พบผลลัพธ์ทั้งหมด 661 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3702/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เรื่องการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย ให้เป็นไปตามหนี้ที่จำเลยต้องรับผิด เพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้ตามกฎหมาย
กฎหมายล้มละลายเป็นกฎหมายพิเศษมีวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองบรรดาเจ้าหนี้ให้ได้รับชำระหนี้หรือได้รับส่วนแบ่งอย่างเป็นธรรม ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้มากไป กว่าที่จำเลยต้องรับผิดนั้น เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมิได้โต้แย้งมาก่อนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ยกขึ้นฎีกาได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคสองประกอบด้วย พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3670/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดการชำระราคาจากการขายทอดตลาด & คืนเงินมัดจำบางส่วนระหว่างข้อพิพาทเพิกถอนการขาย
การที่ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดียื่นคำร้องขอให้ศาลขยายเวลาการชำระเงินส่วนที่เหลือ และขอให้รับเงินไว้เป็นประกันความเสียหายเพียงส่วนหนึ่ง แล้วคืนเงินมัดจำบางส่วนที่ชำระไว้แล้วโดยอ้างว่าจำเลยกับพวกได้คัดค้านการขายทอดตลาดโดยขอให้เพิกถอนการขาย คดีอยู่ระหว่างพิจารณา นั้นเป็นการขอให้ศาลใช้ดุลพินิจสั่งงดการบังคับคดีไว้ก่อนเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อทรัพย์ แม้ผู้ซื้อทรัพย์ชำระเงินส่วนที่ขาดอยู่ให้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนดไว้เจ้าพนักงานบังคับคดีก็อาจยังไม่เห็นสมควรเสนอรายงานขอให้ศาลแจ้งเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ได้ เพราะข้อพิพาทเกี่ยวกับการขายทอดตลาดยังไม่ถึงที่สุด และยังไม่อาจทราบได้ว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าการขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงเป็นกรณีมีเหตุสมควรที่ศาลจะสั่งให้งดการชำระราคาส่วนที่ขาดอยู่ไว้ก่อนได้ จนกว่าข้อพิพาทเกี่ยวกับการขายทอดตลาดจะถึงที่สุด และหากเห็นสมควรจะสั่งให้คืนเงินมัดจำแก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปบางส่วนคงเหลือไว้เพียงบางส่วนก็ได้ แล้วส่งคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบเพื่อดำเนินการต่อไปตามป.วิ.พ. มาตรา 292(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3485/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้จากการสมยอมและรู้ฐานะลูกหนี้ล้มละลาย เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิรับชำระหนี้
เจ้าหนี้นำหนี้ตามตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งลูกหนี้ออกให้มายื่นเพื่อขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ แต่หนี้ทั้งสองจำนวนเป็นหนี้ที่เกิดจากการสมยอมกันระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้โดยลูกหนี้ไม่ได้เป็นหนี้เจ้าหนี้ตามตั๋วเงินนั้นเจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระต้นเงินและดอกเบี้ยตามตั๋วเงินดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94(1) ส่วนหนี้ที่เจ้าหนี้ชำระให้ธนาคารแทนลูกหนี้นั้นเจ้าหนี้ได้รู้อยู่แล้วว่าลูกหนี้เป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวดังนี้เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ดังกล่าวตามมาตรา 94(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3450-3451/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางต่อเนื่องและเจตนาได้ประโยชน์
โจทก์ทั้งสองได้ใช้ลำรางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยที่ 2 ต่อจากบิดาของโจทก์ทั้งสองโดยสงบ เปิดเผย และด้วยเจตนาจะได้ภาระจำยอมในลำรางพิพาทติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ที่ดินของจำเลยที่ 2 เฉพาะส่วนที่เป็นลำรางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ทั้งสองโดยอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382, 1401 แม้ที่ดินของโจทก์ทั้งสองสามารถรับน้ำได้จากคลองด้วยก็ไม่ทำให้ภาระจำยอมดังกล่าวสิ้นไป เพราะภาระจำยอมที่ได้มาโดยอายุความจะสิ้นไปก็ต่อเมื่อโจทก์ทั้งสองมิได้ใช้ 10 ปี ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3403/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลายเกินกว่าเหตุและไม่สมควร
จำเลยทั้งสองประกอบอาชีพรับราชการ มีเงินเดือนรวมกันเดือนละ14,780 บาท แต่เป็นหนี้โจทก์เพียง 60,000 บาทเศษ เป็นจำนวนไม่มากไม่ปรากฏว่ามีหนี้อื่นอีก หลังจากพ้นกำหนดตามคำบังคับของศาลจังหวัดชัยนาทเพียง 10 กว่าวัน โจทก์ก็ฟ้องขอให้ล้มละลายทันที ควรให้เวลาแก่จำเลยทั้งสองในการรวบรวมเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ คดีมีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยทั้งสองล้มละลาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3324/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์จำเลยที่ไม่เคยคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และการขอประนอมหนี้หลังที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติให้ล้มละลาย
จำเลยที่ 1 มิได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2 แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 มาก็ไม่เกิดสิทธิอุทธรณ์ พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 61 บัญญัติว่าเมื่อเจ้าหนี้ลงมติในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือการประนอมหนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย จึงเป็นบทบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย จะงดพิพากษาหรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้เมื่อที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติไม่ยอมรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลยที่ 2และขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานศาลเพื่อพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ล้มละลายแล้ว การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีก ทั้ง ๆ ที่เป็นการพ้นขั้นตอนและพ้นระยะเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 45 แล้ว จึงเป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3321/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกการล้มละลายทำให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สิ้นอำนาจในการเพิกถอนการโอนทรัพย์สิน
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายของจำเลย ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 135(2) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจที่จะจัดกิจการและทรัพย์สินของจำเลยต่อไป รวมตลอดทั้งไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนการโอนหรือการจำนอง ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22,114,115 ศาลฎีกาจึงไม่จำเป็นต้องสั่งคำร้องขอถอนฎีกาของผู้รับโอนและพิจารณาฎีกาของผู้รับโอนและฎีกาของผู้รับจำนองต่อไป ให้จำหน่ายคดีเสีย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3320/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือค้ำประกันที่ชำระอากรแล้วรับฟังเป็นพยานได้ การอนุญาตชำระอากรระหว่างพิจารณาไม่เป็นเหตุฎีกา
ระหว่างพิจารณาโจทก์ส่งหนังสือค้ำประกันซึ่งติดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนเป็นพยานแต่ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ได้นำไปดำเนินการเสียเงินอากรและเงินเพิ่มอากรโดยชอบแล้วถือว่าหนังสือค้ำประกันเป็นตราสารที่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ปัญหาว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์นำเอกสารไปเสียภาษีอากรและเงินเพิ่มโดยมิได้สอบถามจำเลยก่อนเป็นการไม่ชอบ จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาลอุทธรณ์ และไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249ประกอบ พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3261/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้จัดการมรดก: บุตรทายาทลำดับที่หนึ่งมีสิทธิมากกว่าน้องร่วมบิดามารดา
ผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ตาย เป็นทายาทลำดับที่หนึ่ง ทายาทอื่นของผู้ตายก็ให้ความยินยอมและไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเป็นบุคคลที่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดก ส่วนผู้ร้องเป็นน้องร่วมบิดามารดากับผู้ตาย เป็นทายาทลำดับถัดไปไม่มีสิทธิและส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกที่จะเป็นผู้จัดการมรดกได้ มีเหตุสมควรถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องของผู้คัดค้านเป็นการเพิ่มชื่อและนามสกุลของผู้ตายที่มีหลายชื่อและหลายนามสกุล เป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อย แม้ผู้คัดค้านจะไม่ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องก็อาจนำสืบถึงความข้อนี้ในชั้นพิจารณาได้อยู่แล้ว ศาลชั้นต้นย่อมอนุญาตให้แก่ไขได้โดยไม่จำต้องส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ร้องทราบล่วงหน้าก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 181.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3220/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับหนี้โดยผู้ชำระบัญชี ส่งผลสะดุดอายุความค้างชำระหนี้
การที่ผู้ชำระบัญชีของบริษัทลูกหนี้มีหนังสือแจ้งเจ้าหนี้ว่าเจ้าหนี้มีชื่อเป็นเจ้าหนี้ในสมุดบัญชีของลูกหนี้ ขอให้เจ้าหนี้ติดต่อแสดงหลักฐานการเป็นหนี้ เมื่อเจ้าหนี้นำหลักฐานการเป็นเจ้าหนี้ไปแสดง .......... ผู้ชำระบัญชีของบริษัทลูกหนี้ก็มิได้ปฏิเสธความรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งเป็นหลักฐานการเป็นเจ้าหนี้ที่ลูกหนี้ออกให้แก่เจ้าหนี้ ผู้ชำระบัญชีกลับมีหนังสือถึงเจ้าหนี้ให้นำตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังกล่าวไปเปลี่ยนตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัทที่ได้รับมอบหมาย พฤติการณ์ของบริษัทลูกหนี้ดังนี้ เป็นการกระทำการอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่า ยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลง เมื่อนับถึงวันที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ยังไม่พ้นเวลาสามปี สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินยังไม่ขาดอายุความ.