พบผลลัพธ์ทั้งหมด 385 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็ค – ไม่มีมูลหนี้ – เช็คเพื่อชำระหนี้ – ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกับ พ. ไม่มีมูลหนี้ตามเช็คต่อกัน พ. ขอยืมเช็คจากจำเลยมาเพื่อนำเข้าบัญชีแทนเงินที่ขาดบัญชีโดย จะไม่ นำเช็คไปเรียกเก็บเงิน จำเลยไม่ได้ออกเช็ค เพื่อเจตนาชำระหนี้ถือ ไม่ ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดฐาน ออกเช็ค โดย เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้ เงินตาม เช็ค หรือโดย ขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้ เงิน ได้หรือออกเช็ค ให้ใช้ เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้ เงิน ได้ในขณะที่ออกเช็ค.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็ค – ไม่มีมูลหนี้ – เช็คเพื่อประกันเท่านั้น – ไม่ผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาทุจริต
พ. เป็นพนักงานของคุรุสภาผู้เสียหาย มีหน้าที่เก็บเงินค่าเดินทางไปทัศนศึกษา ของสมาชิกคุรุสภา ปรากฏว่าเงินขาดบัญชีไป เพื่อให้ปรากฏหลักฐานทางบัญชีเต็มยอดเงิน พ. ได้ยืมเช็คพิพาทจากจำเลยเพื่อนำมาเข้าบัญชีแทนเงินที่ขาดหายไป โดยจะไม่นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินเพียงนำมาเป็นประกันเท่านั้น ซึ่ง ด.ผู้บังคับบัญชาของ พ. ก็ทราบแล้ว ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยกับ พ.ไม่มีมูลหนี้ตามเช็คพิพาทต่อกัน จำเลยไม่ได้ออกเช็คพิพาทเพื่อเจตนาชำระหนี้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหรือโดยขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ หรือออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็ค ตามฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร: การหนีตามกันเพื่ออยู่กินฉันสามีภริยา ไม่เข้าข่ายความผิด
ได้ความจากพยานโจทก์และจำเลยว่า จำเลยกับผู้เสียหายหนีตาม กันไปเพื่ออยู่กินร่วมกันฉัน สามีภริยา จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยพรากผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมสิทธิเช่า ไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนการโอนสิทธิระหว่างเจ้าของร่วมด้วยกัน
โจทก์และบุตรโจทก์เป็นเจ้าของร่วมกันในสิทธิการเช่าตึกพิพาทโดยโจทก์ให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือสิทธิดังกล่าวแทน ต่อมาได้มีการโอนเป็นชื่อของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนของ อ. เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ดังกล่าว เพราะทั้งโจทก์และ อ. ต่างเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์สินพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าเมื่อมีเจ้าของร่วมหลายคน โจทก์มีสิทธิเพียงส่วนหนึ่งไม่สามารถฟ้องได้
เมื่อโจทก์และ อ. บุตรโจทก์ต่าง เป็นเจ้าของร่วมกันในสิทธิการเช่า ตึก พิพาท โดย โจทก์ให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือสิทธิการเช่าแทน และต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ โอนเป็นชื่อ ของจำเลยที่ 2 ซึ่ง เป็นตัวแทนของ อ. ให้เป็นผู้ถือสิทธิการเช่า แทนโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่า ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1397/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมสิทธิเช่า: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนการโอนสิทธิเช่าระหว่างเจ้าของร่วมด้วยกัน
โจทก์และบุตรโจทก์เป็นเจ้าของร่วมกันในสิทธิการเช่าตึกพิพาทโดยโจทก์ให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือสิทธิดังกล่าวแทน ต่อมาได้มีการโอนเป็นชื่อของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนของ อ. เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ดังกล่าว เพราะทั้งโจทก์และ อ. ต่างเป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์สินพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงจากการหลอกลวงให้ช่วยเหลือฝากงาน – ผู้เสียหายไม่ได้จูงใจเจ้าพนักงาน
ผู้เสียหายมอบเงินให้จำเลยกับพวกโดย มีเจตนาเพียงให้จำเลยกับพวกช่วย ฝากบุตรและบุตรสะใภ้ของตน เข้าทำงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตาม ที่จำเลยกับพวกได้ รับรองไว้เท่านั้นไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายประสงค์ให้บุตรและบุตรสะใภ้เข้าทำงานโดย ไม่ต้องสอบและให้กรรมการช่วย ให้สอบได้ แต่ อย่างใด การกระทำของผู้เสียหายไม่เข้าลักษณะเป็นการจูงใจให้เจ้าพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐกระทำการอันมิชอบด้วย หน้าที่ ถือ ไม่ได้ว่าผู้เสียหายเป็นผู้ใช้ ให้จำเลยกับพวกกระทำผิด เมื่อผู้เสียหายมอบเงินให้เพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของจำเลยกับพวก อันเป็นความเท็จความจริงจำเลยกับพวกไม่สามารถช่วยเหลือฝากบุตรและบุตรสะใภ้ของผู้เสียหายเข้าทำงานตาม ที่รับรองได้ การกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการฉ้อโกงผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงมีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนิน คดีกับจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต: จำเลยในฐานะลูกจ้างไม่มีอำนาจรับผิด
จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างบริษัท มิได้มีตำแหน่ง เป็นกรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทหรือกรรมการอื่นของบริษัทไม่อาจทราบได้ ว่าบริษัทจะได้ รับอนุญาตให้จัดหางานได้ ตามกฎหมายหรือไม่ โจทก์บรรยายฟ้องโดย ชัดแจ้งว่าจำเลยไม่มีความสามารถหรือไม่มีเจตนาที่จะจัดส่งประชาชนและผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศ ซาอุดีอาระเบีย ได้ พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยจัดหางานโดย มิได้รับอนุญาตอันจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. จัดหางานฯ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าต้องมีเหตุอันสมควร การแสดงความไม่พอใจและเขียนจดหมายแทนการพูดคุยไม่ถือเป็นเหตุหย่า
จำเลยเป็นภรรยาโจทก์ การที่จำเลยไม่ยอมพูดกับโจทก์ หากมีเรื่องที่จะต้องปรึกษาหารือกันจำเลยจะเขียนจดหมายแทนการพูดกับโจทก์ก็เนื่องจากความผิดของโจทก์ที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงอื่นและทำร้ายร่างกายจำเลย ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้บุตรได้ยินการทะเลาะกันระหว่างโจทก์กับจำเลย การกระทำของโจทก์เป็นเหตุอันสมควรที่จะทำให้จำเลยแสดงอาการดูถูกเกลียดชังโจทก์และไม่พูดคุยกับโจทก์ได้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติชั่ว และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรงอันจะเป็นเหตุหย่า
มารดาของโจทก์เป็นลมเนื่องจากทะเลาะกับจำเลย เพราะจำเลยต้องการพาบุตรชายไปเที่ยวนอกบ้านแต่มารดาไม่ยอม เหตุดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามบุพการีโจทก์อย่างร้ายแรง
มารดาของโจทก์เป็นลมเนื่องจากทะเลาะกับจำเลย เพราะจำเลยต้องการพาบุตรชายไปเที่ยวนอกบ้านแต่มารดาไม่ยอม เหตุดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามบุพการีโจทก์อย่างร้ายแรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่า: พฤติกรรมดูถูกเกลียดชัง, การทำร้ายร่างกาย, และการหมิ่นประมาทบุพการี - ไม่เพียงพอต่อการพิพากษาให้หย่า
จำเลยเป็นภรรยาโจทก์ การที่จำเลยไม่ยอมพูดกับโจทก์ หากมีเรื่องที่จะต้องปรึกษาหารือกันจำเลยจะเขียนจดหมายแทนการพูดกับโจทก์ก็เนื่องจากความผิดของโจทก์ที่มีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงอื่นและทำร้ายร่างกายจำเลย ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้บุตรได้ยินการทะเลาะกันระหว่างโจทก์กับจำเลย การกระทำของโจทก์เป็นเหตุอันสมควรที่จะทำให้จำเลยแสดงอาการดูถูกเกลียดชังโจทก์และไม่พูดคุยกับโจทก์ได้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยประพฤติชั่ว และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันอย่างร้ายแรงอันจะเป็นเหตุหย่า มารดาของโจทก์เป็นลมเนื่องจากทะเลาะกับจำเลย เพราะจำเลยต้องการพาบุตรชายไปเที่ยวนอกบ้านแต่มารดาไม่ยอม เหตุดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามบุพการีโจทก์อย่างร้ายแรง.