พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5865/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับความผิดฐานออกเช็คเมื่อชำระหนี้ครบถ้วน ทำให้คดีเลิกกันตามกฎหมายเช็คและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
เมื่อจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ร่วมครบถ้วนแล้ว หนี้ตามสัญญากู้ยืมเป็นอันระงับไป มูลหนี้ที่จำเลยออกเช็คพิพาทจึงสิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดคดีเป็นอันเลิกกันตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 7และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5865/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้หลังฟ้องคดีเช็ค: คดีเลิกกันตามกฎหมายเช็คและสิทธิฟ้องอาญาเป็นอันระงับ
คดีความผิดต่อ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เมื่อจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว หนี้ตามสัญญากู้ยืมเป็นอันระงับไป มูลหนี้ที่จำเลยออกเช็คพิพาทจึงสิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด คดีเป็นอันเลิกกันตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 7 และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์เป็นอันระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39(3).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5855/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเช็ค: รอการลงโทษเมื่อจำเลยรับสารภาพ ชำระหนี้บางส่วน และโจทก์บังคับคดีทางแพ่งได้
คดีความผิดต่อ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 แม้กฎหมายกำหนดโทษจำคุกไว้ แต่เป็นความผิดอันเกิดจากความรับผิดของบุคคลในทางแพ่ง เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพมาตั้งแต่ต้นทั้งโจทก์ได้รับชำระหนี้บางส่วนเป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของหนี้สินทั้งหมด สำหรับหนี้ส่วนที่ค้างชำระโจทก์ก็อาจบังคับเอากับจำเลยในทางแพ่งได้อีกเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จึงสมควรรอการลงโทษจำเลยไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5603/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการมรดกและความสมบูรณ์ของพินัยกรรม: สิทธิของผู้มีส่วนได้เสียและเจตนาของเจ้ามรดก
การที่ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้คัดค้านเป็นภริยาของเจ้ามรดกโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินด้วยกันและมีทรัพย์สินร่วมด้วยบางรายการ ถือว่าผู้คัดค้านเป็นผู้มีส่วนได้เสียชอบที่จะยื่นคำคัดค้านการที่ผู้ร้องขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกได้ หากพินัยกรรมทำขึ้นขณะผู้ตายล้มป่วยหนักสติสัมปชัญญะไม่สมประกอบ ดังคำคัดค้านผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจร้องต่อศาลขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมได้ จึงจำต้องวินิจฉัยถึงความสมบูรณ์ของพินัยกรรม เมื่อพินัยกรรมสมบูรณ์ตามกฎหมาย การที่ผู้คัดค้านไม่ได้รับมรดกตามพินัยกรรมเลย และตามพินัยกรรมเจ้ามรดกมีเจตนาที่จะตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือเสมือนไร้ความสามารถและไม่เป็นบุคคลล้มละลาย จึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย. (วรรคแรกและวรรคสอง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5603/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้มีส่วนได้เสียคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดก & ความสมบูรณ์ของพินัยกรรมขณะทำพินัยกรรม
ผู้คัดค้านอ้างว่าเป็นภริยาของเจ้ามรดกโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินด้วยกัน และมีทรัพย์สินร่วมด้วยบางรายการถือว่าผู้คัดค้านเป็นผู้มีส่วนได้เสียชอบที่จะยื่นคำคัดค้านการที่ผู้ร้องขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกได้ เมื่อปรากฏว่าหากพินัยกรรมทำขึ้นขณะที่ผู้ตายป่วยหนักสติสัมปชัญญะไม่สมประกอบดังคำคัดค้าน ผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจร้องต่อศาลขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมได้ศาลก็จำต้องวินิจฉัยถึงความสมบูรณ์ของพินัยกรรมด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5600/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าเช่าซื้อเมื่อผิดสัญญา แต่ไม่ถือว่ารู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด
แม้ใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์จะไม่ใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่แสดงว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นก็ตามแต่ใบคู่มือดังกล่าวมีรายการชื่อเจ้าของไว้ด้วย และการรับจดทะเบียนรถยนต์รายการต่าง ๆ นั้น นายทะเบียนผู้รับจดทะเบียนจะต้องทำการสอบสวนหลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เสียก่อนเมื่อเห็นว่าถูกต้องแล้วจึงรับจดทะเบียนให้ เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนให้แล้ว ย่อมสันนิษฐานได้ว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์โดยแท้จริง เว้นแต่จะมีหลักฐานฟังได้เป็นอย่างอื่น แม้ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของกลางระหว่างผู้ร้องกับจำเลยจะมีข้อตกลงว่าหากจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อผิดสัญญา ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าเช่าซื้อจนครบรวมทั้งค่าเสียหายก็ตาม ก็เป็นเพียงสิทธิเรียกร้องทางแพ่งเท่านั้น การที่ผู้ร้องร้องขอคืนรถยนต์ของกลางถือไม่ได้ว่าผู้ร้องใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5585/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดจำเลยที่ไม่เดินทางทันเวลานัดศาล ทำให้ศาลยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นเลื่อนการไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยไปตามคำร้องขอของจำเลย จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องคำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางและออกเดินทางเสียแต่เนิ่น ๆเพื่อให้ทันเวลานัดของศาล เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องไม่ปรากฏว่ารถยนต์โดยสารที่จำเลยเดินทางมานั้น ใช้เวลาเดินทางมากกว่าปกติเกินกว่าที่คาดคิดแต่อย่างใดจึงเห็นได้ว่าการที่จำเลยมาศาลไม่ทันเวลานัด เป็นเพราะความผิดของจำเลยที่ไม่ออกเดินทางมาก่อนหน้านั้น ดังนั้น แม้จะฟังเป็นความจริงดังที่จำเลยอ้างในคำร้องก็ไม่มีเหตุสมควรที่ศาลชั้นต้นจะเพิกถอนคำสั่งที่ให้ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยได้ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ทำการไต่สวนเสียก่อนจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5585/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดจำเลยไม่ออกเดินทางแต่เนิ่นๆ ทำให้ไม่ทันนัดไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชอบธรรมที่ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นเลื่อนการไต่สวนคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยไปตามคำร้องขอของจำเลย จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องคำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางและออกเดินทางเสียแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้ทันเวลานัดของศาล เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องไม่ปรากฏว่ารถยนต์โดยสารที่จำเลยเดินทางมานั้น ใช้เวลาเดินทางมากกว่าปกติเกินกว่าที่คาดคิดแต่อย่างใดจึงเห็นได้ว่าการที่จำเลยมาศาลไม่ทันเวลานัด เป็นเพราะความผิดของจำเลยที่ไม่ออกเดินทางมาก่อนหน้านั้น ดังนั้น แม้จะฟังเป็นความจริงดังที่จำเลยอ้างในคำร้อง ก็ไม่มีเหตุสมควรที่ศาลชั้นต้นจะเพิกถอนคำสั่งที่ให้ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยได้ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ทำการไต่สวนเสียก่อนจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5568/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตนเอง ไม่เป็นความผิดฐานชุลมุนต่อสู้ การพิเคราะห์เจตนาจากพฤติการณ์
การที่จำเลยที่ 1 เอามีดจี้คอจำเลยที่ 2 นั้น ผู้ที่ประสบเหตุการณ์อยู่ในฐานะอย่างจำเลยที่ 2 คงไม่มีจิตใจที่จะพิเคราะห์ว่า จำเลยที่ 1 จะแทงจริงหรือไม่ย่อมต้องดิ้นรนให้พ้นเหตุการณ์นั้น การที่จำเลยที่ 2 ชกจำเลยที่ 1 ไปทีเดียวในภาวะเช่นนี้นับเป็นการกระทำเพื่อป้องกันให้ตนพ้นอันตรายเท่านั้น หาได้มีเจตนาทำร้ายหรือสมัครใจวิวาทกับจำเลยที่ 1 ไม่ แม้ในเหตุการณ์ดังกล่าวจำเลยที่ 1 ได้ฆ่า ร. ตายด้วย จำเลยที่ 2 ก็หามีความผิดฐานชุลมุนต่อสู้กันและมีคนถึงแก่ความตายไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5417/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเช็ค: ศาลรับฟังวันที่โจทก์ทราบการกระทำผิดจากคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ในชั้นพิจารณา โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่า โจทก์ทราบถึงการกระทำผิดเมื่อใด แต่โจทก์ได้เบิกความไว้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าโจทก์ทราบถึงการกระทำผิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2528 คำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเป็นเอกสารที่ใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาได้ ดังนั้น เมื่อนำคำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาฟังประกอบคำเบิกความของพยานโจทก์ในชั้นพิจารณาแล้ว ฟังได้ว่าโจทก์ทราบถึงการกระทำผิด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2528 โจทก์ฟ้องคดีไม่เกินกำหนด3 เดือนนับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการกระทำผิด คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ