พบผลลัพธ์ทั้งหมด 212 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสอบสวนทหารต้องมีฝ่ายทหารร่วมด้วย หากแก้ไขการสอบสวนให้ถูกต้องแล้ว ถือว่าการสอบสวนชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นทหารประจำการที่ร่วมกระทำผิดกับพลเรือน จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ หลังจากวันนั้นพันโทส.นายทหารพระธรรมนูญ ได้เข้าฟังการสอบสวนพนักงานสอบสวนจึงได้สอบสวนจำเลยที่ 1 เพิ่มเติมต่อหน้าพันโทส.จำเลยที่ 1 ได้ให้การปฏิเสธ ส่วนการสอบสวนพยานอื่นพันโทส.ได้เข้าฟังการสอบสวนพยาน โดยพนักงานสอบสวนได้สอบสวนพยานและได้อ่านสำนวนการสอบสวนทั้งหมดให้พันโทส.ฟังแล้วพันโทส.คงติดใจประเด็นการสอบสวนบางประเด็นจะได้ทำบันทึกให้พนักงานสอบสวนในภายหลัง ส่วนการสอบสวนพยานเพิ่มเติมต่อไปนั้นพันโทส.ไม่ติดใจฟังการสอบสวน จึงฟังได้ว่าการที่พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยที่ 1 โดยไม่มีฝ่ายทหารเข้าร่วมในการสอบสวนนั้น ได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว การสอบสวนจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการปลอมเอกสาร: พยานหลักฐานต้องชัดเจนถึงเจตนาและบทบาทของผู้สนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมานำสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ โดยการขูดลบหมายเลขทะเบียนที่พานท้ายอาวุธปืนของกลาง ซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นในหน้าที่ อันเป็นเอกสารราชการอันเดิมแล้วแก้ไขตอกหมายเลขใหม่แทน โจทก์คงมีแต่คำรับของจำเลยในชั้นสอบสวนว่า จำเลยได้ลบหมายเลขทะเบียนเดิมของอาวุธปืนของกลาง แล้วทำหมายเลขทะเบียนขึ้นใหม่ อันเป็นพยานบอกเล่าเท่านั้น ทั้งยังปรากฏจากคำเบิกความของ ส. พนักงานสอบสวนผู้ทำบันทึกคำให้การดังกล่าวว่าเกี่ยวกับความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมนั้น จำเลยให้การรับแต่เพียงว่าหมายเลขทะเบียนที่พานท้ายปืนไม่ตรงกับหมายเลขประจำปืน มิได้รับสารภาพว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสาร พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่เพียงพอที่จะฟังเอาผิดแก่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2072/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีวิ่งราวทรัพย์โดยอาศัยพยานหลักฐานจากผู้เสียหายที่จำได้ลักษณะคนร้าย
ผู้เสียหายมีโอกาสเห็นคนร้ายที่ผู้เสียหายอ้างว่าคือจำเลยในระยะใกล้ถึงสองครั้ง ประกอบทั้งคนร้ายที่ผู้เสียหายอ้างว่าคือจำเลยนี้มีหน้าตาคล้าย พ. ซึ่งเป็นคนที่ผู้เสียหายรู้จักเช่นนี้จึงมีเหตุที่ผู้เสียหายจะจดจำคนร้ายคนนี้ได้เป็นพิเศษที่ผู้เสียหายอ้างว่าจำคนร้ายได้ในขณะที่เห็นทั้งสองครั้งจึงสมเหตุสมผล และหากผู้เสียหายจำไม่ได้แน่ชัดว่าจำเลยเป็นคนร้ายแล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้เสียหายจะชี้บอกสามีผู้เสียหายว่าจำเลยเป็นคนร้าย และต่อมาได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยแล้วหลังจากนั้นผู้เสียหายก็ยังชี้ตัวจำเลยยืนยันว่าเป็นคนร้าย ซึ่งเป็นข้อสนับสนุนให้เห็นว่าผู้เสียหายจำได้โดยแน่ชัดว่าจำเลยเป็นคนร้าย ดังนี้ พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้โดยแจ้งชัดปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่วิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายด้วยคนหนึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1940/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อากรแสตมป์ไม่จำเป็นต้องปิดในขณะทำสัญญา เพียงแต่ต้องปิดและขีดฆ่าก่อนนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดี
ประมวลรัษฎากร มาตรา 118 ไม่ได้บังคับให้ปิดและขีดฆ่าอากรแสตมป์ในตราสารในขณะทำสัญญา แม้มิได้ปิดและขีดฆ่าอากรแสตมป์แต่แรกในขณะทำสัญญา แต่เมื่อได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนและขีดฆ่าแล้วในขณะฟ้องจะโดยผู้อ้างเป็นผู้กระทำเองหรือผู้อ้างขอให้ศาลสั่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจัดการให้ก็มีผลเช่นเดียวกัน ศาลจึงรับฟังสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาค้ำประกันเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1940/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สัญญากู้ยืมเงินและค้ำประกันเป็นหลักฐานในคดีแพ่ง แม้จะติดอากรแสตมป์หลังทำสัญญา
ป.รัษฎากร มาตรา 118 หาได้บังคับให้ปิดและขีดฆ่าอากรแสตมป์ในขณะทำสัญญาไม่ เมื่อสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาค้ำประกันได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว ในขณะฟ้องคดีจะโดยผู้อ้างเป็นผู้กระทำเองหรือผู้อ้างขอให้ศาลสั่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจัดการให้ก็มีผลเช่นเดียวกัน ศาลจึงรับฟังสัญญาดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในคดีได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1939/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทายาทรับผิดชอบหนี้สินของผู้ตาย: สิทธิเจ้าหนี้ฟ้องทายาท แม้ยังมิได้มีการแบ่งมรดก
ป. กู้เงินไปจากโจทก์ เมื่อ ป. ตาย โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยในฐานะทายาทของ ป. ให้ชำระหนี้เงินกู้ได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1737 โดยไม่จำต้องพิจารณาว่าจำเลยได้รับมรดกของ ป. หรือไม่เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดีตาม มาตรา1601,1738 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1939/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าหนี้ในการฟ้องทายาทของผู้กู้เพื่อชำระหนี้
ป. กู้เงินไปจากโจทก์ เมื่อ ป. ตายโจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยในฐานะทายาทของ ป. ให้ชำระหนี้เงินกู้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1737 โดยชั้นนี้ไม่จำต้องพิจารณาว่า จำเลยได้รับมรดกของ ป. หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดีตามมาตรา 1601,1738 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของที่ดินฟ้องเปิดทางจำเป็น แม้ไม่ครอบครอง และฟ้องซ้ำที่ไม่เป็นเหตุต้องห้าม
โจทก์ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีอำนาจฟ้องให้จำเลยเปิดทางพิพาทที่โจทก์อ้างว่าตกเป็นทางจำเป็นได้โดยโจทก์ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ครอบครองทางพิพาทและการที่โจทก์ยื่นฟ้องแล้วขอถอนฟ้องและนำมูลคดีนั้นมาฟ้องเป็นคดีนี้ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ใช้สิทธิที่มีอยู่ตามกฎหมาย มิใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต โจทก์ถอนฟ้องคดีก่อน ศาลชั้นต้นจึงยังมิได้มีคำพิพากษาวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี การที่โจทก์นำมูลคดีเดียวกันมาฟ้องเป็นคดีนี้ จึงมิใช่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีก ในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ดังนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำอันต้องห้ามตามป.วิ.พ. มาตรา 148 ที่ดินของโจทก์ถูกที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่โดยรอบ โจทก์ใช้ทางพิพาทเป็นทางออกสู่ทางสาธารณะมา 40 กว่าปี โดยไม่ได้ใช้ทางอื่น ทางพิพาทอยู่ริม สุดของเขตที่ดินของจำเลยทำให้ที่ดินของจำเลยที่ 2 เสียหายน้อยที่สุดและเป็นทางจำเป็นซึ่งพอควรแก่ความจำเป็นของโจทก์ ดังนี้จำเลยไม่มีสิทธิก่อกำแพงปิดกั้นทางพิพาท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของกรรมสิทธิ์มีอำนาจฟ้องเปิดทางจำเป็น แม้ไม่ครอบครอง และฟ้องซ้ำไม่สำเร็จหากยังไม่มีคำพิพากษา
โจทก์ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีอำนาจฟ้องให้จำเลยเปิดทางจำเป็นได้โดยโจทก์ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ครอบครองทางพิพาท โจทก์ถอนฟ้องคดีก่อน ศาลชั้นต้นจึงยังมิได้มีคำพิพากษาวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี การที่โจทก์นำมูลคดีเดียวกันมาฟ้องจำเลยคนเดียวกันอีก จึงมิใช่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะและค่าแรงงานในครอบครัวจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
การขาดแรงงานในครอบครัวเป็นการขาดไร้อุปการะอย่างหนึ่งก่อนตายผู้ตายและโจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นสามีประกอบกิจการร้านอาหารร่วมกับ ป. โดยผู้ตายทำหน้าที่ดูแลร้านอาหาร ถือได้ว่าผู้ตายเป็นผู้ทำการงานในครัวเรือนให้แก่โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 จึงมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนการขาดแรงงานในครอบครัวได้ด้วย ค่าอาหารเลี้ยงดูแขกที่มาร่วมงานศพกับค่าของและเงินถวายพระเป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นในการจัดการศพ ค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะและค่าสินไหมทดแทนการขาดแรงงานเป็นหนี้เงินที่จะต้องชำระทันที จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันกระทำละเมิดซึ่งเป็นวันผิดนัด