คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 341

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 273 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนหุ้น การหักกลบลบหนี้ และข้อจำกัดการหักหนี้กับบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้น
พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 102 บัญญัติยกเว้นเฉพาะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341,342 เท่านั้นว่า หนี้ซึ่งหักกลบลบกันไม่ได้ตาม มาตรา 341,342 นั้นย่อม หักกลบลบกันได้ในกรณีที่ลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ตาม พระราชบัญญัติล้มละลายฯ ไม่รวมถึง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1119 ซึ่งบัญญัติห้ามเด็ดขาดมิให้ผู้ถือหุ้นหักหนี้ กับบริษัท ดังนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทลูกหนี้(จำเลย) จึงจะขอหักหนี้ค่าพิมพ์หนังสือที่บริษัทลูกหนี้(จำเลย) เป็นหนี้อยู่กับหนี้ค่าหุ้นที่ผู้ร้องค้างชำระบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 102 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3531/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงิน การชำระหนี้ด้วยเช็ค และการหักกลบลบหนี้
จำเลยนำเช็คมาขายลดให้โจทก์และออกตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวนเท่ากันกำหนดใช้เงินให้โจทก์เมื่อครบ 58 วันเท่ากับระยะเวลาที่เช็คถึงกำหนดชำระเงินพร้อมกับได้ทำหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินโดยระบุให้เช็คดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์ที่ประกันในการออกตั๋วสัญญาใช้เงินมีข้อตกลงในการชำระเงินว่า เมื่อถึงกำหนดชำระเงินให้โจทก์นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคาร ถ้าโจทก์ได้รับเงินตามเช็คก็ให้ถือว่าตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่จำเลยเป็นผู้ออกนั้นได้ใช้เงินแล้ว หนี้ที่ซื้อขายลดเช็คเป็นอันระงับไป หากเช็คเบิกเงินไม่ได้ จำเลยจะต้องรับผิดใช้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ดังนี้ การออกตั๋วสัญญาใช้เงินและหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวเป็นความสมัครใจของโจทก์และจำเลย เกิดเป็นสัญญามีผลผูกพันบังคับกันได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คดังกล่าวสูญหายไป จำเลยต้องชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยจะอ้างว่าโจทก์มิได้นำเช็คไปเบิกจากธนาคารก่อนหรือการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพื่อปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ และเรื่องนี้มิใช่เรื่องสัญญาค้ำประกันจำเลยจะยกเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 697 มาปัดความรับผิดก็ไม่ได้เช่นกัน
หนี้ที่จำเลยนำมาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์เป็นหนี้ที่เกิดจากความเสียหายอันเนื่องจากการที่โจทก์ทำเช็คสูญหายไป มิใช่เป็นหนี้ที่โจทก์จะต้องชำระหนี้ตามเช็คให้จำเลย โจทก์มิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คจึงไม่มีหนี้อะไรตามเช็คที่จำเลยจะนำมาหักกลบลบหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นได้ จำเลยได้รับความเสียหายอย่างไรชอบที่จะไปว่ากล่าวเอาแก่โจทก์ต่างหาก
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินโดยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินและนำมาขายให้แก่โจทก์ ครั้นถึงกำหนดจำเลยไม่ยอมชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยนำเช็คมาขายลดให้โจทก์แล้วออกตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมกับทำหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินโดยระบุเช็คนั้นเป็นประกันการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยมีข้อตกลงว่า หากโจทก์นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารไม่ได้ จำเลยจะต้องรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้องโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3531/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงิน: ความรับผิดเมื่อเช็คสูญหายและการหักกลบลบหนี้
จำเลยนำเช็คมาขายลดให้โจทก์และออกตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวนเท่ากันกำหนดใช้เงินให้โจทก์เมื่อครบ 58 วันเท่ากับระยะเวลาที่เช็คถึงกำหนดชำระเงินพร้อมกับได้ทำหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินโดยระบุให้เช็คดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์ที่ประกันในการออกตั๋วสัญญาใช้เงินมีข้อตกลงในการชำระเงินว่า เมื่อถึงกำหนดชำระเงินให้โจทก์นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคาร ถ้าโจทก์ได้รับเงินตามเช็คก็ให้ถือว่าตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยเป็นผู้ออกนั้นได้ใช้เงินแล้วหนี้ที่ซื้อขายลดเช็คเป็นอันระงับไป หากเช็คเบิกเงินไม่ได้ จำเลยจะต้องรับผิดใช้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ดังนี้ การออกตั๋วสัญญาใช้เงินและหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวเป็นความสมัครใจของโจทก์และจำเลย เกิดเป็นสัญญามีผลผูกพันบังคับกันได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คดังกล่าวสูญหายไปจำเลยต้องชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยจะอ้างว่าโจทก์มิได้นำเช็คไปเบิกจากธนาคารก่อนหรือการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพื่อปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ และเรื่องนี้มิใช่เรื่องสัญญาค้ำประกัน จำเลยจะยกเหตุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 697 มาปัดความรับผิดก็ไม่ได้เช่นกัน หนี้ที่จำเลยนำมาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์เป็นหนี้ที่เกิดจากความเสียหายอันเนื่องจากการที่โจทก์ทำเช็คสูญหายไปมิใช่เป็นหนี้ที่โจทก์จะต้องชำระหนี้ตามเช็คให้จำเลยโจทก์มิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คจึงไม่มีหนี้อะไรตามเช็คที่จำเลยจะนำมาหักกลบลบหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นได้ จำเลยได้รับความเสียหายอย่างไรชอบที่จะไปว่ากล่าวเอาแก่โจทก์ต่างหาก โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินโดยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินและนำมาขายให้แก่โจทก์ ครั้นถึงกำหนดจำเลยไม่ยอมชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยนำเช็คมาขายลดให้โจทก์แล้วออกตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมกับทำหนังสือรับรองการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินโดยระบุเช็คนั้นเป็นประกันการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยมีข้อตกลงว่า หากโจทก์นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารไม่ได้ จำเลยจะต้องรับผิดตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้องโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3424/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ต้องทำได้เมื่อถึงกำหนดชำระ การอ้างหักกลบลบหนี้ก่อนกำหนดจึงไม่สมบูรณ์
เช็คพิพาทซึ่งห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการลงลายมือชื่อสั่งจ่ายจำนวนเงิน 100,000บาท โดยจำเลยที่ 3 ลงลายมือชื่อสลักหลังมาขายลดให้โจทก์ถึงกำหนดชำระเงินในวันที่ 26 กรกฎาคม 2522 ส่วนโจทก์ได้ออกตั๋วแลกเงินให้แก่มารดาจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2 อ้างว่าเป็นผู้ทรงตั๋วแลกเงินดังกล่าวจำนวนเงิน 110,000 บาท ถึงกำหนดชำระเงินในวันที่ 15 สิงหาคม 2522 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2522 จำเลยที่ 2 ขอหักกลบลบหนี้ตามเช็คกับหนี้ตามตั๋วแลกเงิน ซึ่งหนี้ทั้งสองยังไม่ถึงกำหนดชำระกรณีจึงไม่อาจบังคับ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 ได้ จำเลยไม่อาจนำหนี้ตามตั๋วแลกเงินหักกลบลบหนี้ตามเช็คพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2786/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้ อายุความสะดุดหยุด และการหักหนี้ระหว่างโจทก์จำเลย
จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์และค้างชำระราคาอยู่ ต่อมาจำเลยมีหนังสือไปถึงโจทก์มีข้อความว่า "การเก็บบัญชีที่ค้างนั้นมีปัญหาเรื่องการติดตั้งเครื่องปรับอากาศล่าช้ามากทำให้ทางห้างฯ ต้องถูกปรับและเสียหาย กรรมการของห้างฯ ได้ส่งเรื่องให้ที่ปรึกษากำลังพิจารณาอยู่ ได้ผลประการใดจะเรียนให้ทราบต่อไป" หนังสือฉบับนี้เป็นการยอมรับว่าเป็นหนี้อยู่จริง มีข้อโต้เถียงเฉพาะการติดตั้งล่าช้าเท่านั้นไม่มีข้อโต้แย้งว่าไม่เป็นหนี้ หรือมีสิทธิไม่ต้องชำระหนี้ หนังสือนี้จึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 293-294/2511)
โจทก์ติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้จำเลยล่าช้าอันเป็นการผิดสัญญาจำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ 5 รายการเป็นเงิน 91,310 บาทเฉพาะรายการที่ถูกปรับ 28,000 บาท การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย เฉพาะที่จำเลยถูกปรับเพียงรายการเดียวเป็นเงิน 51,903 บาท โดยนำคำขอในส่วนอื่น ๆ ที่ศาลได้พิพากษายกฟ้องมาให้แทนในส่วนนี้ ย่อมเป็นการเกินคำขอของจำเลย
เมื่อจำเลยต้องชำระราคาเครื่องปรับอากาศพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ส่วนโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่จำเลย เพื่อความสะดวกในการบังคับตามคำพิพากษา ศาลฎีกาจึงให้หักหนี้กันเสียโดยให้มีผลนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2786/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้ขาดอายุความ และศาลหักหนี้ระหว่างโจทก์-จำเลยตามสัญญา
จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์และค้างชำระราคาอยู่ ต่อมาจำเลยมีหนังสือไปถึงโจทก์มีข้อความว่า "การเก็บบัญชีที่ค้างนั้นมีปัญหาเรื่องการติดตั้งเครื่องปรับอากาศล่าช้ามาก ทำให้ทางห้างฯ ต้องถูกปรับและเสียหาย กรรมการของห้างฯ ได้ส่งเรื่องให้ที่ปรึกษากำลังพิจารณาอยู่ ได้ผลประการใดจะเรียนให้ทราบต่อไป" หนังสือฉบับนี้เป็นการยอมรับว่าเป็นหนี้อยู่จริง มีข้อโต้เถียงเฉพาะการติดตั้งล่าช้าเท่านั้น ไม่มีข้อโต้แย้งว่าไม่เป็นหนี้ หรือมีสิทธิไม่ต้องชำระหนี้หนังสือนี้จึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 293-294/2511)
โจทก์ติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้จำเลยล่าช้าอันเป็นการผิดสัญญา จำเลยจึงฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ 5รายการเป็นเงิน 91,310 บาท เฉพาะรายการที่ถูกปรับ 28,000 บาท การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย เฉพาะที่จำเลยถูกปรับเพียงรายการเดียวเป็นเงิน 51,903บาท โดยนำคำขอในส่วนอื่นๆที่ศาลได้พิพากษายกฟ้องมาให้แทนในส่วนนี้ ย่อมเป็นการเกินคำขอของจำเลย
เมื่อจำเลยต้องชำระราคาเครื่องปรับอากาศพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ส่วนโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยแก่จำเลย เพื่อความสะดวกในการบังคับตามคำพิพากษา ศาลฎีกาจึงให้หักหนี้กันเสียโดยให้มีผลนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หักกลบลบหนี้: กรณีหนี้มูลเดียวกันถึงกำหนดชำระแล้ว ศาลอนุญาตให้หักกลบลบได้
จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อลูกไก่และค่าอาหารไก่จากโจทก์ และโจทก์เป็นหนี้จำเลยค่าซื้อไก่ใหญ่ โจทก์จำเลยต่างมีความผูกพันซึ่งกันและกันโดยมูลหนี้อันมีวัตถุเป็นอย่างเดียวกันและหนี้ระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวถึงกำหนดชำระแล้ว จำเลยจึงชอบที่จะขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ระหว่างโจทก์จำเลยที่มีหนี้สินซึ่งกันและกัน
จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อลูกไก่และค่าอาหารไก่จากโจทก์ และโจทก์เป็นหนี้จำเลยค่าซื้อไก่ใหญ่ โจทก์จำเลยต่างมีความผูกพันซึ่งกันและกันโดยมูลหนี้อันมีวัตถุเป็นอย่างเดียวกันและหนี้ระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าวถึงกำหนดชำระแล้วจำเลยจึงชอบที่จะขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ระหว่างโจทก์และจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 แม้ไม่มีการมอบตั๋วสัญญาใช้เงิน
โจทก์และจำเลยต่างมีความผูกพันในอันที่จะต้องชำระหนี้ให้แก่กันและกัน เมื่อหนี้ของทั้งสองฝ่ายต่างถึงกำหนดแล้ว ย่อมจะหักกลบลบกันได้ โดยจำเลยไม่ต้องฟ้องโจทก์เป็นคดีใหม่หรือฟ้องแย้ง เพราะโจทก์มีความผูกพันจะต้องชำระหนี้ให้แก่จำเลยตามสัญญาค้ำประกันส่วนจำเลยก็มีความผูกพันจะต้องชำระเงินให้แก่โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงินทั้งการที่มิได้มีการมอบตั๋วสัญญาใช้เงินตามสัญญาค้ำประกัน ก็มิใช่เป็นเครื่องแสดงเจตนาของคู่กรณีว่า จะมิให้นำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 มาใช้บังคับจำเลยจึงมีสิทธิที่จะหักกลบลบกันได้ตามจำนวนที่ตรงกันในมูลหนี้ ตั้งแต่เวลาที่หนี้ทั้งสองฝ่ายอาจหักกลบลบกันได้เป็นครั้งแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3566/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนชำระเบี้ยประกันภัยแทนตัวการ: สิทธิเรียกคืนเงินทดรอง & หักกลบลบหนี้
จำเลยมอบให้โจทก์เป็นผู้หาบริษัทประกันภัยเข้าทำสัญญาประกันภัยกับจำเลย เมื่อสิ้นสุดอายุสัญญาแล้วจำเลยขอให้โจทก์จัดการต่ออายุกรมธรรม์ไปอีก 1 ปี โจทก์ได้จัดการให้และได้ชำระเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทผู้รับประกันภัยแทนจำเลยไปแล้ว โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินจำนวนนี้จากจำเลย ดังนี้จำเลยจะยกข้อตกลงในสัญญาประกันภัยที่ว่าเมื่อจำเลยไม่ส่งเบี้ยประกันภัยในงวดต่อไป ถือว่าสัญญาประกันภัยเป็นอันสิ้นสุดลงนั้น มาต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยแทนจำเลยไม่ได้ เพราะข้อตกลงดังกล่าวจำเลยจะยกเป็นข้อต่อสู้ได้เฉพาะกับบริษัทผู้รับประกันภัยซึ่งเป็นคู่สัญญาเท่านั้น
การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยกรณีนี้ เป็นเรื่องตัวแทนเรียกเงินทดรองที่จ่ายไปคืนจากตัวการ มิใช่กรณีที่โจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่น หรือรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นรวมทั้งค่าที่ได้ออกเงินทดรองไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) กรณีเป็นเรื่องไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น ต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
บริษัทผู้รับประกันภัยได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เรือของจำเลยซึ่งเอาประกันภัยไว้ถูกปล้น โดยจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ไว้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยยังมิได้ชำระเงินเบี้ยประกันภัยที่โจทก์จ่ายทดรองไปก่อนคืนให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิยึดหน่วงเงินจำนวนดังกล่าวไว้และมีสิทธินำมาหักกลบลบหนี้กับจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341
of 28