คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พรชัย สมรรถเวช

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,993 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5827/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ต้องรับผิดในความเสียหายจากการยึดรถยนต์ของเจ้าพนักงานตำรวจ แม้จะเคยเช่ารถยนต์คันดังกล่าว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไม่ยอมส่งตัวลูกจ้างที่ขับรถยนต์พิพาทไปเกิดอุบัติเหตุไปให้พนักงานสอบสวนและไม่นำรถยนต์พิพาทไปมอบให้พนักงานสอบสวนต่อมาเมื่อโจทก์และจำเลยเลิกสัญญาเช่าต่อกันและจำเลยมอบรถยนต์พิพาทให้โจทก์แล้วเจ้าพนักงานตำรวจได้มายึดรถยนต์พิพาทไปการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะไม่สามารถนำรถยนต์พิพาทไปให้เช่าได้ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายดังนี้การที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดรถยนต์พิพาทของโจทก์ไปเป็นการกระทำของเจ้าพนักงานตำรวจตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมายมิใช่การกระทำของจำเลยจำเลยมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5825/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินของคนต่างด้าวที่ได้มาโดยไม่ชอบ แต่มีสิทธิจัดการได้ ย่อมเป็นทรัพย์มรดก
แม้ซ. เป็นบุคคลต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดินฯมาตรา86แต่การได้ที่ดินมานั้นก็มิใช่ว่าจะไม่มีผลใดๆเสียเลยเพราะซ. ยังมีสิทธิได้รับผลตามมาตรา94ในอันที่จะจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นได้ภายในเวลาที่อธิบดีกำหนดหรืออธิบดีอาจจำหน่ายที่ดินนั้นได้จึงต้องถือว่าตราบใดที่ซ.หรืออธิบดียังไม่ได้จำหน่ายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวก็ยังเป็นของซ. เมื่อซ. ถึงแก่ความตายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นย่อมเป็นมรดกของซ. โจทก์ในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรมของซ. จึงมีอำนาจฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกดังกล่าวจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5825/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว: ทายาทมีอำนาจฟ้องแบ่งมรดก แม้กรรมสิทธิ์ไม่สมบูรณ์
ซ.บิดาโจทก์จำเลยเป็นคนต่างด้าวไม่สามารถมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ จึงลงชื่อจำเลยเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์แทน การที่ ซ.ได้ที่ดินมาดังกล่าว แม้จะถือได้ว่าเป็นการได้ที่ดินมาโดยไม่ชอบด้วย ป.ที่ดินมาตรา 86 แต่การได้ที่ดินมานั้นก็มิใช่ว่าจะไม่มีผลใด ๆ เสียเลย เพราะ ซ.ยังมีสิทธิได้รับผลตามมาตรา 94 ในอันที่จะจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นได้ภายในเวลาที่อธิบดีกำหนด หรืออธิบดีอาจจำหน่ายที่ดินนั้นได้ จึงต้องถือว่าตราบใดที่หรืออธิบดียังไม่ได้จำหน่ายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวก็ยังเป็นของ ซ. เมื่อ ซ.ถึงแก่ความตายนั้นย่อมเป็นทรัพย์มรดก ซึ่งโจทก์ในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรมของ ซ.มีอำนาจฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกดังกล่าวจากจำเลยได้โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5825/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินของคนต่างด้าว: สิทธิในทรัพย์มรดกแม้มีข้อจำกัด
ช. บิดาโจทก์จำเลยเป็นคนต่างด้าวที่ไม่สามารถมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้จึงลงชื่อจำเลยเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์แทนการที่ซ. ได้ที่ดินมาดังกล่าวแม้จะถือได้ว่าเป็นการได้มาโดยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา86แต่การได้ที่ดินมานั้นก็มิใช่ว่าจะไม่มีผลใดๆเสียเลยเพราะซ. ยังมีสิทธิได้รับผลตามมาตรา94ในอันที่จะจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นได้ภายในเวลาที่อธิบดีกำหนดหรืออธิบดีอาจจำหน่ายที่ดินนั้นได้จึงต้องถือว่าตราบใดที่หรืออธิบดียังไม่ได้จำหน่ายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวก็ยังเป็นของซ. เมื่อซ.ถึงแก่ความตายนั้นย่อมเป็นทรัพย์มรดกซึ่งโจทก์ในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรมของซ. มีอำนาจฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกดังกล่าวจากจำเลยได้โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5762/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายสัมพันธ์กับคำฟ้องเดิม การพิจารณาความเสียหายต้องพิจารณาจากหน้าที่ชอบหรือไม่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตั้งคณะกรรมการสอบสวนโจทก์และลงโทษโจทก์โดยมิชอบเพราะโจทก์มิได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจำเลยให้การว่าโจทก์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยจำเลยจึงตั้งกรรมการสอบสวนโจทก์แล้วลงโทษโจทก์เป็นการปฏิบัติโดยชอบและฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายเนื่องจากการกระทำดังกล่าวของโจทก์การพิจารณาว่าจำเลยได้รับความเสียหายตามฟ้องแย้งหรือไม่จำนวนเท่าใดย่อมเป็นผลมาจากการวินิจฉัยประเด็นตามคำฟ้องเดิมที่ว่าโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ชอบหรือไม่ถือว่าฟ้องแย้งเป็นเรื่องเดียวกันกับฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5633/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำเตือนพนักงานตรวจแรงงานมีผลเพียงชี้แนะ ไม่ใช่คำสั่ง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอเพิกถอน
คำเตือนของพนักงานตรวจแรงงานที่ออกตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ77มีผลเพียงเป็นการชี้แนะของเจ้าหน้าที่เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างนายจ้างลูกจ้างมิใช่คำสั่งหรือคำวินิจฉัยชี้ขาดที่กฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องปฏิบัติตามถ้าโจทก์เห็นว่าคำเตือนนั้นไม่ถูกต้องจะไม่ปฏิบัติตามก็ได้การที่จำเลยที่2และที่3ในฐานะพนักงานตรวจแรงงานออกคำเตือนแก่โจทก์ย่อมไม่เป็นการโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำเตือนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5633/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำเตือนเจ้าพนักงานตรวจแรงงานไม่ใช่คำสั่งทางกฎหมาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นเจ้าพนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา อยู่ในบังคับบัญชาของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้สอบสวนตามที่ ป. ร้องเรียนว่าโจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าจ้างตามข้อตกลง ผลการสอบสวนของจำเลยที่ 2 และที่ 3ปรากฏว่าโจทก์ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฉบับลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 29 จึงออกคำเตือนแก่โจทก์โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 77 แห่งประกาศดังกล่าวให้โจทก์จ่ายค่าจ้างแก่ ป. ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำเตือนนั้น คำเตือนดังกล่าวมีผลเพียงเป็นการชี้แนะของเจ้าหน้าที่เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างนายจ้างลูกจ้าง มิใช่เป็นคำสั่งหรือคำวินิจฉัยชี้ขาดที่กฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องปฏิบัติตาม ถ้าโจทก์เห็นว่าคำเตือนนั้นไม่ถูกต้องจะไม่ปฏิบัติตามก็ได้ คำเตือนดังกล่าวจึงไม่เป็นการกระทบกระเทือนต่อสิทธิหน้าที่ของโจทก์ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ออกคำเตือนแก่โจทก์จึงไม่เป็นการโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ประกอบด้วย พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำเตือนของพนักงานตรวจแรงงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5586/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างทดลองงานได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ สิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นลูกจ้างทดลองงานก็มีฐานะเป็นลูกจ้างที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 จำเลยที่ 1และที่ 2 จึงมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ กล่าวหาว่านายจ้างกระทำการอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 123 และจำเลยที่ 3 ถึงที่ 14 ในฐานะคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีอำนาจวินิจฉัยคำร้องดังกล่าวของจำเลยที่ 1และที่ 2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5586/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างทดลองงานได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ สิทธิในการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
แม้จำเลยที่1และที่2เป็นลูกจ้างทดลองงานก็มีฐานะเป็นลูกจ้างที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ.2518จำเลยที่1และที่2จึงมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์กล่าวหาว่านายจ้างกระทำการอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา123และจำเลยที่3ถึงที่14ในฐานะคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีอำนาจวินิจฉัยคำร้องดังกล่าวของจำเลยที่1และที่2ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5385/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาจัดหางานสำคัญกว่า หากไม่มีเจตนาแต่หลอกลวงเพื่อเอาเงิน แม้รับสารภาพก็ไม่ผิดตาม พ.ร.บ. จัดหางาน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานมาตรา30วรรคหนึ่งนั้นผู้กระทำต้องมีเจตนาที่จะจัดหางานให้คนหางานเพื่อทำงานในต่างประเทศเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายทั้งหกว่าจำเลยสามารถจัดส่งผู้เสียหายทั้งหกไปทำงานในประเทศญี่ปุ่น โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ40,000บาทต่อเดือนซึ่งผู้เสียหายทั้งหกต้องเสียค่าใช้จ่ายและค่าบริการให้จำเลยซึ่งเป็นความเท็จเพราะความจริงแล้วจำเลยไม่สามารถส่งผู้เสียหายทั้งหกไปทำงานได้คำบรรยายฟ้องดังกล่าวแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาจัดหางานให้คงมีแต่เจตนาหลอกลวงผู้เสียหายทั้งหกเพื่อที่จะได้รับเงินค่าใช้จ่ายและค่าบริการเท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาตตามที่โจทก์ฟ้องแม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษได้
of 200