คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมศักดิ์ วิธุรัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 781 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ศาลลงโทษตามมาตราที่เหมาะสม และพิจารณาสถานโทษ
ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัสไว้ในหมวดเดียวกัน องค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำก็เป็นอย่างเดียวกัน ต่างกันตรงผลแห่งการกระทำคือถ้าเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ก็เป็นความผิดตามมาตรา 297มีผลให้ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษหนักขึ้น เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมรับอันตรายสาหัสเพียงแต่เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของโจทก์ร่วม แม้โจทก์ไม่ได้อ้างมาตรา 295 เป็นบทลงโทษมาด้วย ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตรา 295ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดให้มีการพนันป๊อกรายใหญ่ของผู้มีอาชีพสุจริต ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจชาติ ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ
การพนันป๊อกเป็นการพนันประเภทห้ามขาด การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นและมีผู้เข้าร่วมเล่นถึง 22 คน นับว่าเป็น การพนันรายใหญ่ ผู้เล่นล้วนแต่มีอาชีพรับจ้าง ทำไร่ ทำนา แทนที่ จะประกอบอาชีพโดยสุจริตกลับมั่วสุมเล่นการพนันอันเป็นสิ่งมอมเมา และเป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมือง การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464-465/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทชำระหนี้ดอกเบี้ยเกินอัตรา: การออกเช็คไม่เป็นความผิด พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยทั้งสองออกเช็คพิพาทชำระหนี้เงินกู้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ที่มีการคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดซึ่งเป็นความผิดต่อพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ มาตรา 3 รวมอยู่ เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่มีมูลหนี้ผิดกฎหมายรวมอยู่ด้วย การออกเช็คพิพาทของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องหมิ่นประมาทต้องระบุรายละเอียดให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ชัดเจน
ฟ้องโจทก์กล่าวโดยสรุปว่า โจทก์เป็นหญิงสาว มีอาชีพรับราชการถูกจำเลยใส่ความต่อหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอว่า มี พฤติการณ์ทำนองชู้สาวกับ ส.อาจารย์ใหญ่โรงเรียนโดยส. มีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว คำฟ้องของโจทก์จึงมีความหมาย ที่เข้าใจได้ ว่าโจทก์เป็นคนมีความประพฤติไม่ดี มีความสัมพันธ์ ทางชู้สาวกับสามีของหญิงอื่น อาจทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูก ดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังได้ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ ในทำนองชู้สาวว่ามีอย่างไร ชอบที่โจทก์จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่ได้กล่าวถึงถ้อยคำพูด หนังสือ อันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาทไว้โดยบริบูรณ์พอที่จะ ให้จำเลยเข้าใจ ข้อหาได้ดี เป็นคำฟ้องที่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158(5).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องหมิ่นประมาทต้องกล่าวถึงถ้อยคำที่ทำให้เกิดความเสียหายชัดเจน แม้รายละเอียดการกระทำจะนำสืบในชั้นพิจารณาได้
คำฟ้องของโจทก์บรรยายถึงการกระทำของจำเลยว่าจำเลยได้กล่าวและเขียนคำร้องทุกข์ใส่ความโจทก์ต่อหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอว่าโจทก์มีพฤติการณ์ในทำนองชู้สาวกับ ส. อาจารย์ใหญ่ โดยเจตนาจะให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังและต้องได้รับโทษทางวินัยเพราะ ส. มีภริยาชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว คำฟ้องของโจทก์มีความหมายที่เข้าใจได้ว่า โจทก์เป็นคนมีความประพฤติไม่ดี มีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับสามีของหญิงอื่นส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์ในทำนองชู้สาวว่ามีอย่างไรนั้น ชอบที่โจทก์จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณา จึงเป็นคำฟ้องที่ได้กล่าวถึงถ้อยคำพูดหนังสือ อันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาทไว้โดยบริบูรณ์ พอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อป้องกันตัวจากประทุษร้าย ไม่ถือเป็นการเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้
จำเลยและจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในสำนวนคดีอื่นเข้าไปกลุ้มรุมทำร้ายส.ฝ่ายเดียวโดยจำเลยเข้าไปรัดคอส. จำเลยที่ 2 ที่ 1เข้าไปใช้ขวดน้ำอัดลมตีศีรษะและต่อยส.ส.ซึ่งอยู่ในสภาพที่ถูกรัดคอและถูกทำร้ายเช่นนี้ ย่อมไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงจากถูกทำร้ายได้ ดังนั้นการที่ ส. ใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมายิงถูกจำเลยและพลาดไปถูกบุคคลซึ่งอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นเรื่องที่ ส. กระทำไปเพื่อให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายของจำเลยกับพวกโดย ส. ไม่มีเจตนาหรือสมัครใจที่จะเข้าต่อสู้ทำร้ายร่างกายจำเลยกับพวก การกระทำของจำเลยกับพวกและ ส.ไม่เป็นความผิดฐานเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้กันเป็นเหตุให้คนตาย และได้รับอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกเป็นของแผ่นดินของรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งแร่ผิดกฎหมาย เมื่อเจ้าของไม่แสดงตัวตามประกาศ
พนักงานสอบสวนมิใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติแร่พ.ศ. 2510 มาตรา 4 การที่ บ. ผู้เช่าซื้อไปแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนและขอรับรถยนต์พิพาทซึ่งใช้เป็นยานพาหนะกระทำผิดในการบรรทุกแร่ผิดกฎหมายโดยไม่ปรากฏตัวเจ้าของหรือผู้ครอบครองขณะจับกุมคืน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รู้ตัวเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์พิพาทอันจะเป็นเหตุให้กรมทรัพยากรธรณีจำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจที่จะประกาศหาตัวเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์พิพาท เมื่อการประกาศที่จำเลยที่ 2 กระทำไปชอบด้วยกฎหมายโจทก์ผู้เป็นเจ้าของและ บ. ผู้ครอบครองรถยนต์พิพาทไม่แสดงตัวเพื่อขอรับคืนภายในกำหนดเวลาตามประกาศรถยนต์พิพาท จึงตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 15 เบญจ วรรคสามโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกรถยนต์พิพาทคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเช่าซื้อ ย่อมผูกพันคู่กรณีได้ หากไม่ขัดกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหายจากศาล
ข้อสัญญาใด ๆ ที่คู่กรณีได้ทำขึ้น คู่กรณีสามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไขและตกลงทำข้อสัญญาใหม่ได้ ในเมื่อข้อสัญญาที่ทำขึ้นใหม่ นั้นไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จำเลยที่ 1 มิได้ให้การต่อสู้ไว้ในคำให้การและมิได้บรรยาย ไว้ในคำฟ้องแย้งว่ารถยนต์คันพิพาทมีราคาเท่าไร ทั้ง คำขอท้ายคำฟ้องแย้งก็มิได้ระบุว่าหากโจทก์คืนรถยนต์ให้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ก็ขอให้โจทก์ใช้ราคารถยนต์นั้น จำเลยที่ 1 มิได้ยกข้อปัญหา ดังกล่าวนั้นขึ้นมาว่ากล่าวกันในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะ ไม่รับวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว การพิสูจน์ความเสียหายนั้น ในเมื่อโจทก์และจำเลยที่ 1 ไม่สามารถ พิสูจน์ได้ว่าค่าเสียหายที่แท้จริงนั้นมีจำนวนเท่าใด คงได้ความเพียงว่าจำเลยที่ 1 ได้รับความเสียหายเท่านั้น ไม่มี พยานหลักฐานมาสนับสนุนให้เห็นค่าเสียหายที่แท้จริง ศาลจึง กำหนดค่าเสียหายให้ตามที่เห็นสมควร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขสัญญาส่วนตัวและการมอบอำนาจ: การลดค่าเช่าซื้อที่ผูกพันคู่สัญญา แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ตามหนังสือมอบอำนาจ ธ. มีอำนาจเต็มในการขายรถยนต์ให้เช่าซื้อรถยนต์ตลอดจนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ อำนาจเช่นนี้ย่อมหมายความรวมถึงอำนาจในการลดราคาขายหรือราคาเช่าซื้อหรือลดค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระด้วย ดังนั้น การที่ ธ. ลดค่าเช่าซื้อที่ค้างอยู่ ให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำตามที่ได้รับมอบอำนาจมาจากโจทก์ เมื่อจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าซื้อตามจำนวนที่ลดลงให้โจทก์เสร็จเรียบร้อยแล้ว โจทก์หามีสิทธิยึดรถยนต์คันพิพาทและฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 ไม่เพราะจำเลยที่ 1 ไม่ได้ผิดสัญญาเช่าซื้อ ธ. ผู้แทนโจทก์และจำเลยที่ 1 ได้ตกลงลดค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าซื้อทั้งหมดที่ค้างชำระแล้ว เท่ากับคู่กรณีได้ตกลงลดค่าเช่าซื้อให้แก่กันโดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อสัญญาเดิมที่ให้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือแล้วใช้ข้อสัญญาใหม่ดังกล่าวมานั่นเอง ข้อสัญญาใหม่นี้มีผลผูกพันคู่กรณีเพราะเป็นข้อสัญญาที่ไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขสัญญาเช่าซื้อโดยความยินยอม และการกำหนดค่าเสียหายที่เหมาะสม
ตามหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ ธ. มีอำนาจเต็มในการขายรถยนต์ให้เช่าซื้อรถยนต์ ตลอดจนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ อำนาจเช่นนี้ย่อมหมายความรวมถึงอำนาจในการลดราคาขายหรือราคาเช่าซื้อหรือลดค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระด้วย การที่ ธ. ลดค่าเช่าซื้อที่ค้างให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นการกระทำตามที่ได้รับมอบอำนาจมาจากโจทก์ แม้สัญญาเช่าซื้อจะระบุว่าการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขสัญญาเช่าซื้อจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร ลงนามโดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายก็ตาม แต่ข้อสัญญาใดที่คู่กรณีได้ทำขึ้น คู่กรณีสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขและตกลงทำข้อสัญญาใหม่ได้ เมื่อข้อสัญญาที่ทำขึ้นใหม่นั้นไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนการที่ ธ. ผู้แทนโจทก์และจำเลยที่ 1 ตกลงลดค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าเช่าซื้อทั้งหมดที่ค้างชำระแล้วเท่ากับคู่กรณีได้ตกลงลดค่าเช่าซื้อให้แก่กันโดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อสัญญาเดิมที่ให้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือแล้วใช้ข้อสัญญาใหม่ดังกล่าวข้อสัญญาใหม่นี้มีผลผูกพันคู่กรณีเพราะเป็นข้อสัญญาที่ไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เมื่อโจทก์และจำเลยที่ 1 ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าค่าเสียหายที่แท้จริงมีจำนวนเท่าใด คงได้ความเพียงว่าจำเลยที่ 1 ได้รับความเสียหาย ศาลจึงต้องกำหนดค่าเสียหายให้ตามที่เห็นสมควร ค่าเช่าซื้อรถยนต์แต่ละงวดเป็นเงินค่ารถยนต์ที่ซื้อและค่าเช่ารวมอยู่ด้วย เงินค่าเช่าถือเป็นค่าเสียหายที่ฝ่ายใช้รถยนต์จะต้องชำระให้แก่เจ้าของรถยนต์เมื่อไม่ปรากฏแน่ชัดว่า เงินค่าเช่ามีจำนวนเท่าไรศาลย่อมกำหนดค่าเช่าหรือค่าเสียหายนี้ได้ตามที่เห็นสมควร
of 79