พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5417/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเป็นหลักฐานในชั้นพิจารณา และการนับอายุความในคดีเช็ค
คำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเป็นเอกสารที่ใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5331/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองเพื่อประกันหนี้ตนเอง – พยานหลักฐาน – การบังคับจำนอง
สัญญาจำนองเป็นสัญญาที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง จำเลยจึงนำสืบพยานบุคคลประกอบข้ออ้างว่า จำเลยมิได้จำนองเพื่อประกันหนี้ของตนเองไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5268/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับช่วงสิทธิในสัญญาประกันภัย และการรับฟังพยานเอกสารที่มิได้ปิดอากรแสตมป์
หนังสือมอบอำนาจให้รับเงินแทนและใบรับเงินของผู้ซ่อมรถเป็นตราสารที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายหมวด 6 แห่งประมวลรัษฎากรข้อ 6 และ ข้อ 28ตามลำดับ แม้เอกสารดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์ก็นำมารับฟังประกอบพยานบุคคลว่ามีการจ่ายเงินแล้วได้ เงื่อนไขตามสัญญาประกันภัยเป็นข้ออ้างของคู่สัญญาที่จะปฏิบัติต่อกันหรือลดหย่อนผ่อนกันได้โดยหลักประนีประนอม คู่กรณีเท่านั้นที่จะยกเป็นข้อต่อสู้ระหว่างกัน บุคคลอื่นหา ยก ขึ้นกล่าวอ้างได้ไม่ จำเลยซึ่งเป็นผู้ทำละเมิดจึงไม่อาจยกขึ้นต่อสู้ว่าโจทก์ที่ 1 ผู้รับประกันภัยจ่ายค่าทดแทนไปโดยผิดเงื่อนไขในสัญญาประกันภัย เมื่อโจทก์ที่ 1 จ่ายค่าทดแทนไปโดยสุจริตมิได้มีการสมยอมกับผู้เอาประกันภัย ย่อมมีสิทธิเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5257/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: คำร้องยกเลิกขายทอดตลาดหลังเสร็จสิ้นกระบวนการเป็นไปตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินจำนองทั้งสามแปลงโดยปลอดจำนองให้แก่ผู้เสนอราคาสูงสุดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2530และผู้ซื้อได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว ต่อมาศาลแพ่งได้มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินให้จดทะเบียนระงับจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งสามแปลงให้ผู้ซื้อ และโจทก์ได้รับเงินสุทธิจากการขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2530 ดังนี้ ถือได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2531 จึงเป็นการยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดหลังจากการขายทอดตลาดเสร็จสิ้นลงแล้วถึง 9 เดือน คำร้อง ของ จำเลยที่ 2 จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 296 วรรคสอง ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4670/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาตามยอมและการฟ้องเพิกถอน ศาลมีอำนาจยกฟ้องหากคำขอไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำพิพากษาตามยอมของศาลชั้นต้น ซึ่งตามกฎหมายคำพิพากษาของศาลจะเพิกถอนไม่ได้ เว้นแต่จะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับ หรืองดเสีย โดยคำพิพากษาของศาลในลำดับที่สูงกว่าเมื่อคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาในข้อที่ไม่อาจจะพิพากษาให้ได้โดยชอบด้วยกฎหมายเช่นนี้ ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียได้ในชั้นตรวจคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 131(2) ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ทั้งหมดจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4670/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนคำพิพากษาตามยอมและการยกฟ้องกรณีข้อหาที่ไม่อาจพิพากษาได้
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำพิพากษาตามยอมของศาลชั้นต้นซึ่งตามกฎหมายคำพิพากษาของศาลจะเพิกถอนไม่ได้ เว้นแต่จะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับ หรืองดเสีย โดยคำพิพากษาของศาลในลำดับที่สูงกว่า เมื่อคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาในข้อที่ไม่อาจจะพิพากษาให้ได้โดยชอบด้วยกฎหมายเช่นนี้ ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียได้ในชั้นตรวจคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 131(2) ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ทั้งหมด จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4658/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ยกคำขอฟ้องคดีอนาถา หลังไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอฟ้องคดีชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย จำเลยได้ร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่โดยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานที่จำเลยนำมาแสดงแล้วยังคงเห็นว่าจำเลยไม่ใช่คนยากจน ให้ยกคำร้องขอของจำเลย คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอของจำเลยในกรณีเช่นนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสี่ มิได้บัญญัติว่าให้เป็นที่สุด จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ภายใน 7 วัน นับแต่วันศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4271/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินทับซ้อน: การให้ถ้อยคำรับรองต่อเจ้าพนักงานถือเป็นการครอบครองแทนโจทก์ มิใช่การครอบครองเพื่อตนเอง
จำเลยให้ถ้อยคำต่อปลัดอำเภอท้องที่ที่พิพาทรับรองว่าจำเลยได้ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินทับที่พิพาท และให้สัญญาว่าจะนำหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยมอบให้แก่เจ้าพนักงานเพื่อดำเนินการเพิกถอนส่วนที่ทับที่พิพาท ดังนั้นนับแต่จำเลยให้ถ้อยคำดังกล่าวมา การที่จำเลยยังคงครอบครองที่พิพาทอยู่ ถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนโจทก์มิใช่ครอบครองโดยเจตนายึดถือเพื่อตน จำเลยครอบครองนานเท่าใดก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4271/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินพิพาทหลังรับรองการขอออก น.ส.3ก. ทับที่ดินโจทก์ ถือเป็นการครอบครองแทนโจทก์ มิใช่เพื่อตน
จำเลยให้ถ้อยคำต่อปลัดอำเภอท้องที่ที่พิพาทรับรองว่าจำเลยได้ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินทับที่พิพาท และให้สัญญาว่าจะนำหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยมอบให้แก่เจ้าพนักงานเพื่อดำเนินการเพิกถอนส่วนที่ทับที่พิพาท ดังนั้นนับแต่จำเลยให้ถ้อยคำดังกล่าวมา การที่จำเลยยังคงครอบครองที่พิพาทอยู่ ถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนโจทก์ มิใช่ครอบครองโดยเจตนายึดถือเพื่อตน จำเลยครอบครองนานเท่าใดก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4246/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนจากธุรกิจจัดหางาน จำเลยมีส่วนร่วมรับรู้และจัดการเอกสาร
จำเลยเป็นภริยาของ จ. หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดส. ซึ่งโจทก์ระบุว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดกับจำเลย แม้จำเลยจะมิได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายมาสมัครไปทำงานยังต่างประเทศกับ จ.ก็ตาม แต่ในวันสมัครงานจำเลยก็เข้ามาจัดการตรวจดูเอกสารที่ผู้เสียหายยื่นประกอบใบสมัครงานว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยมีจ. เป็นผู้รับเงินค่าบริการ สถานที่รับสมัครงานก็คือสำนักงานห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย ที่พักอาศัยของ จ. และจำเลยก็อยู่ด้านหลังสำนักงานนั้นเอง จำเลยจึงย่อมทราบว่ามีคนไปสมัครงานกับ จ. เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ไปทำงานยังต่างประเทศและมาติดตามเรื่อง จำเลยก็รับทำหน้าที่แทน จ.และพยายามหาเงินใช้คืนผู้เสียหาย ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยร่วมรับรู้ถึงการทำงานของ จ. มาโดยตลอด ถือได้ว่าเป็นตัวการร่วมกับ จ. ในข้อหาความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนแล้ว.