คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 219

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: จำเลยขอให้วินิจฉัยข้อเท็จจริงซ้ำ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
การที่ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงนั้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงต่างกันก็ตาม จำเลยก็ฎีกาขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับฟังข้อเท็จจริงใหม่ โจทก์โต้แย้งข้อเท็จจริงเดิมที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้ว
ดคีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกรอกวันเดือนปีลงในเช็คโดยสุจริต แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนโดยฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์กรอกวันเดือนปีในเช็คมอบให้จำเลยไป นั้น โจทก์ย่อมฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริงอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สินในที่ดินที่อพยพย้ายออกไปแล้ว ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แม้เจ้าของจะรื้อถอนไปบ้าง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
ทำลายทรัพย์ของผู้อื่นซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินที่ผู้นั้นอพยพย้ายออกไปจากที่ดินนั้นแล้ว ไม่ว่าที่ดินนั้นจะเป็นที่สาธารณหรือของบุคคลใดก็ดี หากบุคคลนั้นยังหวงแหนว่าทรัพย์นั้นเป็นของตนอยู่ก็ถือว่า มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้เสียหายถึงขนาดหรือทำโดยแกล้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายทรัพย์สินในที่ดินที่อพยพย้ายออกไปแล้ว ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แม้จะไม่ได้ทำลายแกล้ง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา
ทำลายทรัพย์ของผู้อื่นซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินที่ผู้นั้นอพยพย้ายออกไปจากที่ดินนั้นแล้ว ไม่ว่าที่ดินนั้นจะเป็นที่สาธารณะหรือของบุคคลใดก็ดี หากบุคคลนั้นยังหวงแหนว่าทรัพย์นั้นเป็นของตนอยู่ก็ถือว่า มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้เสียหายถึงขนาดหรือทำโดยแกล้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: ดุลพินิจไม่อนุญาตฟ้องนอกเขต หากโจทก์สามารถมอบอำนาจทนายได้
ศาลล่าง 2 ศาลพิพากษาต้องกันให้คืนฟ้อง ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
เหตุคดีอาญาเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษและจำเลยก็อยู่ในห้องที่จังหวัดศรีสะเกษแต่ตัวโจทก์ต้องควบคุมอยู่ที่จังหวัดพระนคร ดังนี้การที่ศาลอาญาใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลอาญา เป็นดุลพินิจที่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอคืนไม้ของกลาง: เจ้าของไม้มีสิทธิแม้ศาลตัดสินถึงที่สุดแล้วว่าไม้เป็นไม้หวงห้าม หากพิสูจน์ได้ว่าไม้ไม่ได้มีลักษณะเป็นไม้หวงห้าม
ถึงแม้ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้เป็นความผิดและให้ริบไม้ของกลางแล้วก็ดีเจ้าของไม้ย่อมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ขอคืนไม้ของกลางโดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นไม้หวงห้ามเพราะขึ้นอยู่ในที่สวนของตนได้เพราะเจ้าของไม้ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ คำพิพากษานั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของไม้
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอคืนไม้ของกลาง: เจ้าของไม้มีสิทธิแม้ศาลตัดสินแล้วว่าไม้เป็นไม้หวงห้าม หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นไม้ในสวนของตน
ถึงแม้ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าไม่ของกลางเป็นไม้หวงห้าม จำเลยมีไว้เป็นความผิดและให้ริบไม้ของกลางแล้วก็ดี เจ้าของไม่ยอมใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 ขอคืนไม้ของกลางโดยอ้างว่าไม่ใช่เป็นไม้หวงห้าม เพราะขึ้นอยู่ในสวนของตนได้ เพราะเจ้าของไม้ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีกับโจทก์ คำพิพากษานั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของไม้
เมื่อผู้ร้องร้องขอคืนไม้ของกลางในกรณีเช่นนี้ ถึงแม้ศาลแขวงสั่งยกคำร้องก็ดี ผู้ร้องมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 ที่ห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์-ประโยชน์มิได้รับ: ศาลฎีกายกฟ้องเนื่องจากแม้ฟ้องสมบูรณ์ก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายด้วย สำหรับข้อเท็จจริงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฎีกาของโจทก์ในข้อกฎหมายที่ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วนั้น แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยไปก็ไม่มีประโยชน์ หากจะฟังว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ ก็ไม่ทำให้โจทก์ได้รับประโยชน์ เพราะจะเอาความผิดแก่จำเลยมิได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เพราะไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ – ศาลฎีกายกฟ้อง เพราะแม้ฟ้องสมบูรณ์ก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายด้วยสำหรับข้อเท็จจริงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฎีกาของโจทก์ในข้อกฎหมายที่ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วนั้น แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยไปก็ไม่มีประโยชน์ หากจะฟังว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ ก็ไม่ทำให้โจทก์ได้รับประโยชน์ เพราะจะเอาความผิดแก่จำเลยมิได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เพราะไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: ข้อแตกต่างระหว่าง ม.67 และ ม.68 กับผลต่อการพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เพราะเห็นว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา ม.67 แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ตามมาตรา 68 ดังนี้ เป็นการยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงอย่างเดียวกัน และตรงกันพิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ เป็นการต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
of 50