าจำเลยที่ 2 ในฐานะหัวหน้าพรรคดำเนินการประชุมเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคโดยมิชอบนั้น เป็นเพียงความขัดแย้งกันในทางความคิด กรณียังไม่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตามกฎหมายแพ่ง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสอบสวนทหารต้องมีฝ่ายทหารร่วมด้วย หากแก้ไขการสอบสวนให้ถูกต้องแล้ว ถือว่าการสอบสวนชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นทหารประจำการที่ร่วมกระทำผิดกับพลเรือน จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ หลังจากวันนั้นพันโทส.นายทหารพระธรรมนูญ ได้เข้าฟังการสอบสวนพนักงานสอบสวนจึงได้สอบสวนจำเลยที่ 1 เพิ่มเติมต่อหน้าพันโทส.จำเลยที่ 1 ได้ให้การปฏิเสธ ส่วนการสอบสวนพยานอื่นพันโทส.ได้เข้าฟังการสอบสวนพยาน โดยพนักงานสอบสวนได้สอบสวนพยานและได้อ่านสำนวนการสอบสวนทั้งหมดให้พันโทส.ฟังแล้วพันโทส.คงติดใจประเด็นการสอบสวนบางประเด็นจะได้ทำบันทึกให้พนักงานสอบสวนในภายหลัง ส่วนการสอบสวนพยานเพิ่มเติมต่อไปนั้นพันโทส.ไม่ติดใจฟังการสอบสวน จึงฟังได้ว่าการที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยที่ 1 โดยไม่มีฝ่ายทหารเข้าร่วมในการสอบสวนนั้น ได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว การสอบสวนจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2349/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คแลกเงินสด: การออกเช็คโดยไม่มีหนี้เดิม ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทแลกเงินสดไปจากโจทก์ขณะแลกทรัพย์สินในระหว่างกันนั้น ผู้แลกต่างไม่ได้มีหนี้ต่อกันมาก่อน การออกเช็คในกรณีนี้จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงให้แก่โจทก์ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 4 ซึ่งเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังที่จำเลยออกเช็ค จำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2213/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายจ่ายซื้อข้าวโพดชดเชยขาดสต๊อก เป็นรายจ่ายจริงในการคำนวณกำไรสุทธิทางภาษี
โจทก์ประกอบธุรกิจรับอบข้าวโพดที่จะส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศเมื่อลูกค้านำข้าวโพดมาส่งให้โจทก์ โจทก์จะชั่งน้ำหนักและวัดความชื้นไว้แล้วใช้สูตรมาตรฐานคำนวณว่าเมื่อนำข้าวโพดมาแยกวัสดุเจือปนออกและอบให้ได้ความชื้น ร้อยละ 14.5 แล้วจะเหลือน้ำหนักเท่าใด โจทก์ก็จะออกใบรับตามจำนวนน้ำหนักที่คำนวณจากสูตรมาตรฐานนั้นให้ลูกค้าเพื่อนำมารับข้าวโพดคืน ข้าวโพดที่ลูกค้ามารับคืนไม่จำต้องเป็นจำนวนเดียวกันกับที่ลูกค้านำมาอบ ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบการสูญเสียน้ำหนักเอง ข้าวโพดที่ผ่านการอบแล้วบางส่วนจะมีความชื้นเหลือน้อยกว่าร้อยละ 14.5 ทำให้สูญเสียน้ำหนักไปเกินกว่าที่คำนวณไว้โดยสูตรมาตรฐานดังกล่าว และยังมีการสูญเสียน้ำหนักภายหลังอบแล้วด้วยเหตุอื่นอีก เช่นความชื้นลดลงอีกตามธรรมชาติและการขนถ่ายข้าวโพดลงเรือซึ่งโจทก์ไม่สามารถปัดให้เป็นความรับผิดของลูกค้าได้ โจทก์ต้องส่งมอบข้าวโพดที่อบแล้วตามจำนวนน้ำหนักที่ได้คำนวณด้วยสูตรมาตรฐานให้แก่ลูกค้าแต่ละรายที่ได้ออกใบรับให้ไว้ ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการซื้อข้าวโพดมาชดเชยจำนวนข้าวโพดที่สูญเสียน้ำหนักไปซึ่งโจทก์จะต้องรับผิดชอบต่อลูกค้า จึงเป็นรายจ่ายที่มีการจ่ายจริงนำมาคำนวณกำไรสุทธิของโจทก์ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเจ้าหน้าที่มาตรฐานสินค้าและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าที่มาควบคุมการขนถ่ายสินค้าจากไซโล ลงเรือโจทก์จ่ายไปเพื่อประโยชน์ในทางการค้าของโจทก์ แต่มิได้ระบุว่าจ่ายให้แก่ผู้ใด จึงเป็นรายจ่ายที่โจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่าใครเป็นผู้รับ ต้องห้ามมิให้นำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ตาม ป.รัษฎากรมาตรา 65 ตรี (18).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2213/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รายจ่ายซื้อข้าวโพดชดเชยขาดสต๊อกเป็นรายจ่ายจริงทางภาษี หากพิสูจน์ได้ว่ามีการจ่ายจริงและเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
แม้โจทก์จะจ่ายค่าบริการให้แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเจ้าหน้าที่มาตรฐานสินค้าและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าที่มาควบคุมการขนถ่ายสินค้าจากไซโลลงเรือไปจริงและเพื่อประโยชน์ในทางการค้าของโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อค่าใช้จ่ายดังกล่าวโจทก์เพียงแต่ลงบัญชีไว้โดยมิได้ระบุว่าจ่ายให้แก่ผู้ใด จึงเป็นรายจ่ายที่โจทก์พิสูจน์ไม่ได้ว่าใครเป็นผู้รับ ต้องห้ามมิให้นำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิตามประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ตรี (18) โจทก์รับอบข้าวโพดจากลูกค้า ข้าวโพดจะสูญเสียน้ำหนักภายหลังการอบเนื่องจากความชื้นลดลงและตกหล่น ขณะขนส่งโจทก์ต้องรับผิดต่อลูกค้าโดยซื้อข้าวโพดมาชดเชยส่วนที่สูญเสียน้ำหนัก ค่าใช้จ่ายในการซื้อข้าวโพดมาชดเชยจึงมิใช่รายจ่ายที่โจทก์กำหนดขึ้นเองโดยไม่มีการจ่ายจริง โจทก์จึงนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาคำนวณกำไรสุทธิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้าง: การเรียกรับเงินเดือนนอกวันจ่ายปกติถือเป็นการเลิกจ้าง และคำให้การที่ขัดแย้งกันย่อมไร้ผล
กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทจำเลยสั่งพนักงานการเงินของจำเลยคิดเงินเดือนที่ผ่านมาให้แก่โจทก์และเรียกโจทก์มารับเงินโจทก์เข้ามาในบริษัทแต่ไม่ยอมรับเงิน การที่กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทเรียกโจทก์มารับเงินค่าจ้างสำหรับระยะเวลาทำงานของโจทก์ที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่วันนั้นมิใช่วันจ่ายเงินเดือนตามปกติของจำเลยถือได้ว่าจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์แล้ว โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์ แต่โจทก์ได้ออกจากงานไปเอง และโจทก์ได้กล่าวต่อลูกค้าของจำเลยว่า บริษัทเฮงซวยไปซื้อสินค้ามันทำไมอันเป็นการกระทำความผิดต่อนายจ้าง ทำให้จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์เป็นคำให้การที่ขัดแย้งกันเอง กล่าวคือจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์ แต่โจทก์ออกจากงานไปเองแล้วกลับอ้างว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ ดังนั้นประเด็นข้อพิพาทจึงมีเพียงว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์หรือไม่ คดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์หรือไม่ เพราะการที่จะเกิดประเด็นว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์หรือไม่ จะต้องเป็นกรณีที่จำเลยยอมรับว่าจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2177/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้าง การที่นายจ้างเรียกรับเงินเดือนนอกรอบถือเป็นการเลิกจ้าง และคำให้การที่ขัดแย้งกันเอง
กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทจำเลยสั่งพนักงานการเงินของจำเลยคิดเงินเดือนที่ผ่านมาให้แก่โจทก์และเรียกโจทก์มารับเงินโจทก์เข้ามาในบริษัทแต่ไม่ยอมรับเงินการที่กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทเรียกโจทก์มารับเงินค่าจ้างสำหรับระยะเวลาทำงานของโจทก์ที่ผ่านมาทั้งๆที่วันนั้นมิใช่วันจ่ายเงินเดือนตามปกติของจำเลยถือได้ว่าจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์แล้ว โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์แต่โจทก์ได้ออกจากงานไปเองและโจทก์ได้กล่าวต่อลูกค้าของจำเลยว่าบริษัทเฮงซวยไปซื้อสินค้ามันทำไมอันเป็นการกระทำความผิดต่อนายจ้างทำให้จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์เป็นคำให้การที่ขัดแย้งกันเองกล่าวคือจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์แต่โจทก์ออกจากงานไปเองแล้วกลับอ้างว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ดังนั้นประเด็นข้อพิพาทจึงมีเพียงว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์หรือไม่คดีไม่มีประเด็นว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์หรือไม่เพราะการที่จะเกิดประเด็นว่าจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์หรือไม่จะต้องเป็นกรณีที่จำเลยยอมรับว่าจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์เสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการปลอมเอกสาร: พยานหลักฐานต้องชัดเจนถึงเจตนาและบทบาทของผู้สนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมานำสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ โดยการขูดลบหมายเลขทะเบียนที่พานท้ายอาวุธปืนของกลาง ซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นในหน้าที่ อันเป็นเอกสารราชการอันเดิมแล้วแก้ไขตอกหมายเลขใหม่แทน โจทก์คงมีแต่คำรับของจำเลยในชั้นสอบสวนว่า จำเลยได้ลบหมายเลขทะเบียนเดิมของอาวุธปืนของกลาง แล้วทำหมายเลขทะเบียนขึ้นใหม่ อันเป็นพยานบอกเล่าเท่านั้น ทั้งยังปรากฏจากคำเบิกความของ ส. พนักงานสอบสวนผู้ทำบันทึกคำให้การดังกล่าวว่าเกี่ยวกับความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมนั้น จำเลยให้การรับแต่เพียงว่าหมายเลขทะเบียนที่พานท้ายปืนไม่ตรงกับหมายเลขประจำปืน มิได้รับสารภาพว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสาร พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่เพียงพอที่จะฟังเอาผิดแก่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2072/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีวิ่งราวทรัพย์โดยอาศัยพยานหลักฐานจากผู้เสียหายที่จำได้ลักษณะคนร้าย
ผู้เสียหายมีโอกาสเห็นคนร้ายที่ผู้เสียหายอ้างว่าคือจำเลยในระยะใกล้ถึงสองครั้ง ประกอบทั้งคนร้ายที่ผู้เสียหายอ้างว่าคือจำเลยนี้มีหน้าตาคล้าย พ. ซึ่งเป็นคนที่ผู้เสียหายรู้จักเช่นนี้จึงมีเหตุที่ผู้เสียหายจะจดจำคนร้ายคนนี้ได้เป็นพิเศษที่ผู้เสียหายอ้างว่าจำคนร้ายได้ในขณะที่เห็นทั้งสองครั้งจึงสมเหตุสมผล และหากผู้เสียหายจำไม่ได้แน่ชัดว่าจำเลยเป็นคนร้ายแล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้เสียหายจะชี้บอกสามีผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นคนร้าย และต่อมาได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยแล้วหลังจากนั้นผู้เสียหายก็ยังชี้ตัวจำเลยยืนยันว่าเป็นคนร้าย ซึ่งเป็นข้อสนับสนุนให้เห็นว่าผู้เสียหายจำได้โดยแน่ชัดว่าจำเลยเป็นคนร้าย ดังนี้ พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้โดยแจ้งชัดปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่วิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายด้วยคนหนึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเลิกจ้างพนักงานต้องมาจากกรรมการผู้จัดการ หรือผู้ได้รับมอบหมายจากกรรมการฯ การกระทำของภรรยาผู้บริหารจึงไม่ถือเป็นการเลิกจ้าง
ภรรยาของกรรมการผู้จัดการของจำเลยมิใช่กรรมการผู้จัดการของจำเลยที่จะมีอำนาจเลิกจ้างพนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยได้และภรรยาของกรรมการผู้จัดการของจำเลยมิได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้จัดการของจำเลยให้มีอำนาจเลิกจ้างพนักงานหรือลูกจ้างของจำเลย ภรรยาของกรรมการผู้จัดการของจำเลยจึงไม่มีอำนาจเลิกจ้างโจทก์ซึ่งเป็นพนักงาน การที่ภรรยากรรมการผู้จัดการของจำเลยบอกโจทก์ไม่ให้มาทำงานต่อไป ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์