คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 219

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องและการเสียเปรียบในการต่อสู้คดี การแก้ฟ้องต้องไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
การขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องนั้น ข้อที่ว่าจำเลยเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้หรือไม่ ย่อมเป็นข้อเท็จจริงเมื่อศาลล่างไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จะฎีกาว่าจำเลยไม่เสียเปรียบหรือไม่หลงต่อสู้ไม่ได้, ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรับของโจร: โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยฟังว่าจำเลยไม่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย
ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้องศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยรับไว้โดยไม่รู้ว่า เป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย, จึงพิพากษายืน ดังนี้โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
(อ้างฎีกาที่ 1344/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาข้อเท็จจริงในคดีรับของโจร: เมื่อศาลชั้นต้น/อุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาไม่ได้
ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยรับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าทางพิจารณาได้ความต่างกับฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยรับไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายจึงพิพากษายืน ดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 (อ้างฎีกาที่ 1344/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618-1619/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีอาญาเมื่อศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกัน
แม้ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์จะฟังข้อเท็จจริงต่างกัน แต่ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์ก็คงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงนั่นเองนั้นโจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้าม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219 และจำเลยจะฎีกาขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงอีกก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618-1619/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาที่ไม่รับฟังข้อโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริง เนื่องจากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงเดิม
แม้ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์จะฟังข้อเท็จจริงต่างกัน แต่ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์ก็คงพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงนั่นเองนั้น โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องห้ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 และจำเลยจะฎีกาขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงอีกก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องข้อหาเดิม โจทก์ไม่อาจฎีกาขอลงโทษในข้อหาเดิมได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 ศาลชั้นต้นลงโทษตามมาตรา 254 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 251 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อที่ให้ยกข้อหาของโจทก์ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 แล้วโจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
(อ้างฎีกา 773/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191-1192/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องด้วยเหตุผลเดียวกัน แม้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่างกัน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ฟังความเบื้องต้นต่างกัน แต่ในที่สุดศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ได้กระทำผิดดังข้อที่โจทก์กล่าวหา ดังนี้ โจทก์จะฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยข้อสำคัญของคำเบิกความเท็จในคดีอาญา: ศาลล่างวินิจฉัยแล้วฎีกาไม่รับ
การที่จะวินิจฉัยว่าถ้อยคำที่เบิกความเท็จจะเป็นข้อสำคัญหรือไม่นั้น ย่อมต้องพิจารณาประเด็นในคดีที่ผู้นั้นเบิกความประกอบเมื่อศาลล่าง 2 ศาลฟังว่าข้อความที่ผู้นั้นเบิกความเท็จไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีแล้ว การเป็นข้อสำคัญหรือไม่สำคัญย่อมเป็นข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จ ข้อสำคัญในคดี: ศาลล่างวินิจฉัยแล้ว โจทก์ฎีกาไม่ได้ยกเหตุผลให้ฟัง
การที่จะวินิจฉัยว่าถ้อยคำที่เบิกความเท็จจะเป็นข้อสำคัญหรือไม่นั้น ย่อมต้องพิจารณาประเด็นในคดีที่ผู้นั้นเบิกความประกอบ เมื่อศาลล่าง 2 ศาลฟังว่าข้อความที่ผู้นั้นเบิกความเท็จไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีแล้ว การเป็นข้อสำคัญหรือไม่สำคัญ ย่อมเป็นข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918-1919/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบกันปล้นทรัพย์และการพยายามปล้นทรัพย์ ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น
คดีที่หาว่า จำเลยปล้นทรัพย์ 2 ราย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังข้อหาทั้ง 2 รายพิพากษารวมกระทงให้จำคุกจำเลยคนละ 10 ปี ลดกึ่งหนึ่งคงเหลือ 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์รายเดียวพิพากษาแก้ให้จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน ลด 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 4 ปี 5 เดือน 10 วัน ยกฟ้องรายหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
of 50