คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อุระ หวังอ้อมกลาง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 897 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์ทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แสดงเจตนาฆ่า ประมวลโทษฐานพยายามฆ่าและริบของกลาง
แม้ในตอนแรกจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายโดยการเตะแต่เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเตะซ้ำและจับขาจำเลยล้มลง จำเลยใช้ขวดสุราตีที่ใบหูผู้เสียหายโดยแรงจนขวดสุราแตก แล้วเอาขวดสุราที่แตกแทงบริเวณลำคอของผู้เสียหาย 1 ครั้ง เกิดบาดแผลที่ใบหูกว้างยางประมาณ 1/4x2 เซนติเมตร และลำคอเป็นแผลปากฉลามกว้างยาวประมาณ 4x4 เซนติเมตร แล้วจำเลยใช้ขวานหน้ากว้างประมาณ 3 นิ้วครึ่ง ตัวขวานยาวประมาณ 5 นิ้วครึ่ง ด้ามยาวประมาณ28 นิ้วครึ่ง ฟันที่บริเวณไหล่ซ้ายใกล้ลำคอผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายยกมือขึ้นกันเอาไว้เมื่อมีผู้มาห้ามปราม จำเลยก็พูดว่าจะซ้ำให้ตาย พฤติการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ชัดว่าจำเลยเจตนาจะกระทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาพิพากษาความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ขวดแตกซึ่งมีลักษณะเป็นปากฉลามแทงผู้เสียหายโดย แรงที่ลำคออันเป็นอวัยวะสำคัญ เป็นผลให้ที่ลำคอซีกซ้ายของผู้เสียหายเป็นบาดแผลปากฉลาม กว้าง ยาวประมาณ 4x4 เซนติเมตร โลหิตพุ่ง ออกไม่ขาดสาย หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีแล้วผู้เสียหายอาจเสียโลหิตมากและเสียชีวิตได้ และจำเลยยังใช้ขวานผ่า ฟืน หน้าขวานกว้างประมาณ 3 นิ้วครึ่ง ตัวขวานยาวประมาณ 5 นิ้วครึ่งและด้ามขวานยาวประมาณ 28 นิ้วครึ่ง อันเป็นอาวุธประเภทของมี คมขนาด ใหญ่ฟันผู้เสียหายที่บริเวณไหล่ใกล้ลำคอ ซึ่งถ้าผู้เสียหายไม่ยกมือขึ้นกันเอาไว้ คมขวานก็อาจจะไปถูกลำคอผู้เสียหายได้ นอกจากนี้จำเลยยังบอกผู้ที่เข้ามาห้ามปรามว่า จำเลยจะซ้ำผู้เสียหายให้ตายพฤติการณ์ของจำเลยบ่งชี้ชัดว่ามีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาพิพากษาความผิดฐานพยายามฆ่าและริบของกลาง
แม้ในตอนแรกจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายโดยการเตะแต่เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเตะซ้ำและจับขาจำเลยล้มลง จำเลยใช้ขวดสุราตีที่ใบหูผู้เสียหายโดยแรงจนขวดสุราแตก แล้วเอาขวดสุราที่แตกแทงบริเวณลำคอของผู้เสียหาย 1 ครั้ง เกิดบาดแผลที่ใบหูกว้างยางประมาณ 1/4 x 2 เซนติเมตร และลำคอเป็นแผลปากฉลามกว้างยาวประมาณ 4 x 4 เซนติเมตร แล้วจำเลยใช้ขวานหน้ากว้างประมาณ 3 นิ้วครึ่ง ตัวขวานยาวประมาณ 5 นิ้วครึ่ง ด้ามยาวประมาณ 28 นิ้วครึ่ง ฟันที่บริเวณไหล่ซ้ายใกล้ลำคอผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายยกมือขึ้นกันเอาไว้เมื่อมีผู้มาห้ามปราม จำเลยก็พูดว่าจะซ้ำให้ตาย พฤติการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ชัดว่าจำเลยเจตนาจะกระทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่าจากอาวุธปืนปากกา ศาลฎีกาพิพากษาว่าเจตนายิงมีเจตนาฆ่า
อาวุธปืนชนิดปากกาที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหาย ลำกล้องปืนมีความยาว 6 นิ้ว หัวปากกาที่เป็นอาวุธปืนกว้างครึ่งนิ้ว มีปุ่มสำหรับง้างขึ้นลำและกดเพื่อยิง มีร่องสปริงเข็มแทงชนวนและเกลียวสำหรับหมุน เข้าออกเพื่อใส่กระสุน มีรูลำกล้องและปากลำกล้องบรรจุกระสุนปืนขนาด .22 เวลาจะยิงต้องดึงสปริงขึ้นไปค้างไว้แล้วกดปุ่มปลดสปริงให้ดีด ตัวไปดันเข็มแทงชนวน ใช้ยิงในระยะใกล้ ๆบรรจุกระสุนได้ทีละนัด ลักษณะของอาวุธปืนดังกล่าวและการใช้เหมือนอาวุธปืนพก ดังนั้น การที่จำเลยใช้อาวุธปืนนี้บรรจุกระสุนปืนขนาด .22 ยิงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าจากอาวุธปืนปากกา: เจตนาฆ่าและลักษณะอาวุธร้ายแรง
อาวุธปืนชนิดปากกาที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหาย ลำกล้องปืนมีความยาว 6 นิ้ว หัวปากกาที่เป็นอาวุธปืนกว้างครึ่งนิ้ว มีปุ่มสำหรับง้างขึ้นลำและกดเพื่อยิง มีร่องสปริง เข็มแทงชนวนและเกลียวสำหรับหมุน เข้าออกเพื่อใส่กระสุน มีรูลำกล้องและปากลำกล้องบรรจุกระสุนปืนขนาด .22 เวลาจะยิงต้องดึงสปริง ขึ้นไปค้างไว้แล้วกดปุ่ม ปลดสปริง ให้ดีด ตัวไปดันเข็มแทงชนวน ใช้ยิงในระยะใกล้ ๆบรรจุกระสุนได้ทีละนัด ลักษณะของอาวุธปืนดังกล่าวและการใช้เหมือนอาวุธปืนพก ดังนั้น การที่จำเลยใช้อาวุธปืนนี้บรรจุกระสุนปืนขนาด .22 ยิงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ราคาเครื่องสังคโลกและสิทธิหักกลบลบหนี้: ศาลยืนราคาตามสัญญา และมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องหักกลบลบหนี้ได้
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่า โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยคืนเครื่องสังคโลก ได้ หรือไม่ เพียงใด เมื่อจำเลยนำสืบโต้แย้งตามคำให้การว่าจำเลยมีสิทธิยึดเงินที่จะต้องชำระแก่โจทก์ไว้ก่อนจนกว่าโจทก์จะชำระเงินค่าพระพุทธรูปและรูปปั้นยักษ์ สังคโลกจำนวน 300,000 บาท ที่ค้างจำเลยเสียก่อนซึ่งเป็นลักษณะที่จะหักกลบลบหนี้ ศาลจึงมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้หรือไม่ ไม่เป็นการนอกประเด็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยการหักกลบลบหนี้เมื่อจำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคดี
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่า โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยคืนเครื่องสังคโลกได้หรือไม่ เพียงใด เมื่อจำเลยนำสืบโต้แย้งตามคำให้การว่าจำเลยมีสิทธิยึดเงินที่จะต้องชำระแก่โจทก์ไว้จนกว่าโจทก์จะชำระเงินค่าพระพุทธรูปและรูปปั้นยักษ์สังคโลกจำนวน 300,000 บาท ที่ค้างจำเลยเสียก่อน ซึ่งเป็นลักษณะที่จะหักกลบลบหนี้ ศาลจึงมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้หรือไม่ ไม่เป็นการนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ได้บรรยายฐานะผู้ฟ้อง หากบรรยายข้อหาและคำขอชัดเจนเพียงพอ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยตกลงให้โจทก์ทั้งห้ากับพวกเช่าโรงแรมพิพาทโดยโจทก์จ่ายเงินค่าตอบแทนให้จำเลยเป็นเงิน1,000,000 บาท จำเลยผิดสัญญานำโรงแรมพิพาทไปให้บุคคลอื่นเช่า โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอบังคับให้จำเลยคืนเงินจำนวน1,000,000 บาท แก่โจทก์ทั้งห้า เป็นคำฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 172 หาจำต้องบรรยายถึงฐานะตนเองมาในคำฟ้องด้วยไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราโทรมหญิง: การกระทำร่วมกันเป็นตัวการ
ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายไปเที่ยวงานศพที่วัด จนกระทั่งเวลา 21นาฬิกาเศษจะกลับบ้าน พบจำเลย ล. และ ช. ซึ่งรู้จักกันมาก่อน ล. รับอาสาพาผู้เสียหายไปส่งบ้าน ผู้เสียหายตกลงไปด้วยแต่เมื่อออกจากบริเวณงานได้ประมาณ 1 เส้น ล. ฉุด ผู้เสียหายเข้าป่าละเมาะข้างทาง อันเป็นที่เปลี่ยวและมืด แล้วข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ จากนั้น ล. ก็ผิวปากเป็นสัญญาณให้จำเลยกับ ช. เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อจนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง ดังนี้ลักษณะการกระทำของจำเลยกับพวกดังกล่าว แสดงว่ามีเจตนาร่วมเป็นตัวการในการผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 276 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องปราศจากสิทธิของเจ้าของที่ดิน แม้ครอบครองเกิน 10 ปีก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์ และการได้รับอนุญาตคนอนาถายังต้องรับผิดค่าฤชาธรรมเนียม
ผู้ร้องเข้าอยู่ในที่ดินพิพาทโดย อาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินแม้ครอบครองเป็นเวลาเกิน 10 ปี ก็หาได้ กรรมสิทธิ์โดย การครอบครองปรปักษ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 ไม่ การได้ รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดย ไม่ ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินคดีในศาลนั้น เป็นคนละเรื่องกับความรับผิดของคู่ความฝ่ายแพ้คดีที่จะต้อง ชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทน คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง แม้ผู้ร้องจะได้ รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา แต่ เมื่อผู้ร้องเป็นฝ่ายแพ้คดี ศาลก็ชอบที่จะพิพากษา ให้ผู้ร้องใช้ ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้คัดค้านได้.
of 90