คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 185

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 98 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 393/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: จำเลยมีสิทธิพิสูจน์การครอบครองที่ดินต่อเนื่องจากบิดามารดา แม้จะอยู่ในเขตโฉนดโจทก์
โจทก์ฟ้องว่าที่วิวาทอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ จำเลยให้การว่าไม่รับรองว่าที่วิวาทอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์หากว่าอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์จำเลยก็ครอบครองเป็นปรปักษ์มาเกิน 10 ปีแล้วดังนี้จำเลยย่อมนำสืบว่าที่วิวาทอยู่ในเขตโฉนดของบิดามารดาซึ่งตกทอดมาเป็นของจำเลยได้เพราะเกี่ยวกับประเด็นที่จำเลยต่อสู้เพื่อให้เห็นว่าจำเลยครอบครองที่วิวาทมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์มรดกและการสืบพยานนอกประเด็น การปิดบังเอาเปรียบในเชิงคดี
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าเป็นของจำเลยแต่ลงชื่อผู้ตายไว้ในฐานะนิติกรรมอำพรางและปรากฏตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำให้การว่าจำเลยออกเงินซื้อ ในชั้นนำสืบจำเลยสืบว่าที่ทำเช่นนี้เพื่อปกปิดสามี ดังนี้ไม่เป็นการสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นนั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้ง ๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้ว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์มรดก และการสืบพยานที่ขัดแย้งต่อการให้การเดิม
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าเป็นของจำเลยแต่ลงชื่อผู้ตายไว้ในฐานะนิติกรรมอำพรางและปรากฏตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำให้การว่าจำเลยออกเงินซื้อในชั้นนำสืบจำเลยสืบว่าที่ทำเช่นนี้เพื่อปกปิดสามีดังนี้ไม่เป็นการสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นว่านั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้งๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้วว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัยต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย การโอนสมยอมทำให้ขาดอำนาจฟ้อง
สิทธิอาศัยเป็นทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าไม่จดทะเบียนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ย่อมไม่บริบูรณ์
โจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยว่ามีสิทธิอาศัยตลอดชีวิตตามสัญญาที่ทำไว้กับเจ้าของเดิมและสู้ว่าโจทก์ได้รับโอนมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้แม้จะปรากฏว่าสิทธิอาศัยที่จำเลยอ้างนั้นไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งเจ้าของเดิมมีสิทธิบอกเลิกการให้อาศัยได้ก็ตาม ก็ยังมีประเด็นที่จะวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ได้รับโอนมาชอบด้วยกฎหมายแล้วหรือยังหากจำเลยสืบสมก็เท่ากับว่าโจทก์ยังไม่ใช่เจ้าของซึ่งไม่มีอำนาจฟ้องยังไม่ควรสั่งงดสืบพยานควรจะได้ฟังพยานในประเด็นข้อนี้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัยต้องจดทะเบียนเพื่อความสมบูรณ์ หากโอนทรัพย์สินโดยสมยอม ผู้โอนไม่มีอำนาจฟ้อง
สิทธิอาศัยเป็นทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าไม่จดทะเบียนตาม ป.พ.พ.ม. 1299 ย่อมไม่บริบูรณ์
โจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยว่ามีสิทธิอาศัยตลอดชีวิตตามสัญญาที่ทำไว้กับเจ้าของเดิมและสู้ว่าโจทก์ได้รับโอนมาไม่ชอบด้วย ก.ม. ดังนี้แม้จะปรากฎว่าสิทธิอาศัยที่จำเลยอ้างนั้นไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งเจ้าของเดิมมีสิทธิบอกเลิกการให้อาศัยได้ก็ตาม ก็ยังมีประเด็นที่จะวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ได้รับโอนมาชอบด้วย ก.ม.แล้วหรือยัง หากจำเลยสืบสมก็เท่ากับว่าโจทก์ยังไม่ใช่เจ้าของซึ่งไม่มีอำนาจฟ้อง ยังไม่ควรสั่งงดสืบพยานควรจะได้ฟังพยานในประเด็นข้อนี้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัยที่ไม่จดทะเบียน & การโอนสมยอม: อำนาจฟ้องขับไล่
สิทธิอาศัยเป็นทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าไม่จดทะเบียนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ย่อมไม่บริบูรณ์
โจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยว่ามีสิทธิอาศัยตลอดชีวิตตามสัญญาที่ทำไว้กับเจ้าของเดิมและสู้ว่าโจทก์ได้รับโอนมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้แม้จะปรากฏว่าสิทธิอาศัยที่จำเลยอ้างนั้นไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งเจ้าของเดิมมีสิทธิบอกเลิกการให้อาศัยได้ก็ตาม ก็ยังมีประเด็นที่จะวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์ได้รับโอนมาชอบด้วยกฎหมายแล้วหรือยังหากจำเลยสืบสมก็เท่ากับว่าโจทก์ยังไม่ใช่เจ้าของซึ่งไม่มีอำนาจฟ้องยังไม่ควรสั่งงดสืบพยานควรจะได้ฟังพยานในประเด็นข้อนี้ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับเขตพิพาทจากการทำแผนที่กลาง: การสืบพยานนอกประเด็นหรือไม่
ฟ้องว่าจำเลยรุกที่หมาย 1,2 จำเลยสู้ว่าที่หมาย 1 เป็นของจำเลยหาได้โต้แย้งถึงที่หมาย 2 ด้วยไม่เมื่อทำแผนที่แล้วปรากฏว่าภายในเส้นสีแดงเป็นที่พิพาท (ซึ่งมีเขตพิพาทล้ำเข้ามาในที่หมาย 2) ซึ่งคู่ความก็รับว่าถูกต้องดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าคู่ความยอมรับกันว่าเขตที่พิพาทคือภายในเส้นสีแดงนั่นเองจำเลยนำสืบได้หาใช่เป็นการสืบนอกประเด็นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแถมบัตรสลากล๊อตเตอรี่กับการประกอบกิจการค้าเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.การพนัน
เมื่อในรายงาน+ปรากฎว่าจำเลยแถลงถึงการกระทำของจำเลย ตามที่โจทก์ฟ้อง (ซึ่งในฟ้องก็กล่าวถึงวันที่หาว่ากระทำผิด) และว่าในวันเกิดเหตุจำเลยได้นำ+ ของจำเลยไปโฆษณาขายด้วย แม้จะไม่ได้กล่าวให้ชัดว่าในวันนั้นได้มีการแถมบัตรสมณาคุณในการขายยาก็ดี แต่เป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วในข้อนี้ระหว่างโจทก์จำเลยตลอดจนศาลชั้นต้นผู้พิจารณาว่าคงเหลือปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยฉะเพาะ ก.ม. ตามที่จำเลยต่อสู้เท่านั้น ดังนี้ตามคำให้การและคำแถลงของจำเลยตามรายงานดังกล่าว ย่อมหมายถึงว่าในวันโจทก์หา จำเลยได้กระทำการตามที่โจทก์ฟ้องนั่นเอง
การที่จำเลยจัดให้มีการแถมบัตรสมณาคุณแก่ผู้ที่ซื้อยาของจำเลยกล่าวคือ แจกบัตรดังกล่าวแก่ผู้ซื้อยาธาตุห้าของจำเลย 1 บัตร ต่อยาธาตุ 1 ขวด หากเลขสลากในบัตรนั้นตรงกับเลขสลากล๊อตเตอรี่ที่ออกผู้ซื้อมีสิทธิได้รับเงิน 1 ใน 20 ส่วนของรางวัลล๊อตเตอรี่นั้น ๆ ดังนี้ถือว่าเป็นการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคเพราะในบัตรมีหมายเลขสลากตรงกับเลขสลากล๊อตเตอรี่ของรัฐบาล ซึ่งอาจจะถูกรางวัลได้รับเงินตามที่ปรากฎในบัตรนั้นได้ ทำให้ผู้ซื้อยาจากจำเลยมีหวังในการเสี่ยงโชค จำเลยจะขายยานั้นโดยราคาปกติ ในท้องตลาดหรือไม่ ๆ สำคัญ ประกอบกับการกระทำของจำเลยเป็นการประกอบกิจการค้าหรืออาชีพ ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่รับรับอนุญาตก็มีความผิด ตาม พ.ร.บ.การพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแถมบัตรลอตเตอรี่พร้อมยา ถือเป็นการพนันและการเสี่ยงโชค
เมื่อในรายงานปรากฏว่าจำเลยแถลงถึงการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง (ซึ่งในฟ้องก็กล่าวถึงวันที่หาว่ากระทำผิด) และว่าในวันเกิดเหตุจำเลยได้นำยาธาตุห้าของจำเลยไปโฆษณาขายด้วยแม้จะไม่ได้กล่าวให้ชัดว่าในวันนั้นได้มีการแถมบัตรสมณาคุณในการขายยาก็ดี แต่เป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วในข้อนี้ระหว่างโจทก์จำเลยตลอดจนศาลชั้นต้นผู้พิจารณาว่าคงเหลือปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมายตามที่จำเลยต่อสู้เท่านั้น ดังนี้ตามคำให้การและคำแถลงของจำเลยตามรายงานดังกล่าว ย่อมหมายถึงว่าในวันโจทก์หาจำเลยได้กระทำการตามที่โจทก์ฟ้องนั่นเอง
การที่จำเลยจัดให้มีการแถมบัตรสมณาคุณแก่ผู้ที่ซื้อยาของจำเลยกล่าวคือแจกบัตรดังกล่าวแก่ผู้ซื้อยาธาตุห้าของจำเลย 1 บัตร ยาธาตุ 1 ขวด หากเลขสลากในบัตรนั้นตรงกับเลขสลากลอตเตอรี่ที่ออกผู้ซื้อมีสิทธิได้รับเงิน 1 ใน 20 ส่วนของรางวัลลอตเตอรี่นั้นๆ ดังนี้ถือว่าเป็นการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคเพราะในบัตรมีหมายเลขสลากตรงกับเลขสลากลอตเตอรี่ของรัฐบาล ซึ่งอาจจะถูกรางวัลได้รับเงินตามที่ปรากฏในหลังบัตรนั้นได้ ทำให้ผู้ซื้อยาจากจำเลยมีหวังในการเสี่ยงโชคจำเลยจะขายยานั้นโดยราคาปกติในท้องตลาดหรือไม่ไม่สำคัญ ประกอบกับการกระทำของจำเลยเป็นการประกอบกิจการค้าหรืออาชีพดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตก็มีความผิดตาม พระราชบัญญัติการพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องร้องซื้อขายที่ดิน: โจทก์ต้องยึดตามฟ้องเดิม ไม่สามารถขยายข้ออ้างเพิ่มเติมได้
โจทก์ฟ้องว่าซื้อที่จากจำเลย 7 ไร่เศษ (ในหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน 7 ไร่ 3 งาน 25 วา ) จำเลยฉ้อโกงเอาที่ของโจทก์ 3 ไร่เศษไปขายผู้อื่น ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ เมื่อทำแผนที่วิวาทโจทก์นำชี้รวมเนื้อที่ 11 ไร่เศษ จำเลยนำชี้ว่าขายโจทก์ 5 ไร่เศษ ตรงตามรูปแผนที่หลังหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งไม่คลุมถึงที่รายพิพาท ดังนี้เมื่อโจทก์จะขอสืบต่อไปถึงเรื่องครอบครองที่รายพิพาทซึ่งมิได้กล่าวอ้างไว้ในฟ้อง จึงเป็นเรื่องนอกฟ้อง นอกประเด็นสืบไม่ได้
of 10