คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เทพฤทธิ์ ศิลปานนท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 564 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5795/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงเพื่อฆ่าหรือไม่? คดีพกพาอาวุธยิงขู่เข็ญ ผู้เสียหายไม่ได้รับบาดเจ็บ ศาลพิจารณาพฤติการณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพกพาอาวุธปืนเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 8 ทวิ,72 ทวิ แต่ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกคนละ 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษปรับคนละ 100 บาทดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จำเลยกับพวกถืออาวุธปืนไปขู่เข็ญผู้เสียหายมิให้รื้อบ้านแล้วใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงไปยังบันไดซีเมนต์ที่ผู้เสียหายหลบอยู่นับสิบนัด แต่เมื่อผู้เสียหายวิ่งไปหลบอยู่ใต้ถุนบ้านของ ม.ซึ่งเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งใต้ถุนสูง จำเลยกับพวกจะยิงผู้เสียหายอีกก็ได้แต่ไม่ยิง กลับถืออาวุธปืนเฝ้าผู้เสียหายมิให้รื้อบ้านอยู่ครึ่งชั่วโมงแล้วจากไป ดังนี้ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวกแสดงว่ามิได้มีเจตนายิงผู้เสียหาย แต่เป็นการยิงเพื่อขู่ขวัญและแสดงอิทธิพลให้ผู้เสียหายและชาวบ้านเห็นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5795/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงเพื่อข่มขู่ ไม่ใช่ประสงค์ชีวิต โทษฐานพกพาอาวุธปืนและข่มขู่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพกพาอาวุธปืนเป็นความผิดตามป.อ. มาตรา 371 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ แต่ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกคนละ 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตาม ป.อ.มาตรา 371 ลงโทษปรับคนละ 100 บาท ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก
จำเลยกับพวกถืออาวุธปืนไปขู่เข็ญผู้เสียหายมิให้รื้อบ้าน แล้วใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงไปยังบันไดซีเมนต์ที่ผู้เสียหายหลบอยู่นับสิบนัด แต่เมื่อผู้เสียหายวิ่งไปหลบอยู่ใต้ถุนบ้านของ ม.ซึ่งเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งใต้ถุนสูง จำเลยกับพวกจะยิงผู้เสียหายอีกก็ได้แต่ไม่ยิง กลับถืออาวุธปืนเฝ้าผู้เสียหายมิให้รื้อบ้านอยู่ครึ่งชั่วโมงแล้วจากไป ดังนี้ พฤติการณ์ของจำเลยกับพวกแสดงว่ามิได้มีเจตนายิงผู้เสียหาย แต่เป็นการยิงเพื่อขู่ขวัญและแสดงอิทธิพลให้ผู้เสียหายและชาวบ้านเห็นเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5795/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าและการแก้ไขโทษฐานมีอาวุธปืน ศาลฎีกาไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริงและแก้โทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 371และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ,72 ทวิ แต่ให้ลงโทษตามพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นบทหนักให้จำคุกคนละ 1 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตาม ป.อ. มาตรา 371 ให้ปรับจำเลยทั้งสองคนละ 100 บาท ซึ่งเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5428/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยประมาทเลินเล่อ ไม่ป้องกันไฟป่า ทำให้ไม้โจทก์เสียหาย ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยรับจ้างลากขนไม้เพื่อไปส่งมอบให้แก่โจทก์ แล้วไฟป่าไหม้ไม้โจทก์เสียหาย ปรากฏว่าเหตุไฟไหม้เกิดเดือนมกราคม 2525 เป็นช่วงที่อากาศแห้ง บริเวณที่รวมหมอนไม้มีไฟป่าเกิดขึ้นบ่อย จำเลยสามารถป้องกันได้โดยถาง ต้นหญ้าที่ขึ้นปกคลุมกองไม้ออกเสีย และจัดหาเครื่องมือดับเพลิงเตรียมไว้ แต่จำเลยหาปฏิบัติเช่นนั้นไม่ เป็นเหตุให้ไฟไหม้แล้วลามไปไหม้ไม้โจทก์ จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยหาใช่เป็นเหตุสุดวิสัยไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5255/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อบังคับชำระหนี้ ไม่เป็นความผิดฐานกรรโชก
จำเลยจับโจทก์ร่วมไปหน่วงเหนี่ยวกักขังแล้วบังคับให้เขียนจดหมายถึง พ.มารดาของโจทก์ร่วมให้โอนที่ดินที่จำนองเพื่อชำระหนี้แก่ ข. แม่ยายของจำเลยหรือจำเลยนั้นจำเลยมีเจตนาเพียงเพื่อบังคับให้มารดาโจทก์ร่วมชำระหนี้แก่แม่ยายจำเลยหรือจำเลย โดยจำเลยซึ่งเป็นบุตรเขยเชื่อว่ากระทำได้ ดังนั้น ประโยชน์ที่จำเลยเรียกร้องจึงไม่ใช่ค่าไถ่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (13) การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามมาตรา 313

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5255/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อบังคับให้โอนทรัพย์สิน ไม่ถือเป็นความผิดฐานกรรโชกทรัพย์
จำเลยจับโจทก์ร่วมไปหน่วงเหนี่ยวกักขังแล้วบังคับให้เขียนจดหมายถึง พ. มารดาของโจทก์ร่วมให้โอนที่ดินที่จำนองเพื่อชำระหนี้แก่ ข. แม่ยายของจำเลยหรือจำเลยนั้น จำเลยมีเจตนาเพียงเพื่อบังคับให้มารดาโจทก์ร่วมชำระหนี้แก่แม่ยายจำเลยหรือจำเลยโดยจำเลยซึ่งเป็นบุตรเขยเชื่อว่ากระทำได้ ดังนั้น ประโยชน์ที่จำเลยเรียกร้องจึงไม่ใช่ค่าไถ่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(13)การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามมาตรา 313

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5255/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อบังคับชำระหนี้ ไม่ถือเป็นค่าไถ่ตาม ป.อ.มาตรา 313
การที่จำเลยจับโจทก์ร่วมไปหน่วงเหนี่ยวกักขังแล้วบังคับให้เขียนจดหมายถึงมารดาโจทก์ร่วม ให้โอนที่ดินจำนองเพื่อชำระหนี้แก่แม่ยายจำเลยหรือจำเลยนั้น จำเลยมีเจตนาเพียงเพื่อจะบังคับให้มารดาโจทก์ร่วมชำระหนี้ โดยจำเลยเชื่อว่ากระทำได้ ดังนั้น ประโยชน์ที่จำเลยเรียกร้องเอาจึงไม่ใช่ค่าไถ่ ตาม ป.อ.มาตรา 1(13).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5229/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดก กรณีไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกตามกฎหมาย และมีพฤติการณ์แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
ป.พ.พ. มาตรา 1728 และ 1729 กำหนดหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้งว่าต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในสิบห้าวันและให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ฟังคำสั่งศาลแล้ว ถ้า ผู้จัดการมรดกมิได้จัดทำบัญชีภายในเวลาและตามแบบที่กำหนด ศาลมีอำนาจถอนผู้จัดการมรดกได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1731แสดงว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายมีอะไรบ้างเป็นเรื่องที่สำคัญต้องให้ทายาทรับรู้เมื่อผู้ร้องมิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในกำหนดเวลาดังกล่าว และพฤติการณ์ปรากฏว่าการจัดการมรดกของผู้ร้องส่อแสดงไปในทางไม่สุจริต เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว หากจะให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกต่อไปย่อมจะล่าช้าก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาท กรณีมีเหตุสมควรที่จะถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องฎีกาว่า การตั้งผู้จัดการมรดกได้ผ่านพ้นมากกว่า 10 ปีจึงขาดอายุความที่จะมาร้องคัดค้าน แต่ปัญหาดังกล่าวมิได้เป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ทั้งมิได้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4725/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งงดสืบพยาน, การบอกล้างโมฆียะกรรม, และอายุความฟ้องขับไล่จากข้อฉ้อฉล
การที่ศาลจะสั่งงดสืบพยานของคู่ความเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ ดุลพินิจแต่ละคดีเป็นเรื่อง ๆ ไป เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ในสำนวนจากคำฟ้องและคำให้การพอวินิจฉัยได้แล้ว แม้จะสืบพยานต่อไปก็ไม่ทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป ศาลจึงมีอำนาจที่จะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียได้ การบอกล้างโมฆียะกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา140 ย่อมทำได้ด้วยแสดงเจตนาต่อคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง แต่จำเลยไม่ได้เรียก ก.เข้ามาเป็นจำเลยร่วม หากนิติกรรมการขายฝากระหว่างจำเลยกับ ก.จะเป็นโมฆียะกรรม คำให้การของจำเลยก็ไม่มีผลเป็นการบอกล้างนิติกรรมการขายฝากระหว่างจำเลยกับ ก. อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 240 เป็นกรณีฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลตามมาตรา 237 แต่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท มิได้ฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล จะนำมาตรา 240 มาปรับแก่คดีหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4655/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ดิน: ต้องฟ้องพิพาทกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่ฟ้องเจ้าพนักงาน
แม้ฟ้องโจทก์อ้างว่า คำสั่งของจำเลยในฐานะเจ้าพนักงานที่ดินที่ให้ออกโฉนดที่ดินพิพาท เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายและความเป็นจริง เพราะที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์เหตุผลเพียงเท่าที่อ้างจะถือว่าจำเลยกระทำการไปโดยไม่ชอบด้วยเหตุผลและไม่สุจริตหาได้ไม่ ทั้งมิได้บรรยายว่าจำเลยรับฟังข้อเท็จจริงหรือใช้ดุลพินิจโดยไม่มีพยานหลักฐานหรือเหตุผลสนับสนุนเพียงพอหรือโดยไม่สุจริต โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนคำสั่งของจำเลย ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 60 ที่ระบุให้ฝ่ายที่ไม่พอใจคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ดินไปดำเนินการฟ้องต่อศาลภายในกำหนด 60 วันนับแต่วันทราบคำสั่ง หมายถึงให้คู่กรณีฟ้องเพื่อขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาเกี่ยวด้วยเรื่องกรรมสิทธิ์ว่าผู้ใดมีสิทธิดีกว่ากัน โดยเจ้าพนักงานที่ดินจะรอเรื่องการออกโฉนดไว้ก่อน.
of 57