คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชุม สุกแสงเปล่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขวันสั่งจ่ายเช็คหลังส่งมอบให้ผู้ทรง ผู้สั่งจ่ายยังคงต้องรับผิดชำระเงิน
ขณะโจทก์รับเช็คพิพาทจากจำเลย วันที่ลงในเช็คพิพาทยังมิได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข การแก้ไขเปลี่ยนแปลงมีขึ้นหลังจากที่โจทก์รับเช็คพิพาทมาจากจำเลยแล้ว เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทกซึ่งเป็นผู้ทรง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คลงวันที่แก้ไข: ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คให้ผู้ทรง แม้มีการแก้ไขวันที่
ขณะโจทก์รับเช็คพิพาทจากจำเลย วันที่ลงในเช็คพิพาทยังมิได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข การแก้ไขเปลี่ยนแปลงมีขึ้นหลังจากที่โจทก์รับเช็คพิพาทมาจากจำเลยแล้ว เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คและการระงับซึ่งหนี้เดิม ผู้ค้ำประกันมีหน้าที่รับผิดชอบหนี้
มูลหนี้เดิมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 คือหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยที่ 1 ได้ทำไว้กับโจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกัน และยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จำเลยที่ 1ได้ชำระหนี้ดังกล่าวด้วยเช็คดังนี้ มูลหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินจะระงับสิ้นไปก็ต่อเมื่อได้มีการชำระเงินตามเช็คนั้นแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 321 วรรคสาม ปรากฏว่าเมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์นำไปเรียกเก็บเงินตามเช็ค แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ฉะนั้น มูลหนี้เดิมตามสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยที่ 1 ได้ทำไว้กับโจทก์จึงยังไม่ระงับ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามมูลหนี้เดิมและให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันให้รับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมได้ โจทก์ระบุอ้างตั๋วสัญญาใช้เงินต่อศาลไว้แล้ว แต่มิได้ส่งสำเนาให้จำเลยที่ 2 ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ถ้าศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาบุกรุก - เหตุสมควร - สอบถามกระบือหาย - ไม่พอฟังว่าผิด
ก่อนเกิดเหตุกระบือของ ฉ. หายไป จำเลยทั้งสองจึงช่วยออกติดตามหา มีผู้แจ้งจำเลยทั้งสองว่าผู้เสียหายซื้อกระบือมาจำเลยทั้งสองจึงพากันไปที่บ้านของผู้เสียหายเพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกระบือดังกล่าว และได้ขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายโดยไม่ปรากฏว่า ผู้เสียหายได้ห้ามปรามมิให้ขึ้นไป ดังนี้ ถือว่าจำเลยทั้งสองมีเหตุสมควรที่จะขึ้นไปสอบถามผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขึ้นบ้านเพื่อสอบถามข้อมูลโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย ไม่ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
ก่อนเกิดเหตุกระบือของ ฉ.หายไป จำเลยทั้งสองจึงช่วยออกติดตามหามีผู้แจ้งจำเลยทั้งสองว่าผู้เสียหายซื้อกระบือมา จำเลยทั้งสองจึงพากันไปที่บ้านของผู้เสียหายเพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกระบือดังกล่าว และได้ขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายโดยไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ห้ามปรามมิให้ขึ้นไป ดังนี้ ถือว่าจำเลยทั้งสองมีเหตุสมควรที่จะขึ้นไปสอบถามผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ยาสูบหลีกเลี่ยงภาษีและไม่มีแสตมป์ ศาลลงโทษกระทงเดียวได้
เมื่อจำเลยรับเอายาสูบที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรแล้วย่อมเป็นเวลาเดียวกันกับที่จำเลยมียาสูบจำนวนเดียวกันนั้นไว้ในครอบครองโดยมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาสูบ ดังนี้ จำเลยมีเจตนาในผลอย่างเดียวกันคือการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมายการกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท แม้โจทก์แยกบรรยายการกระทำความผิดของจำเลยในฟ้องเป็นคนละข้อเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันและจำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยหลายกรรมเป็นกระทงความผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2526/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาฎีกาภายในกำหนด
จำเลยยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2533 เสมียนทนายจำเลยลงชื่อในตรายางซึ่งประทับในฎีกามีความว่า "ให้มาทราบคำสั่งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2533 ถ้าไม่มาให้ถือว่าทราบคำสั่งแล้ว"เมื่อศาลชั้นต้นสั่งฎีกาของจำเลยและกำหนดเวลาให้จำเลยส่งสำเนาฎีกาให้อีกฝ่ายหนึ่งภายใน 7 วัน นับแต่ทราบคำสั่ง ในวันรุ่งขึ้นหลังจากจำเลยยื่นฎีกา 1 วัน ถือว่าเป็นการแสดงเจตนาของจำเลยยอมรับว่าจะมาฟังคำสั่งในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2533 ถ้าไม่มาให้ถือว่าทราบคำสั่งแล้ว ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้มาฟังคำสั่ง ก็ถือว่าคำสั่งศาลนั้นได้ส่งให้จำเลยโดยชอบ และจำเลยทราบคำสั่งนั้นแล้วตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2533 ระยะเวลาสิ้นสุดที่จำเลยจะต้องนำส่งสำเนาฎีกาตามคำสั่งศาลชั้นต้นคือวันที่ 7 ธันวาคม 2533 แต่ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ฉบับลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2534ว่าจำเลยมิได้จัดการนำส่งสำเนาฎีกาในกำหนดนั้น จึงเป็นการทิ้งฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตอาวุธปืนและการตอกหมายเลขทะเบียน การกระทำไม่ถึงขั้นปลอมแปลงเอกสาร
จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย จำเลยนำอาวุธปืนของกลางไปให้ผู้ที่นายทะเบียนอาวุธปืนมอบหมายตอกหมายเลขทะเบียนตามที่จำเลยได้รับอนุญาตดังนั้นหมายเลขทะเบียนที่ตอกลงที่อาวุธปืนของกลางจึงไม่ใช่หมายเลขทะเบียนปลอม การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม และถือได้ว่าอาวุธปืนของกลางมีหมายเลขทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายประทับอยู่ตามใบอนุญาตที่จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2486/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้ อายุความเรียกร้องหนี้ตามเช็ค สะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่
โจทก์ติดตามทวงถามเงินตามเช็คพิพาท จำเลยผัดผ่อนด้วยวาจาครั้งสุดท้ายจำเลยออกหนังสือไปถึงโจทก์มีข้อความว่าจำเลยขอผัดเวลาไปสิ้นเดือน เพราะลูกค้าของจำเลยผิดนัด ไม่เอาเงินมาชำระหนี้ให้จำเลย จำเลยมีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ให้ลูกไปโรงเรียนหมดโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์จำเลยมีหนี้จำนวนอื่นต่อกัน ข้อความในหนังสือดังกล่าวเข้าใจได้ว่าจำเลยยอมรับว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่จริงและจำเลยมีเจตนาจะใช้หนี้นั้นโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ถือได้ว่าเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 172 และมีผลทำให้อายุความเรียกร้องเงินตามเช็คซึ่งมีระยะเวลา 1 ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1002 สะดุดหยุดลง ต้องเริ่มนับใหม่ตามอายุความเดิม1 ปี ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นได้สิ้นสุดไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 181 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2474/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงวันที่เช็คโดยผู้ทรงเช็คและการถือเอาวันที่ลงวันที่โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยสุจริต ไม่ถือเป็นการขาดอายุความ
จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คให้แก่ ส. ตั้งแต่ประมาณต้นปี 2507แต่ไม่ได้ลงวันที่ ต่อมาโจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทมาในสภาพเดียวกันโจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินธนาคารได้ลงวันที่ที่มีการนำเช็คเข้าลงบนเช็คพิพาท ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 มอบเช็คพิพาทให้แก่ ส. ย่อมเป็นการแสดงอยู่ในตัวว่า จำเลยยินยอมให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ในเช็คได้เองตามที่เห็นสมควรเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้นได้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงย่อมลงวันที่ได้เมื่อโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีในวันที่ 3 กันยายน 2527 แล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันเดียวกันจากนั้นในวันที่ 9 ตุลาคม 2527 โจทก์นำคดีมาฟ้องศาล จึงยังไม่พ้นกำหนด 1 ปีนับแต่วันสั่งจ่าย คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ การที่โจทก์นำเช็คที่ยังไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่ายไปขึ้นเงินที่ธนาคาร แล้วเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ลงวันที่สั่งจ่ายที่ถูกต้องแท้จริงลงบนเช็ค ย่อมถือเป็นปริยายได้ว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ลงวันที่สั่งจ่ายโดยสุจริตแทนโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรง จำเลยที่ 1จะโต้แย้งในภายหลังว่าการกระทำนั้นไม่สุจริตหาได้ไม่.
of 47