คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พรชัย สมรรถเวช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,993 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยสิทธิในมรดกนอกประเด็นฟ้อง การพิจารณาฐานะทายาทที่ยังไม่ได้ถูกยกขึ้นมาต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นทายาทเพียงผู้เดียวที่มีสิทธิได้รับ ที่ดินมรดกของ ฉ. จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ว่า จำเลยเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกของ ฉ. หรือมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมในที่ดิน นั้น ทั้งตามคำสั่งศาลในคดีก่อนที่ให้ตั้งโจทก์กับจำเลยเป็น ผู้จัดการมรดกของ ฉ.ร่วมกันก็มิได้วินิจฉัยว่า จำเลยเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกของ ฉ.หรือมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินดังกล่าว ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยมีส่วนได้เสีย ในที่ดินมรดก จึงมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งใน ที่ดิน ตามส่วนนั้น จึงเป็น การวินิจฉัยนอกประเด็นจากคำฟ้องและคำให้การ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม: พิจารณาจากโครงสร้างเงินเดือนลูกจ้างทั้งระบบ
เมื่อปรากฏว่าสวัสดิการที่โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างจัดให้แก่ลูกจ้างในกรณีการตาย นั้น บางกรณีลูกจ้างได้รับประโยชน์สูงกว่าบางกรณีได้รับประโยชน์ต่ำกว่าประโยชน์ทดแทนกรณีตาย ตามพ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 2533 ดังนี้การจะพิจารณาว่าสวัสดิการของโจทก์ที่จัดให้แก่ลูกจ้างในกรณีการตาย อันมิใช่เนื่องมาจากการทำงานนั้น มีการจ่ายในอัตราสูงกว่าประโยชน์ทดแทนตาม พ.ร.บ.ประกันสังคมฯ หรือไม่ จะต้องพิจารณาจากโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบ มิใช่พิจารณาแต่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง กรณีนี้เมื่อพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบแล้วสวัสดิการของโจทก์ที่จัดให้แก่ลูกจ้างมีอัตราสูงกว่าประโยชน์ทดแทนตาม พ.ร.บ. ประกันสังคมฯ โจทก์จึงมีสิทธิขอลดส่วนอัตราเงินสมทบสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีตาย ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สวัสดิการลูกจ้างถึงแก่กรรม: พิจารณาโครงสร้างเงินเดือนทั้งระบบเพื่อลดอัตราสมทบประกันสังคม
การพิจารณาการจัดสวัสดิการของโจทก์ให้แก่ลูกจ้างในกรณีตายนั้นจะต้องพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบ มิใช่พิจารณาแต่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งเมื่อลูกจ้างส่วนใหญ่ได้รับสวัสดิการรวมแล้วสูงกว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีตายตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม ฯ โจทก์จึงมีสิทธิขอลดส่วนอัตราเงินเดือนสมทบสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีตายได้ในอัตราร้อยละ 0.06

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม: พิจารณาโครงสร้างเงินเดือนลูกจ้างทั้งระบบเพื่อเปรียบเทียบสวัสดิการนายจ้าง
การพิจารณาว่านายจ้างจัดสวัสดิการให้แก่ลูกจ้างในกรณีตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงานมีการจ่ายในอัตราสูงกว่าประโยชน์ทดแทนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 มาตรา 55 หรือไม่จะต้องพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบมิใช่พิจารณาแต่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง เมื่อพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบแล้วสวัสดิการที่นายจ้างจัดให้แก่ลูกจ้างในกรณีการตายอันมิใช่เนื่องมาจากการทำงานนั้น มีการจ่ายในอัตราสูงกว่าประโยชน์ทดแทนตามพระราชบัญญัติประกันสังคมฯ นายจ้างจึงมีสิทธิขอลดส่วนอัตราเงินสมทบสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีตายได้ในอัตราร้อยละ 0.06

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม กรณีสวัสดิการของนายจ้างสูงกว่าประโยชน์ทดแทน
การพิจารณาการจัดสวัสดิการของโจทก์ให้แก่ลูกจ้างในกรณีตายนั้นจะต้องพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบมิใช่พิจารณาแต่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งเมื่อลูกจ้างส่วนใหญ่ได้รับสวัสดิการรวมแล้วสูงกว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีตายตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ฯ โจทก์จึงมีสิทธิขอลดส่วนอัตราเงินเดือนสมทบสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีตายได้ในอัตราร้อยละ 0.06

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธเช็คด้วยเหตุผล 'เช็คพ้นกำหนด' ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
การที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่า"เช็คพ้นกำหนดการจ่ายเงิน" ไม่ใช่เป็นการปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คอันเป็นความผิดตามที่พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 บัญญัติไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปฏิเสธการจ่ายเช็คเนื่องจากเช็คหมดอายุ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยที่ 2 สั่งจ่ายเช็คพิพาทมอบให้โจทก์ ต่อมาโจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินตามเช็ค การที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่า "เช็คพ้นกำหนดการจ่ายเงิน" นั้นไม่ใช่เป็นการปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คตามที่ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 บัญญัติไว้ การกระทำของจำเลยที่ 2 ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็ก: เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินบำเหน็จได้เฉพาะส่วนที่ถึงกำหนดชำระ
ศาลพิพากษากำหนดให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กชายส.ให้แก่โจทก์เดือนละ 1,500 บาท นับแต่วันที่ศาลพิพากษาเป็นต้นไปจนกว่าเด็กชายส. จะบรรลุนิติภาวะ ตามคำพิพากษาดังกล่าวจำเลยไม่จำต้องชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่โจทก์ทั้งหมดในทันที แต่ต้องแบ่งชำระเป็นงวดรายเดือนเฉพาะงวดที่ถึงกำหนดชำระแล้วเท่านั้นดังนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีคงมีสิทธิอายัดเงินบำเหน็จของจำเลยที่จำเลยมีสิทธิได้รับจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามงวดที่ถึงกำหนดชำระแล้วได้เท่านั้น ไม่มีสิทธิอายัดเงินบำเหน็จของจำเลยจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพไว้ทั้งหมดเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าอุปการะเลี้ยงดูรายเดือน เจ้าพนักงานบังคับคดีมีสิทธิยึดเฉพาะงวดที่ถึงกำหนดชำระ
เมื่อตามคำพิพากษากำหนดให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดู เป็นรายเดือนจำเลยจึงไม่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งหมดในทันที เพียงแต่ต้องชำระให้เฉพาะงวดที่ถึงกำหนดเท่านั้น ดังนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่มีสิทธิอายัดและยึดถือเงินบำเหน็จของ จำเลยในส่วนที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 159/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็ก: อายัดเงินบำเหน็จได้เฉพาะส่วนที่ถึงกำหนดชำระ
คำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้กำหนดให้จำเลยชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กชาย ส. ให้แก่โจทก์เดือนละ 1,500 บาท นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษาเป็นต้นไป จนกว่าเด็กชาย ส. จะบรรลุนิติภาวะ จำเลยจึงไม่จำต้องชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กชายส.ให้แก่โจทก์ทั้งหมดในทันที แต่ต้องแบ่งชำระให้โจทก์เป็นงวดรายเดือนเฉพาะงวดที่ถึงกำหนดชำระ ดังนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีสิทธิอายัดเงินบำเหน็จของจำเลยมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้เพียงงวดที่ถึงกำหนดชำระแล้วเท่านั้น
of 200