พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6274/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างจักสานไม่รู้หวายผิดกฎหมาย ไม่ถือเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุน
จำเลยทั้งเก้า ถูกจับกุมพร้อมหวายของกลางขณะกำลังจักสานอยู่ข้างถนน จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 เป็นลูกจ้างและจักสานเพื่อจะได้รับค่าจ้างจากจำเลยที่ 1 ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ครอบครองหวายของกลางอยู่ด้วย ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 เป็นตัวการร่วมกันกับจำเลยที่ 1 ครอบครองของกลาง และพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 รับจ้างจักสานหวายของกลางอยู่ริมถนนอย่างเปิดเผย แสดงว่าไม่รู้ว่าหวายของกลางเป็นของผิดกฎหมาย จึงไม่เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6274/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างจักสานหวายไม่รู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย ไม่เป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุน
จำเลยทั้งเก้า ถูกจับกุมพร้อมหวายของกลางขณะกำลังจักสานอยู่ข้างถนน จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 เป็นลูกจ้างและจักสานเพื่อจะได้รับค่าจ้างจากจำเลยที่ 1 ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ครอบครองหวายของกลางอยู่ด้วย ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 เป็นตัวการร่วมกันกับจำเลยที่ 1 ครอบครองของกลาง และพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 9 รับจ้างจักสานหวายของกลางอยู่ริมถนนอย่างเปิดเผย แสดงว่าไม่รู้ว่าหวายของกลางเป็นของผิดกฎหมาย จึงไม่เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6203/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขับรถบรรทุกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการครอบครองถ่านไม้ผิดกฎหมาย จึงไม่มีความผิดฐานสนับสนุนและไม่ต้องริบรถ
ล. เจ้าของถ่าน ไม้ของกลางได้ครอบครองถ่าน ไม้ของกลางอยู่ด้วยตนเอง จำเลยเป็นเพียงผู้รับจ้างขับรถยนต์บรรทุก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครองถ่าน ไม้ของกลาง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิดกับ ล. และจำเลยไม่รู้ว่า ล. ไม่มีใบเบิกทางและไม่รู้ว่าถ่าน ไม้ของกลางมีปริมาณเกินกว่าที่กำหนดตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2526 จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ล. เมื่อจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง รถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิด จึงริบไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6203/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดเกี่ยวกับป่าไม้ ผู้ขับรถบรรทุกไม้ไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่ถือเป็นความผิดสนับสนุน
เจ้าของถ่านไม้ของกลางได้ครอบครองถ่านไม้ของกลางซึ่งเป็นของป่าหวงห้ามปริมาณเกินกว่าที่บุคคลอาจมีไว้ในครอบครองโดยไม่ต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยตนเอง จำเลยเป็นเพียงผู้รับจ้างขับรถยนต์บรรทุกถ่านไม้ของกลาง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครองถ่านไม้ของกลาง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิดกับเจ้าของถ่านไม้ และจำเลยไม่รู้ว่าเจ้าของถ่านไม้ของกลางไม่มีใบเบิกทางและไม่รู้ว่าถ่านไม้ของกลางมีปริมาณเกินกว่าที่กำหนดตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2526 จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าของถ่านไม้ของกลาง เมื่อจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง รถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิด จึงริบรถยนต์ของกลางไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6182/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์เกิดจากการสร้างสรรค์ด้วยความคิดริเริ่ม มิใช่การลอกเลียนแบบจากธรรมชาติหรือผู้อื่น
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 6 บัญญัติให้ผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานที่ตนได้สร้างสรรค์ขึ้นและมาตรา 4 ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า "ผู้สร้างสรรค์" ไว้ว่าหมายถึง ผู้ทำหรือก่อให้เกิดงานโดยความคิดริเริ่มของตนเอง จากคำจำกัดความดังกล่าวผู้ที่จะได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างสรรค์นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ทำหรือก่อให้เกิดงานขึ้นจากความคิดริเริ่มด้วยตนเองมิใช่เป็นการลอกเลียนแบบจากของจริง จากธรรมชาติ หรือลอกเลียนแบบจากงานของผู้อื่นทั้งที่ปรากฏเป็นรูปร่างหรือภาพถ่าย งานที่โจทก์อ้างว่าโจทก์มีลิขสิทธิ์ตามฟ้องนั้น เป็นงานที่เกิดจากการถอดรูปแบบมาจากของจริงตามธรรมชาติบ้าง ลอกเลียนแบบจากความคิดริเริ่มของผู้อื่นที่ได้สร้างสรรค์ไว้แล้วบ้าง และลอกเลียนแบบจากนิตยสารอื่น ๆ บ้าง งานของโจทก์ดังกล่าวจึงมิใช่เป็นงานที่โจทก์สร้างสรรค์ขึ้นโดยความคิดริเริ่มของโจทก์เองโจทก์จึงมิใช่ผู้สร้างสรรค์ตามความหมายแห่งมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 จึงไม่มีลิขสิทธิ์ในแบบรูปปั้นหล่อทองเหลืองตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6182/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์เกิดจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มิใช่การลอกเลียนแบบจากธรรมชาติหรือผู้อื่น
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 6 บัญญัติให้ผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานที่ตนได้สร้างสรรค์ขึ้นและมาตรา 4 ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า "ผู้สร้างสรรค์" ไว้ว่าหมายถึง ผู้ทำหรือก่อให้เกิดงานโดยความคิดริเริ่มของตนเอง จากคำจำกัดความดังกล่าวผู้ที่จะได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างสรรค์นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ทำหรือก่อให้เกิดงานขึ้นจากความคิดริเริ่มด้วยตนเองมิใช่เป็นการลอกเลียนแบบจากของจริง จากธรรมชาติ หรือลอกเลียนแบบจากงานของผู้อื่นทั้งที่ปรากฏเป็นรูปร่างหรือภาพถ่าย
งานที่โจทก์อ้างว่าโจทก์มีลิขสิทธิ์ตามฟ้องนั้น เป็นงานที่เกิดจากการถอดรูปแบบมาจากของจริงตามธรรมชาติบ้าง ลอกเลียนแบบจากความคิดริเริ่มของผู้อื่นที่ได้สร้างสรรค์ไว้แล้วบ้าง และลอกเลียนแบบจากนิตยสารอื่น ๆ บ้าง งานของโจทก์ดังกล่าวจึงมิใช่เป็นงานที่โจทก์สร้างสรรค์ขึ้นโดยความคิดริเริ่มของโจทก์เองโจทก์จึงมิใช่ผู้สร้างสรรค์ตามความหมายแห่งมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 จึงไม่มีลิขสิทธิ์ในแบบรูปปั้นหล่อทองเหลืองตามฟ้อง.
งานที่โจทก์อ้างว่าโจทก์มีลิขสิทธิ์ตามฟ้องนั้น เป็นงานที่เกิดจากการถอดรูปแบบมาจากของจริงตามธรรมชาติบ้าง ลอกเลียนแบบจากความคิดริเริ่มของผู้อื่นที่ได้สร้างสรรค์ไว้แล้วบ้าง และลอกเลียนแบบจากนิตยสารอื่น ๆ บ้าง งานของโจทก์ดังกล่าวจึงมิใช่เป็นงานที่โจทก์สร้างสรรค์ขึ้นโดยความคิดริเริ่มของโจทก์เองโจทก์จึงมิใช่ผู้สร้างสรรค์ตามความหมายแห่งมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 จึงไม่มีลิขสิทธิ์ในแบบรูปปั้นหล่อทองเหลืองตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6182/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์ต้องเกิดจากความคิดริเริ่มของตนเอง การลอกเลียนแบบจากธรรมชาติหรือผู้อื่นไม่ถือเป็นงานสร้างสรรค์
พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 6 บัญญัติให้ผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานที่ตนได้สร้างสรรค์ ขึ้น และมาตรา 4ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า "ผู้สร้างสรรค์" ไว้ว่า หมายถึง ผู้ทำหรือก่อให้เกิดงานโดยความคิดริเริ่มของตนเอง จากคำจำกัดความดังกล่าวผู้ที่จะได้ชื่อ ว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ทำหรือก่อให้เกิดงานขึ้นจากความคิดริเริ่มด้วยตนเอง มิใช่เป็นการลอกเลียนแบบจากของจริงจากธรรมชาติ หรือลอกเลียนแบบจากงานผู้อื่น ทั้งที่ปรากฏเป็นรูปร่างหรือภาพถ่าย งานที่โจทก์อ้างว่าโจทก์มีลิขสิทธิ์ตามฟ้องนั้น เป็นงานที่เกิดจากการถอด รูปแบบมาจากของจริงตามธรรมชาติบ้าง ลอกเลียนแบบจากความคิดริเริ่มของผู้อื่นที่ได้สร้างสรรค์ ไว้แล้วบ้าง และลอกเลียนแบบจากนิตยสารอื่น ๆ บ้าง งานของโจทก์ดังกล่าวจึงมิใช่เป็นงานที่โจทก์สร้างสรรค์ ขึ้นโดยความคิดริเริ่มของโจทก์เอง โจทก์จึงมิใช่ผู้สร้างสรรค์ ตามความหมายแห่งมาตรา 4ของ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 จึงไม่มีลิขสิทธิ์ในแบบรูปปั้นหล่อทองเหลืองตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5990/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินประจำตำแหน่ง ส.ส. มิใช่เงินเดือน จึงบังคับคดีได้
เงินประจำตำแหน่ง เงินค่ารับรองและเงินช่วยเหลือค่าที่พักของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิใช่เงินเดือน ทั้งตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิใช่ข้าราชการเงินทั้ง 3 ประเภทจึงไม่อยู่ในความหมายของเงินเดือนของข้าราชการหรือลูกจ้างของ รัฐบาล ตามป.วิ.พ. มาตรา 286(2) โจทก์ย่อมขอบังคับคดีได้ กรณีนี้ไม่มีกฎหมายให้อำนาจศาลกำหนดเงินจำนวนตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้ต้องรับผิดในการบังคับคดีดังเช่นกรณีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 286(1)(3)(4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5990/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินประจำตำแหน่ง ส.ส. ไม่อยู่ในข่ายเงินเดือนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 286(2) บังคับคดีได้
เงินประจำตำแหน่ง เงินค่ารับรองและเงินช่วยเหลือค่าที่พักของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิใช่เงินเดือน ทั้งตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิใช่ข้าราชการเงินทั้ง 3 ประเภทจึงไม่อยู่ในความหมายของเงินเดือนของข้าราชการหรือลูกจ้างของ รัฐบาล ตามป.วิ.พ. มาตรา 286(2) โจทก์ย่อมขอบังคับคดีได้ กรณีนี้ไม่มีกฎหมายให้อำนาจศาลกำหนดเงินจำนวนตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้ต้องรับผิดในการบังคับคดีดังเช่นกรณีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 286 (1) (3) (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5919/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายหลังคู่ความถึงแก่กรรม: การระงับสัญญาตัวแทนและระยะเวลาปกปักรักษาประโยชน์
การแต่งตั้งทนายความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 60 เป็นการตั้งตัวแทนตาม ป.พ.พ. ลักษณะ 15 ว่าด้วยตัวแทน เมื่อโจทก์ผู้แต่งตั้งถึงแก่กรรม กรณีจึงต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 828 คือแม้สัญญาตัวแทนจะระงับไป แต่ทนายโจทก์ยังมีอำนาจและหน้าที่จัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักรักษาประโยชน์ของโจทก์ต่อไป จนกว่าทายาทหรือผู้แทนของโจทก์จะเข้าปกปักรักษาประโยชน์นั้น ๆ โดยการเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะตาม ป.วิ.พ. มาตรา 42 เมื่อปรากฏว่าโจทก์ถึงแก่กรรมในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แต่ก็ไม่มีทายาทหรือผู้แทนของโจทก์ขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาและศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาให้ทนายโจทก์ฟังเมื่อโจทก์ถึงแก่กรรมเกิน 1 ปีแล้ว จึงถือได้ว่าเป็นการล่วงพ้นระยะเวลาที่ตัวแทน หรือทนายโจทก์จะจัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักรักษาประโยชน์ของโจทก์แล้ว ทนายโจทก์จึงไม่มีอำนาจดำเนินคดีแทนโจทก์ต่อไป เมื่อทนายโจทก์ยื่นฎีกาคดีนี้ในขณะที่หมดอำนาจแล้ว ฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.