คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 219

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาเรื่องการลงโทษคดีอาวุธปืนและการขัดขวางเจ้าพนักงาน ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากจำเลยมีสิทธิฎีกาจำกัดตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 1 ปี และปรับ 2,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ จำคุก 6 เดือนและปรับ 500 บาท ฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน จำคุก 2 เดือน และปรับ 500 บาท รวมจำคุก 1 ปี 8 เดือนและปรับ 3,250 บาทและให้รอการลงโทษจำเลยไว้ภายในกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะจำคุก 3 เดือนฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงานจำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 10 เดือน ปรับ 250 บาทโดยไม่รอการลงโทษ เป็นความผิด 4 กระทง แต่ละกระทง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แม้ศาลอุทธรณ์จะแก้เป็นไม่รอการลงโทษ จำเลยก็ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยเอกสารรายงาน ไม่ถือเป็นการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
คำว่า 'โฆษณา' ตามพจนานุกรมให้คำจำกัดความว่า การเผยแพร่หนังสือออกไปยังสาธารณชน การป่าวร้อง คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยกระทำหมิ่นประมาทโจทก์ ด้วยการทำเป็นบันทึกแทนการพูดด้วยวาจา โดยเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและส่งสำเนาให้ปลัดกระทรวงทราบด้วย ก็เป็นเพียงการรายงานความประพฤติของโจทก์ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปได้ทราบเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าการหมิ่นประมาทนั้นกระทำด้วยการโฆษณาตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และมิใช่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาตามมาตรา 393 ด้วย
คดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย แม้โจทก์จะฎีกาด้วยว่าควรลงโทษจำเลยสูงขึ้น ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1891/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์ ทำให้จำเลยไม่สามารถฎีกาขอรอการลงโทษได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด 2 กระทง รวมโทษแต่ละกระทงและลดแล้วคงจำคุก 6 เดือน ปรับ 1,500 บาทรอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ ดังนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเว้นการชันสูตรหลักฐานทางคดี ความผิดมาตรา 157 ศาลฎีกาแก้ไขโทษรอการลงโทษพิจารณาจากอายุและประวัติจำเลย
จำเลยรับราชการเป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลได้ตรวจชันสูตรบาดแผลของ พ. ซึ่งถูกข่มขืนกระทำชำเราละเว้นไม่ส่งซับน้ำในช่องคลอดของ พ. ไปหาเชื้อของน้ำอสุจิตามระเบียบและกรอกข้อความลงในรายงานผลการตรวจชันสูตรเอาเอง พ. ย่อมเป็นผู้เสียหายและได้รับความเสียหายเพราะการกระทำของจำเลยแล้วจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157
ในคดีที่ฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมายเมื่อปรากฏว่าจำเลยอายุ 57 ปี รับราชการเป็นพยาบาลไม่เคยกระทำผิดมาก่อนโดยพฤติการณ์และเหตุผลแห่งรูปคดีมีเหตุสมควรศาลฎีกาย่อมมีอำนาจเปลี่ยนแปลงดุลพินิจในการวางโทษจำคุกที่ศาลอุทธรณ์กำหนดไว้โดยให้รอการลงโทษไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมโดยมิชอบและการปฏิบัติหน้าที่เกินอำนาจของเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ่งทำการจับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับนั้นว่า เขาต้องถูกจับ จำเลยกับพวกมิได้บอกว่าโจทก์จะต้องถูกจับ เพียงแต่แจ้งว่า จะเอาไปสอบสวนคดีใหม่ และไม่ได้บอกด้วยว่าคดีอะไร โจทก์เข้าใจว่าเอาไปสอบสวนเพิ่มเติมคดีเรื่องโคของโจทก์หายที่เคยแจ้งความไว้ จึงได้ไปกับจำเลย ดังนี้ ถือว่าเป็นการจับโดยชอบด้วยกฎหมายได้หาไม่
จำเลยเป็นตำรวจตำแหน่งสารวัตรใหญ่ โกรธแค้นโจทก์ที่มีหนังสือร้องเรียนถึงผู้กำกับฯ กล่าวหาว่า จำเลยรับสินบนจากผู้ต้องหา 2 คน ข้อหาลักทรัพย์ ของโจทก์แล้วสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาสองคนนั้น จำเลยกับตำรวจอื่นที่สถานีเดียวกัน ได้นำตัวโจทก์ไปอ้างว่า จะพาไปสอบสวนคดีใหม่ แต่พาโจทก์ไปที่บ้านพักตำรวจแห่งหนึ่ง แล้วทำร้ายโจทก์และใส่กุญแจมือแล้วพาโจทก์ไปที่ควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจ ดังนี้เป็นการกระทำที่ลุอำนาจและเกินความเหมาะสมในการจับกุม เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่รอการลงโทษจำคุกแต่โทษคงเดิม ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 219 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการปฏิบัติหน้าที่มิชอบของเจ้าพนักงาน
ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซึ่งทำการจับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับนั้นว่าเขาต้องถูกจับ จำเลยกับพวกมิได้บอกว่าโจทก์จะต้องถูกจับ เพียงแต่แจ้งว่าจะเอาไปสอบสวนคดีใหม่ และไม่ได้บอกด้วยว่าคดีอะไร โจทก์เข้าใจว่าเอาไปสอบสวนเพิ่มเติมคดีเรื่องโคของโจทก์หายที่เคยแจ้งความไว้ จึงได้ไปกับจำเลย ดังนี้ ถือว่าเป็นการจับโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่
จำเลยเป็นตำรวจตำแหน่งสารวัตรใหญ่ โกรธแค้นโจทก์ที่มีหนังสือร้องเรียนถึงผู้กำกับฯ กล่าวหาว่าจำเลยรับสินบนจากผู้ต้องหา 2 คน ข้อหาลักทรัพย์ของโจทก์แล้วสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาสองคนนั้น จำเลยกับตำรวจอื่นที่สถานีเดียวกันได้นำตัวโจทก์ไปโดยอ้างว่าจะพาไปสอบสวนคดีใหม่แต่พาโจทก์ไปที่บ้านพักตำรวจแห่งหนึ่ง แล้วทำร้ายโจทก์และใส่กุญแจมือแล้วพาโจทก์ไปควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจดังนี้ เป็นการกระทำที่ลุอำนาจและเกินความเหมาะสมในการจับกุม เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 500 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่รอการลงโทษจำคุกแต่โทษคงเดิม ดังนี้จำเลยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา219 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 มาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกและผลกระทบต่อการฎีกาในคดีอาวุธปืน
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด 2 กระทง รวม โทษ แต่ละ กระทง และ ลด แล้ว คง จำคุก 6 เดือน ปรับ 1,500 บาท รอการลงโทษ จำคุก ไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น จำคุก 6 เดือน โดย ไม่รอการลงโทษ ดังนี้ ต้องห้าม ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง และการเบิกความพยานซ้ำ
คดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3 (1) ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่า บัญชีกระแสรายวันเลขที่ 009 ไม่มีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของบัญชี โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องให้แจ้งชัดว่าโจทก์ได้เปิดบัญชีนั้นโดยใช้นามอื่น เชื่อไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหาย ข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏทางพิจารณา ดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างตนเองเป็นพยานแล้ว เมื่อโจทก์ขออนุญาตเบิกความเป็นครั้งที่สอง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมอีก การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เบิกความเป็นพยานเพิ่มเติมอีกครั้ง เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะอนุญาตได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228 คำเบิกความของโจทก์ครั้งที่สองจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง และอำนาจศาลในการอนุญาตเบิกความพยานเพิ่มเติม
คดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3(1) ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 6 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่าบัญชีกระแสรายวันเลขที่ 009 ไม่มีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของบัญชีโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องให้แจ้งชัดว่าโจทก์ได้เปิดบัญชีนั้นโดยใช้นามอื่นเชื่อไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏทางพิจารณาดังนี้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานอ้างตนเองเป็นพยานแล้ว เมื่อโจทก์ขออนุญาตเบิกความเป็นครั้งที่สอง ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมอีก การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์เบิกความเป็นพยานเพิ่มเติมอีกครั้ง เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะอนุญาตได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา228 คำเบิกความของโจทก์ครั้งที่สองจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641-642/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทลงโทษและการพิจารณาโทษใหม่ ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาโทษและรอการลงโทษได้
ความผิดแต่ละกระทงศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกเพียง 6 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้าม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 177 ศาลล่างนำมาตรา 181 ซึ่งมีโทษหนักกว่ามาปรับบทลงโทษด้วย เมื่อศาลฎีกาตัดมาตราดังกล่าวออกแล้วย่อมมีอำนาจพิจารณาถึงโทษว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่และให้รอการลงโทษได้
of 50