คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มีพาศน์ โปตระนันทน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 385 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารในสำนวนคดีอาญาที่ยังไม่ได้รวมสำนวน ไม่ถือเป็นเหตุให้ต้องพิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 53
การที่พยานหลักฐานรวมอยู่ในสำนวนคดีอื่นซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นำสำนวนมาผูกรวมกับสำนวนอีกคดีหนึ่ง แต่ยังไม่ได้นำมาผูกรวม มิใช่กรณีเอกสารในสำนวนสูญหายหรือบุบสลายทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีเสร็จสิ้นแล้วย่อมไม่มีกรณีเป็นการขัดข้องต่อการพิจารณาพิพากษาคดี ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 53 ที่จะขอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5491/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาระงับข้อพิพาทเป็นผลให้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่าระงับ แม้ไม่ได้ยกขึ้นเป็นประเด็นในคำให้การ ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้
สัญญาระงับข้อพิพาทมีข้อตกลงว่า โจทก์กับจำเลยที่ 1ตกลงระงับข้อพิพาทที่เกิดจากการเช่าห้อง โดยจำเลยที่ 1ยินยอมขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากห้องเช่าและโจทก์ตกลงจ่ายค่าตอบแทนการขนย้ายให้แก่จำเลยที่ 1 สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความทำให้การเรียกร้องตามสัญญาเช่าห้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ทำขึ้นระหว่างการสืบพยานจำเลยหลังจากโจทก์ฟ้องและจำเลยยื่นคำให้การแล้วเป็นการสุดวิสัยที่จำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การได้แม้ไม่มีการกำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ แต่เมื่อคู่ความยอมรับว่าได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันจริง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องโดยอาศัยสัญญาเช่าดังกล่าว ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องแม้มิได้เป็นประเด็นแห่งคดี แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ สัญญาตกลงระงับข้อพิพาทไม่ได้เป็นประเด็นแห่งคดีมาแต่ต้นจำเลยจึงไม่ต้องยื่นบัญชีระบุอ้างพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) และมาตรา 88เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) จำเลยทั้งหมดเป็นลูกหนี้ร่วมและหนี้อันเกิดจากมูลละเมิดเป็นหนี้ร่วมการที่จำเลยที่ 1 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ทำให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่มีต่อจำเลยที่ 1 ระงับจำเลยอื่นย่อมได้รับประโยชน์คือหลุดพ้นจากหนี้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5383/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานบังคับคดีงดเว้นยึดทรัพย์สินที่มีชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของ และขอความคุ้มครองจากค่าสินไหมทดแทน
ที่ดินมีโฉนดที่มีชื่อบุคคลภายนอกเป็นเจ้าของอยู่ เจ้าพนักงานบังคับคดีชอบที่จะงดเว้นยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น และร้องขอต่อศาลให้กำหนดการอย่างใด ๆ เพึ่อมิให้ตนต้องรับผิดในค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 283วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5383/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานบังคับคดีงดเว้นยึดทรัพย์ที่มีชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของได้ตามกฎหมาย
ที่ดินมีโฉนดที่มีชื่อบุคคลภายนอกเป็นเจ้าของอยู่ เจ้าพนักงานบังคับคดีชอบที่จะงดเว้นยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น และร้องขอต่อศาลให้กำหนดการอย่างใด ๆ เพื่อมิให้ตนต้องรับผิดในค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 283 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5383/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจเจ้าพนักงานบังคับคดีในการงดเว้นยึดทรัพย์ที่มีชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของ และการปลดเปลื้องความรับผิด
ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมีโฉนดที่มีชื่อบุคคลภายนอกเป็นเจ้าของอยู่ เจ้าพนักงานบังคับคดีชอบที่จะงดเว้นยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น และร้องขอต่อศาลให้กำหนดการอย่างใด ๆ เพื่อมิให้ตนต้องรับผิดในค่าสินไหมทดแทนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 283 วรรคสอง การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นควรงดเว้นการยึดทรัพย์รายนี้ จึงเป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดีและศาลฎีกาเห็นสมควรให้ปลดเปลื้องความรับผิดในค่าสินไหมทดแทนกรณีเจ้าพนักงานบังคับคดีงดเว้นการยึดทรัพย์รายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4865/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินยกให้ก่อนสมรสเป็นสินส่วนตัว การปลูกสร้างบนที่ดินโดยได้รับอนุญาตทำให้เป็นบริวารต้องออกจากที่ดินไปพร้อมสามี
จำเลยได้รับการยกให้ที่ดินจากมารดาก่อนสมรสกับผู้ร้อง ที่ดินดังกล่าวจึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๗๑(๑) ผู้ร้องปลูกบ้านลงใน ที่ดินดังกล่าวโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยซึ่งเป็นสามี แสดงว่า ผู้ร้องอาศัยสิทธิของจำเลย ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4865/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินยกให้ก่อนสมรส และสถานะบริวารของผู้ปลูกสร้างบนที่ดิน
จำเลยได้รับที่ดินโดยการยกให้จากมารดาก่อนสมรสกับผู้ร้องจึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1471(1) ผู้ร้องปลูกบ้านลงในที่ดินดังกล่าวโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยซึ่งเป็นสามีแสดงว่าผู้ร้องอาศัยสิทธิของจำเลย ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย เมื่อโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย ผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยต้องออกจากที่ดินดังกล่าวของโจทก์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4865/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินยกให้ก่อนสมรสเป็นสินส่วนตัว การปลูกสร้างบนที่ดินด้วยความยินยอมทำให้เป็นบริวารต้องออกจากที่ดินเมื่อถูกขับไล่
จำเลยได้รับการยกให้ที่ดินจากมารดาก่อนสมรสกับผู้ร้องที่ดินดังกล่าวจึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1471(1) ผู้ร้องปลูกบ้านลงในที่ดินดังกล่าวโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยซึ่งเป็นสามี แสดงว่าผู้ร้องอาศัยสิทธิของจำเลย ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4725/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานจำเลยเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่จำเป็นและไม่มีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยคดี
เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ศาลพิจารณาคำฟ้องและคำให้การจำเลยประกอบเอกสารที่โจทก์นำสืบแล้ว เห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะให้สืบพยานจำเลย ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งงดสืบพยานจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4725/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานจำเลยเมื่อพยานโจทก์เพียงพอ
เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ศาลพิจารณาคำฟ้องและคำให้การจำเลยประกอบเอกสารที่โจทก์นำสืบแล้ว เห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะให้สืบพยานจำเลยศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งงดสืบพยานจำเลยได้
of 39