คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จิระ บุญพจนสุนทร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 531 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3816/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการสูญเสียสิทธิเรียกร้องการครอบครองที่ดิน
จำเลยบุกรุกเข้าแย่งการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ร่วมเมื่อโจทก์ร่วมมิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน1ปีนับแต่เวลาที่จำเลยบุกรุกเข้าแย่งการครอบครองโจทก์ร่วมย่อมหมดสิทธิฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375วรรคสองสิทธิครอบครองของโจทก์ร่วมจึงสิ้นสุดลงดังนั้นเมื่อระยะเวลาตามที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกสิทธิครอบครองในที่ดินของโจทก์ร่วมได้สิ้นสุดลงแล้วการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362,365

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาซื้อขายทรัพย์สินที่มีภาระผูกพัน และการผิดสัญญาโอนกรรมสิทธิ์
ตามสัญญาประกอบด้วยคำแปลคำรับรองที่จำเลยให้ไว้เพียงเป็นผู้รับประโยชน์และเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งประเทศที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดังกล่าวโดยมีภาระหนี้สินจะต้องไถ่ถอนหรือปฏิบัติบางประเภทเท่านั้นคำรับรองของจำเลยที่ปรากฏจึงมิอาจถือเป็นความเท็จได้ส่วนสัญญาข้อ2ซึ่งเป็นข้อความที่จำเลยให้การรับรองว่าทรัพย์สินที่ซื้อขายจะปลอดจากข้อผูกพันและพันธกรณีต่างๆโดยสิ้นเชิงณวันครบกำหนดนั้นแสดงได้ว่าในขณะทำสัญญาทรัพย์สินยังมีข้อผูกพันหรือพันธกรณีอยู่แต่จำเลยมีหน้าที่จะต้องจัดการให้ปลอดจากข้อผูกพันหรือพันธกรณีหลังจากวันทำสัญญาชี้ชัดได้ว่าจำเลยมิได้ปิดบังความจริงแต่ประการใดที่ผู้เสียหายเข้าทำสัญญาจึงมิได้มีความหลงเชื่อแต่ประการใด สำหรับในส่วนแพ่งสัญญาในข้อ2กำหนดหน้าที่ของจำเลยจะต้องจัดการให้ทรัพย์สินปลอดจากข้อผูกพันหรือพันธกรณีพร้อมที่จะโอนให้แก่ผู้เสียหายในวันครบกำหนดซึ่งเป็นวันเดียวกับที่จะรับเงินจากผู้เสียหายแต่จำเลยรับว่าจำเลยรับเงินจากผู้เสียหายไปแล้วประมาณ10วันจึงได้จัดการนำเงินไปชำระตามข้อผูกพันจึงถือว่าจำเลยผิดสัญญาจำเลยจึงไม่มีมูลที่จะอาศัยอ้างเพื่อยึดถือเงินที่ได้จากผู้เสียหายตามสัญญาไว้ต่อไปต้องคืนให้แก่ผู้เสียหายตามที่โจทก์ขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายทรัพย์สิน: หน้าที่ไถ่ถอนภาระหนี้สิน & การผิดสัญญา
ตามสัญญาประกอบด้วยคำแปล คำรับรองที่จำเลยให้ไว้เพียงเป็นผู้รับประโยชน์และเป็นเจ้าของอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งประเทศที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่ จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดังกล่าวโดยมีภาระหนี้สินจะต้องไถ่ถอนหรือปฏิบัติบางประเภทเท่านั้น คำรับรองของจำเลยที่ปรากฏจึงมิอาจถือเป็นความเท็จได้ ส่วนสัญญาข้อ 2 ซึ่งเป็นข้อความที่จำเลยให้การรับรองว่า ทรัพย์สินที่ซื้อขายจะปลอดจากข้อผูกพันและพันธกรณีต่าง ๆ โดยสิ้นเชิง ณ วันครบกำหนดนั้นแสดงได้ว่าในขณะทำสัญญาทรัพย์สินยังมีข้อผูกพันหรือพันธกรณีอยู่ แต่จำเลยมีหน้าที่จะต้องจัดการให้ปลอดจากข้อผูกพันหรือพันธกรณีหลังจากวันทำสัญญา ชี้ชัดได้ว่าจำเลยมิได้ปิดบังความจริงแต่ประการใด ที่ผู้เสียหายเข้าทำสัญญาจึงมิได้มีความหลงเชื่อแต่ประการใด
สำหรับในส่วนแพ่ง สัญญาในข้อ 2 กำหนดหน้าที่ของจำเลยจะต้องจัดการให้ทรัพย์สินปลอดจากข้อผูกพันหรือพันธกรณีพร้อมที่จะโอนให้แก่ผู้เสียหายในวันครบกำหนดซึ่งเป็นวันเดียวกับที่จะรับเงินจากผู้เสียหาย แต่จำเลยรับว่าจำเลยรับเงินจากผู้เสียหายไปแล้วประมาณ 10 วัน จึงได้จัดการนำเงินไปชำระตามข้อผูกพัน จึงถือว่าจำเลยผิดสัญญา จำเลยจึงไม่มีมูลที่จะอาศัยอ้างเพื่อยึดถือเงินที่ได้จากผู้เสียหายตามสัญญาไว้ต่อไป ต้องคืนให้แก่ผู้เสียหายตามที่โจทก์ขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3760/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมเฉพาะส่วน: สิทธิในทรัพย์สินที่ระบุไม่ถูกต้อง ทำให้พินัยกรรมส่วนนั้นไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ทำให้พินัยกรรมทั้งหมดเป็นโมฆะ
ผู้คัดค้านฎีกาว่า ทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.1ส. มีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกับ ต. เฉพาะที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 5195 ตำบลบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เท่านั้น ส่วนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 736 ตำบลบ้านไผ่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น มีชื่อ ต.เป็นเจ้าของคนเดียว ซึ่งเมื่อทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.1 ไม่ใช่ของ ส. พินัยกรรมดังกล่าวจึงขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646 ฟังไม่ได้ว่าเป็นพินัยกรรมนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็หาทำให้พินัยกรรมเอกสารหมายร.1 เป็นโมฆะไม่ เพราะพินัยกรรมเฉพาะที่ดินในส่วนที่เป็นสิทธิของเจ้ามรดกย่อมสมบูรณ์ ทั้งชั้นนี้เป็นเพียงการขอเป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้น ยังไม่มีประเด็นเรื่องการแบ่งมรดกซึ่งถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็ต้องไปว่ากล่าวกันต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3760/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกและขอบเขตพินัยกรรม: สิทธิในทรัพย์สินและอำนาจผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านฎีกาว่าทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมายร.1ส. มีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกับ ต. เฉพาะที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)เลขที่5195ตำบล บ้านไผ่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้นส่วนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)เลขที่736ตำบล บ้านไผ่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นมีชื่อ ต. เป็นเจ้าของคนเดียวซึ่งเมื่อทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมายร.1ไม่ใช่ของ ส. พินัยกรรมดังกล่าวจึงขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1646ฟังไม่ได้ว่าเป็นพินัยกรรมนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็หาทำให้พินัยกรรมเอกสารหมายร.1เป็นโมฆะไม่เพราะพินัยกรรมเฉพาะที่ดินในส่วนที่เป็นสิทธิของเจ้ามรดกย่อมสมบูรณ์ทั้งชั้นนี้เป็นเพียงการขอเป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้นยังไม่มีประเด็นเรื่องการแบ่งมรดกซึ่งถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็ต้องไปว่ากล่าวกันต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3760/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้จัดการมรดก: สิทธิการขอเป็นผู้จัดการมรดก ความสมบูรณ์ของพินัยกรรมเฉพาะส่วน และข้อโต้แย้งเรื่องทรัพย์สิน
ผู้คัดค้านฎีกาว่าทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมายร.1ส. มีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกับ ต. เฉพาะที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)เลขที่5195ตำบล บ้านไผ่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้นส่วนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)เลขที่736ตำบล บ้านไผ่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นมีชื่อ ต. เป็นเจ้าของคนเดียวซึ่งเมื่อทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมายร.1ไม่ใช่ของ ส. พินัยกรรมดังกล่าวจึงขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1646ฟังไม่ได้ว่าเป็นพินัยกรรมนั้นแม้ข้อเท็จจริงจะเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็หาทำให้พินัยกรรมเอกสารหมายร.1เป็นโมฆะไม่เพราะพินัยกรรมเฉพาะที่ดินในส่วนที่เป็นสิทธิของเจ้ามรดกย่อมสมบูรณ์ทั้งชั้นนี้เป็นเพียงการขอเป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้นยังไม่มีประเด็นเรื่องการแบ่งมรดกซึ่งถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็ต้องไปว่ากล่าวกันต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3760/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเป็นผู้จัดการมรดกและการสมบูรณ์ของพินัยกรรมเฉพาะส่วนที่ดิน
ผู้คัดค้านฎีกาว่า ทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.1ส.มีชื่อเป็นเจ้าของร่วมกับต. เฉพาะที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 5195 ตำบลบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่น เท่านั้น ส่วนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) เลขที่ 736 ตำบลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นมีชื่อ ต. เป็นเจ้าของคนเดียว ซึ่งเมื่อทรัพย์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.1ไม่ใช่ของส. พินัยกรรมดังกล่าวจึงขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1646 ฟังไม่ได้ว่าเป็นพินัยกรรมนั้น แม้ข้อเท็จจริงจะเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็หาทำให้พินัยกรรมเอกสารหมาย ร.1 เป็นโมฆะไม่ เพราะพินัยกรรมเฉพาะที่ดินในส่วนที่เป็นสิทธิของเจ้ามรดกย่อมสมบูรณ์ ทั้งชั้นนี้เป็นเพียงการขอเป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้น ยังไม่มีประเด็นเรื่องการแบ่งมรดกซึ่งถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่ผู้คัดค้านฎีกาก็ต้องไปว่ากล่าวกันต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3745/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อพิพาทสัญญาซื้อขายและเช็ค: ศาลวินิจฉัยตามประเด็นที่ถูกต้องได้ แม้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยซื้อสินค้าปุ๋ยเคมีจากโจทก์และสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระค่าสินค้า แต่เช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินขอให้จำเลยชำระค่าสินค้าพร้อมดอกเบี้ย กรณีจึงเป็นการฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ในมูลหนี้ตามสัญญาซื้อขาย แม้จำเลยจะให้การต่อสู้ว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้เพราะไม่มีการส่งมอบสินค้าตามสัญญาซื้อขายและเช็คขาดอายุความแล้วก็ตามคดีก็ไม่มีประเด็นพิพาทเรื่องมูลหนี้ตามเช็ค การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า เช็คพิพาทมีมูลหนี้หรือไม่ และฟ้องโจทก์ขาดอายุความ (ตามเช็ค) หรือไม่จึงไม่ถูกต้อง ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ถูกต้องได้ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายจึงเป็นไปตามประเด็นที่ถูกต้องไม่ถือเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับให้โจทก์เป็นการชำระหนี้ ไม่ใช่เพียงให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกัน และจำเลยไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งข้อที่ศาลชั้นต้นฟังมาดังกล่าว จึงฟังเป็นยุติว่าจำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ ฎีกาของจำเลยที่ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำให้การจำเลยไม่ชัดแจ้งเคลือบคลุมเป็นการไม่ชอบ เพราะตามคำให้การจำเลยชัดแจ้งว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับเป็นประกันในการที่จำเลยสั่งซื้อปุ๋ยเคมีจากโจทก์นั้น แม้จะฟังดังที่จำเลยฎีกามาก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของจำเลย ย่อมไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อศาลฟังว่าจำเลยต้องรับผิดชำระหนี้แก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขายปุ๋ยเคมี ปัญหาเรื่องอายุความก็ต้องปรับด้วย ป.พ.พ.มาตรา 193/34จะปรับอายุความเรื่องเช็คตาม ป.พ.พ. มาตรา 1002 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3745/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อพิพาทเรื่องมูลหนี้จากการซื้อขายปุ๋ยเคมีและการบังคับชำระหนี้ตามเช็คที่ถูกปฏิเสธ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยซื้อสินค้าปุ๋ยเคมีจากโจทก์และสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระค่าสินค้า แต่เช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินขอให้จำเลยชำระค่าสินค้าพร้อมดอกเบี้ยกรณีจึงเป็นการฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ในมูลหนี้ตามสัญญาซื้อขาย แม้จำเลยจะให้การต่อสู้ว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้เพราะไม่มีการส่งมอบสินค้าตามสัญญาซื้อขายและเช็คขาดอายุความแล้วก็ตามคดีก็ไม่มีประเด็นพิพาทเรื่องมูลหนี้ตามเช็ค การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า เช็คพิพาทมีมูลหนี้หรือไม่ และฟ้องโจทก์ขาดอายุความ(ตามเช็ค) หรือไม่ จึงไม่ถูกต้อง ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ถูกต้องได้ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายจึงเป็นไปตามประเด็นที่ถูกต้องไม่ถือเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับให้โจทก์เป็นการชำระหนี้ ไม่ใช่เพียงให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันและจำเลยไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งข้อที่ศาลชั้นต้นฟังมาดังกล่าวจึงฟังเป็นยุติว่าจำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ ฎีกาของจำเลยที่ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำให้การจำเลยไม่ชัดแจ้งเคลือบคลุมเป็นการไม่ชอบ เพราะตามคำให้การจำเลยชัดแจ้งว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับเป็นประกันในการที่จำเลยสั่งซื้อปุ๋ยเคมีจากโจทก์นั้น แม้จะฟังดังที่จำเลยฎีกามาก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของจำเลย ย่อมไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เมื่อศาลฟังว่าจำเลยต้องรับผิดชำระหนี้แก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขายปุ๋ยเคมี ปัญหาเรื่องอายุความก็ต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 จะปรับอายุความเรื่องเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3739/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คำพิพากษายกฟ้องที่วินิจฉัยความไม่สมบูรณ์ของฟ้อง เป็นคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหน้าที่และการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติของจำเลยมีจริงหรือไม่เป็นองค์ประกอบสำคัญในความผิดที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีก่อนที่ว่าฟ้องโจทก์ไม่บรรยายแจ้งชัดว่าจำเลยมีหน้าที่และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไรจึงเป็นการวินิจฉัยขาดในข้อเท็จจริงแห่งการกระทำของจำเลยตามคำฟ้องโจทก์ว่าไม่เป็นความผิดจึงเป็นคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(4)โจทก์จึงฟ้องจำเลยในการกระทำความผิดอย่างเดียวกันกับคดีก่อนอีกไม่ได้
of 54