พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,993 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5086/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์: ระยะเวลาการครอบครองต่อเนื่องนับรวมได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 กล่าวถึงเฉพาะด้านผู้ครอบครองว่าถ้าได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นติดต่อกันนาน 10 ปี แล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์ การนับระยะเวลาการครอบครองที่ดินของจำเลยในระหว่างที่เป็นกรรมสิทธิของ ก. ติดต่อมาจนตกเป็นของโจทก์ สามารถนับรวมกันได้ เมื่อรวมเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5086/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองต่อเนื่อง: การรวมระยะเวลาครอบครองจากเจ้าของเดิม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382กล่าวถึงเฉพาะด้านผู้ครอบครองว่าถ้าได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ติดต่อกันนาน10ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์การนับระยะเวลาการครอบครองที่พิพาทของจำเลยในระหว่างที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ก. ติดต่อมาจนตกเป็นของโจทก์สามารถนับรวมกันได้เมื่อครบกำหนดดังกล่าวจำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5050/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างและการละทิ้งหน้าที่: ศาลฎีกายกอุทธรณ์เพราะเป็นการโต้แย้งดุลพินิจข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานฟัง
การที่บริษัทจำเลยโดยกรรมการผู้จัดการเลิกจ้างโจทก์ด้วยวาจาโดยให้มีผลตั้งแต่วันรุ่งขึ้นแล้วโจทก์ไม่ได้มาทำงานตั้งแต่วันดังกล่าวจนถึงวันที่จำเลยปิดประกาศปลดโจทก์ออกจากงานซึ่งเกิน3วันมิใช่เป็นการละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา3วันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควรจำเลยอุทธรณ์ว่าเลิกจ้างโจทก์ในวันที่ปิดประกาศมิใช่วันที่เลิกจ้างด้วยวาจาเป็นการโต้แย้งดุลพินิจของศาลแรงงานกลางที่ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์วันใดเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าในวันแรกที่โจทก์ไม่ได้มาทำงานนั้นโจทก์มีสิทธิฟ้องหรือไม่เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯมาตรา54
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5049/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างกรรมการสหภาพแรงงาน: การกระทำไม่เป็นธรรม แม้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าโจทก์เลิกจ้างผู้กล่าวหาทั้งสิบสามคนเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯเพราะผู้กล่าวหาทั้งสิบสามคนเป็นกรรมการสหภาพแรงงานผู้มีบทบาทในการยื่นข้อเรียกร้องเจรจาต่อรองข้อเรียกร้องกับโจทก์อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่าข้อความในจดหมายข่าวและแถลงการณ์เป็นการจงใจทำให้โจทก์เสียหายและเป็นการดูหมิ่นหมิ่นประมาทโจทก์และผู้บังคับบัญชาหรือไม่จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4988-4989/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งทรัพย์สิน (โรงน้ำแข็ง) ไม่สมบูรณ์เพราะไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หนังสือระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความตอนหนึ่งว่าโดยได้ตกลงที่จะมอบทรัพย์สินของข้าพเจ้าคือ"โรงน้ำแข็งพนม1"โดยข้าพเจ้าได้ตีราคารวมทั้งที่ดินสิ่งปลูกสร้างเป็นราคา3,500,000บาทสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาแบ่งทรัพย์สินซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ให้ไม่ใช่หนังสือให้หุ้นส่วนเมื่อไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา525สัญญาดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4980/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์และฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อยกว่าห้าหมื่นบาท
ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยโดยยกคำเบิกความของพยานโจทก์ จำเลยขึ้นวินิจฉัยประกอบกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการเดินเผชิญสืบ เป็นการวินิจฉัยพยานที่ปรากฏในสำนวนแล้ว
คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาท จึงห้ามมิให้จำเลยอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในข้อเท็จจริงโดยอ้างว่าต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าว แม้ผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์ภาค 3 รับรองให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง จำเลยก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะเมื่อต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นฎีกาจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 3 ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาท จึงห้ามมิให้จำเลยอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในข้อเท็จจริงโดยอ้างว่าต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าว แม้ผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์ภาค 3 รับรองให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง จำเลยก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะเมื่อต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นฎีกาจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 3 ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4925/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้าผู้อื่นและปลอมแปลงสินค้ากระทบต่อสุขภาพผู้บริโภค ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้น้ำหัวเชื้อทางเคมีผสมกับวัตถุทางเคมีจนเป็นแชมพูโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วบรรจุขวดแชมพูที่มีชื่อรูปรอยประดิษฐ์เป็นเครื่องหมายการค้า วิดัลแซสซูน เครื่องหมาย แพนทีนโปรวี เครื่องหมายอักษรโรมัน ปาล์มโอลีฟออพติมา และเครื่องหมาย รีจอยส์ อันเป็นเครื่องหมายการค้าและใช้ในการประกอบการค้าของบริษัท ริชาร์ดวินสันวิคส์อิงค์ ของบริษัท คอลเกตปาล์มโอลีฟฯ และของบริษัท เดอะพร็อคเตอร์แอนด์แกรมเบิลฯซึ่งได้จดทะเบียนในประเทศ สหรัฐอเมริกา เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าและการค้าของบริษัทดังกล่าวข้างต้นและจำหน่ายแก่ประชาชนเมื่อนำไปใช้แล้วจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพผู้บริโภคเป็นการบรรยายครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา236,272และชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4919/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองแรงงาน: การประสบอันตรายจากการเดินทางไปทำงาน แม้ยังไม่ถึงที่หมาย ถือเป็นการทำงานแล้ว
ผู้ตายออกเดินทางจากบ้านพักเพื่อไปเก็บเงินจากลูกค้าตามคำสั่งของนายจ้างและประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางแสดงว่าผู้ตายเริ่มลงมือทำงานแล้วแต่ยังไม่ถึงที่หมายถือว่าผู้ตายได้ประสบอันตรายโดยถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างแล้วไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ถึงขนาดที่ผู้ตายต้องเดินทางไปถึงที่หมายและเริ่มลงมือเก็บเงินจากลูกค้าจริงๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4919/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างประสบอันตรายขณะเดินทางไปปฏิบัติงาน แม้ยังไม่ถึงที่หมาย ก็ถือว่าเป็นการประสบอันตรายจากการทำงาน
ลูกจ้างออกเดินทางจากบ้านพักของลูกจ้างเพื่อไปเก็บเงินจากลูกค้าตามคำสั่งของนายจ้างและประสบอุบัติเหตุขณะเดินทาง แสดงอยู่ในตัวว่าลักษณะการทำงานของลูกจ้างในวันเกิดเหตุ ลูกจ้างไม่ต้องเข้าไปยังที่ทำงานของลูกจ้างและกระทำกิจอื่น แต่ลูกจ้างออกจากบ้านพักตรงไปบ้านลูกค้าเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ย่อมชี้ให้เห็นว่า ลูกจ้างได้เริ่มลงมือทำงานแล้ว แต่ยังไม่ถึงที่หมาย กรณีไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ถึงขนาดที่ลูกจ้างจะต้องเดินทางไปถึงที่หมายและเริ่มลงมือเก็บเงินจากลูกค้าจริง ๆ ถือว่าลูกจ้างได้ประสบอันตรายโดยถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างแล้ว ภริยาของลูกจ้างจึงมีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทนตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4919/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประสบอันตรายจากการทำงาน: เริ่มทำงานแล้ว แม้ยังไม่ถึงที่หมาย ก็ถือว่าประสบอันตรายได้
ลูกจ้างออกเดินทางจากบ้านพักของลูกจ้างเพื่อไปเก็บเงินจากลูกค้าตามคำสั่งของนายจ้างและประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางแสดงอยู่ในตัวว่าลักษณะการทำงานของลูกจ้างในวันเกิดเหตุลูกจ้างไม่ต้องเข้าไปยังที่ทำงานของลูกจ้างและกระทำกิจอื่นแต่ลูกจ้างออกจากบ้านพักตรงไปบ้านลูกค้าเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายย่อมชี้ให้เห็นว่าลูกจ้างได้เริ่มลงมือทำงานแล้วแต่ยังไม่ถึงที่หมายกรณีไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ถึงขนาดที่ลูกจ้างจะต้องเดินทางไปถึงที่หมายและเริ่มลงมือเก็บเงินจากลูกค้าจริงๆถือว่าลูกจ้างได้ประสบอันตรายโดยถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างแล้วภริยาของลูกจ้างจึงมีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทนตามกฎหมาย