พบผลลัพธ์ทั้งหมด 419 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6349/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และอำนาจศาลในการกำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียม
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถา เมื่อได้ไต่สวนพยานหลักฐานที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 นำมาแสดงเพิ่มเติมแล้วนั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคสี่ มิได้บัญญัติว่าให้เป็นที่สุด จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ได้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคห้า การขอขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมนั้น แม้จะล่วงเลยกำหนดเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลตามคำสั่งศาลชั้นต้นมาแล้วก็ตามถ้าหากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แต่เฉพาะบางส่วน หรือมีคำสั่งให้ยกคำขอเสียทีเดียว ศาลอุทธรณ์มีอำนาจกำหนดเวลาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระได้เพราะเป็นอำนาจศาลทั่วไปที่มีอยู่ในการดำเนินการพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6218/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเช็ค, การสลักหลัง, และการเป็นผู้ทรงเช็คโดยสุจริต
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท มีจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายแล้วมอบเช็คให้แก่ผู้มีชื่อ ต่อมาผู้มีชื่อสลักหลังและส่งมอบให้แก่โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนด ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย ดังนี้เป็นการบรรยายโดยแจ้งชัด ซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาส่วนที่จำเลยจะมอบเช็คพิพาทแก่ใครเมื่อใดและผู้มีชื่อเป็นใครมอบเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เมื่อใดนั้นเป็นเพียงรายละเอียดที่จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณาต่อไป ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม เช็คพิพาทไม่ได้ลงวันออกเช็ค โจทก์รับสลักหลังด้วยการเข้าใช้เงินและรับเช็คพิพาทมาเมื่อต้นปี 2530 และลงวันที่ 19 พฤษภาคม2530 ในเช็คพิพาทเป็นกรณีที่โจทก์ในฐานะผู้ทรงทำการโดยสุจริตจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็คพิพาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 910วรรคห้า ประกอบด้วยมาตรา 989 ดังนี้ อายุความฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่าย1 ปี นับแต่วันที่ลงในเช็ค เช็คระบุชื่อผู้รับเงินย่อมโอนให้กันได้ด้วยการสลักหลังและการสลักหลังย่อมสมบูรณ์แม้ทั้งมิได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ไว้ด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 919 ประกอบด้วยมาตรา 989 ดังนั้นการที่ผู้สลักหลังมิได้ระบุชื่อโอนให้แก่ใครก็มีผลสมบูรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6155/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน - ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญา - การฟ้องแย้งสิทธิ
คดีก่อนพนักงานอัยการได้ฟ้องขอให้ศาลลงโทษโจทก์คดีนี้ข้อหาบุกรุกที่ดินของจำเลย ศาลพิพากษายกฟ้องโดยฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยเนื่องจากเชื่อโดยสุจริตว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ขาดเจตนาในการกระทำความผิด คดีถึงที่สุดแล้ว ต่อมาโจทก์และบุตรสาวโจทก์เข้าไปทำนาในที่ดินพิพาทดังกล่าวอีก จำเลยก็ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาว่าโจทก์และบุตรสาวโจทก์เข้าไปบุกรุกที่ดินพิพาทของจำเลย โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิในที่ดินพิพาทดีกว่าจำเลยและห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท เช่นนี้ คดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าวข้างต้น ในการวินิจฉัยคดีนี้ ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย และคำพิพากษาคดีส่วนอาญาดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์และจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 145 โจทก์จะอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์โดยอาศัยสิทธิที่โจทก์มีมาก่อนที่ศาลในคดีส่วนอาญาได้พิพากษาไปแล้ว และห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันอีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6120/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คไม่มีเงินเพียงพอ และผู้เสียหายจากการรับสับเปลี่ยนเช็ค
การที่จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้ให้ ส.แล้วส.นำไปแลกเงินสดจากโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมนำเช็คดังกล่าวฝากเข้าบัญชีของบริษัทเงินทุนช. เพื่อให้เรียกเก็บเงินแทนให้ทันในวันเดียวกัน เนื่องจากเป็นเช็คขีดคร่อมและโจทก์ร่วมเป็นลูกจ้างของบริษัทเงินทุนดังกล่าวนั้น โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามกฎหมาย เมื่อขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ได้ ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 3 ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497และเป็นกฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย จึงให้ใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534แทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6035/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดี และการฟ้องร้องเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดี ศาลมีดุลพินิจอนุญาต/ไม่อนุญาตถอนฟ้องได้ และการบังคับคดีต้องดำเนินการในคดีเดิม
การที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลโดยพิจารณาจากความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์และผลได้ผลเสียของคู่ความทุกฝ่าย โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท ทั้งยื่นคำร้องขอให้ห้ามจำเลยและเจ้าพนักงานที่ดินทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทซึ่งศาลชั้นต้นได้ไต่สวนคำร้องดังกล่าวจนเสร็จแล้ว โจทก์ จึงขอถอนฟ้องโดยให้เหตุผลว่าประสงค์จะยื่นฟ้องจำเลยใหม่ ดังนั้น หากศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องแล้วโจทก์อาจฟ้องจำเลยใหม่และ ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนคำพิพากษาเช่นเดียวกันกับ คดีนี้อีกซึ่งอาจทำให้จำเลยเสียหายเมื่อเป็นเช่นนี้จึงควร ดำเนินการพิจารณาให้เป็นผลเสร็จเด็ดขาดไปในคดีนี้ โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นของศาลชั้นต้นฟ้องขอให้บังคับจำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าวปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ กับขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ในคดีดังกล่าว เป็นฟ้องที่มีคำขอเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษา ของศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าวซึ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 กำหนดให้ว่ากล่าวกันในคดีเดิม โจทก์ต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ในคดีเดิมดังกล่าว จะทำเป็นคำฟ้องมายื่นต่อศาลเป็นคดีใหม่หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6035/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องคดี และการฟ้องคดีเกี่ยวกับการบังคับคดีต้องยื่นเป็นคำร้อง ไม่ใช่ฟ้องคดีใหม่
การที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ มาตรา 175 วรรคสองแห่งป.วิ.พ. กำหนดให้เป็นดุลพินิจของศาลโดยพิจารณาจากความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์และผลได้ผลเสียของคู่ความทุกฝ่าย ปรากฏว่านอกจากฟ้องคดีนี้แล้วโจทก์ยังยื่นคำร้องขอให้ห้ามจำเลยและเจ้าพนักงานที่ดินทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทและศาลได้ไต่สวนคำร้องดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องโดยให้เหตุผลว่าประสงค์ที่ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ใหม่จึงอาจทำให้จำเลยที่ 1 เสียหายศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องชอบแล้ว โจทก์เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในคดีแพ่งรวมสองสำนวนเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความกับขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ในคดีดังกล่าว จึงเป็นการฟ้องคดีที่มีคำขอเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีทั้งสอง ดังนั้น โจทก์ต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องในคดีดังกล่าว จะยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5867/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงจากการเช่าช่วงที่ไม่มีสิทธิ ศาลเชื่อพยานหลักฐานยืนยันการหลอกลวงผู้เสียหาย
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายว่าจำเลยได้เช่าห้องเช่า เกสท์เฮาส์มาจาก บ. มีกำหนดเวลา 9 ปี จำเลยดำเนินกิจการมาแล้ว 2 ปี เหลือเวลาอีก 7 ปี สามารถที่จะให้ ผู้เสียหายเช่าช่วงไปดำเนินกิจการต่อได้ตามกำหนดดังกล่าว ผู้เสียหายหลงเชื่อตกลงทำสัญญาเช่าช่วงจากจำเลยความจริง จำเลยทำสัญญาเช่าจาก บ. ไว้เพียง 3 ปี และไม่มีสิทธิจะให้เช่าช่วงได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก บ. การหลอกลวงของจำเลยทำให้จำเลยได้ไปซึ่งทรัพย์สินจาก ผู้เสียหาย และทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายไม่ได้รับสิทธิการเช่าจาก บ. ตามกำหนดเวลาที่ทำไว้กับจำเลยการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5809/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยบันดาลโทสะ: การข่มเหงต้องร้ายแรงและเป็นเหตุโดยตรง
การที่ผู้ตายกล่าวกับจำเลยว่าให้จำเลยไปหาภรรยาใหม่ผู้ตายมีสามีใหม่แล้ว สามีใหม่รวยกว่าจำเลยเสียอีก ยังถือไม่ได้ว่าคำกล่าวของผู้ตายเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจะอ้างว่าฆ่าผู้ตายโดยบันดาลโทสะไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5768/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการขายทอดตลาด: จำเลยไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นแล้วยื่นคำร้องใหม่ไม่ได้
ในชั้นบังคับคดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องดังกล่าวไม่ปรากฏว่าการประมูลซื้อทรัพย์เป็นไปโดยไม่สุจริตอย่างไร จึงไม่มีเหตุที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยประเด็นตามคำร้องของจำเลยแล้ว จำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 แต่จำเลยกลับยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องของจำเลยดังกล่าวใหม่ กรณีเช่นนี้หาได้มีบทกฎหมายรับรองให้จำเลยมีสิทธิจะกระทำได้ไม่ เพราะมิใช่การขาดนัดพิจารณาซึ่งอาจขอให้พิจารณาใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197 วรรคสอง,207 และ 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5768/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอให้พิจารณาคำร้องซ้ำ เมื่อศาลวินิจฉัยแล้วและมีสิทธิอุทธรณ์ได้
ในชั้นบังคับคดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องดังกล่าวไม่ปรากฏว่าการประมูลซื้อทรัพย์เป็นไปโดยไม่สุจริตอย่างไร จึงไม่มีเหตุที่จะให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยประเด็นตามคำร้องของจำเลยแล้วจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 แต่จำเลยกลับยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องของจำเลยดังกล่าวใหม่ กรณีเช่นนี้หาได้มีบทกฎหมายรับรองให้จำเลยมีสิทธิจะกระทำได้ไม่ เพราะมิใช่การขาดนัดพิจารณาซึ่งอาจขอให้พิจารณาใหม่ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา197 วรรคสอง, 207 และ 208