คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ยงยุทธ ธารีสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 933 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้ที่ไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ไม่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แม้จำเลยจะรับรองลายมือชื่อ
จำเลยให้การปฏิเสธลายมือชื่อในสัญญากู้ว่าไม่ใช่ของจำเลยเท่ากับปฏิเสธความถูกต้องแท้จริงแห่งเอกสารและกล่าวอ้างว่าหนี้นั้นไม่สมบูรณ์ ศาลจึงจำต้องใช้สัญญากู้มาเป็นพยานหลักฐานในคดีเมื่อสัญญากู้ไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ถือว่าสัญญากู้ไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์จึงไม่อาจรับฟังสัญญากู้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 แม้จำเลยจะเบิกความรับว่าลายมือชื่อในสัญญากู้เป็นของจำเลย ก็เป็นเรื่องในชั้นพิจารณาว่าข้อเท็จจริงในประเด็นที่จำเลยต่อสู้ไว้ฟังได้เพียงใด ไม่ใช่กรณีที่ไม่ต้องใช้เอกสารสัญญากู้เป็นพยานหลักฐาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลเมื่อหุ้นส่วนตาย และการมีอำนาจร้องขอตั้งผู้ชำระบัญชี
หุ้นส่วนผู้จัดการในห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลตายหุ้นส่วนอื่นที่คงเหลืออยู่เพียงแต่ได้แสดงเจตนาจะขอซื้อหุ้นของหุ้นส่วนดังกล่าว กรณียังไม่เป็นการรับซื้อหุ้นของหุ้นส่วนที่ตาย ตามบทบัญญัติ ป.พ.พ. มาตรา1060 ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลจึงเป็นอันเลิกกันและต้องมีการชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 1069,1055(5) ผู้จัดการมรดกของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ตาย เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง มีอำนาจร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้จัดการมรดกขอตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน
ผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ ก. ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลศรีสุทธา ซึ่ง ก.เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการตาม ป.พ.พ.มาตรา 1251 วรรคสอง จึงมีอำนาจร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้จัดการมรดกในการร้องขอตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน
ผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ ก. ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลศรีสุทธา ซึ่ง ก.เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1251 วรรคสอง จึงมีอำนาจร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งคำร้องขอปล่อยทรัพย์ ทำให้ขาดสิทธิร้องเพิกถอนการขายทอดตลาด
คำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์เป็นคำฟ้องอย่างหนึ่ง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีกรณีคำร้องขอปล่อยทรัพย์ของผู้ร้องนั้น เพราะผู้ร้องไม่วางเงินค่าขึ้นศาลภายในเวลาที่ศาลกำหนดเป็นการจำหน่ายคดีเนื่องจากผู้ร้องทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ซึ่งตามมาตรา 176บัญญัติถึงผลของการทิ้งคำร้องว่าย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นคำร้องรวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่น ๆ อันมีมาต่อภายหลังยื่นคำร้องและกระทำให้คู่ความกลับคืนสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นคำร้องเลยเช่นนี้ ถือได้ว่าขณะผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดนั้น ไม่มีคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาทของผู้ร้องอยู่ในศาลแล้ว ผู้ร้องจึงไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี ในอันที่จะร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตามมาตรา 296 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินห้ามโอนกับการบังคับคดี: เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีอำนาจยึดเมื่อที่ดินอยู่ในระยะห้ามโอน
ประมวลกฎหมายที่ดิน ฯ มาตรา 31 วรรคท้าย บัญญัติว่า ภายในกำหนดเวลาห้ามโอนตามวรรคหนึ่ง ที่ดินนั้นไม่อยู่ในข่ายการบังคับคดีการที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพิพาทไว้เพื่อรอการขายทอดตลาดเมื่อกำหนดเวลาห้ามโอนสิ้นสุดลง เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดี แม้ผลการยึดทรัพย์จะมิได้ทำให้สิทธิแห่งการครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เมื่อที่ดินพิพาทไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดีแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไม่มีอำนาจยึดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดที่ดินที่มีข้อจำกัดการโอน: ที่ดินอยู่ภายใต้ข้อยกเว้นการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายที่ดิน
โจทก์ฎีกาว่า ที่ดินพิพาทมีกำหนดเงื่อนไขห้ามโอน 10 ปี การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยกเหตุดังกล่าวขึ้นมาเป็นข้อวินิจฉัยว่ามีข้อเท็จจริงที่โจทก์ต้องปฏิเสธ โจทก์เห็นว่าเมื่อการครอบครองที่ดินพิพาทยังไม่เปลี่ยนแปลงไป โจทก์จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงใดต้องปฏิเสธ ดังนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติแล้วว่า ที่ดินพิพาทมีกำหนดห้ามโอนภายใน 10 ปี ปัญหาจึงมีเพียงว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจที่จะยึดที่ดินพิพาทหรือไม่ ซึ่งโจทก์ฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไว้แล้ว ฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีที่จะต้องวินิจฉัย ที่ดินพิพาทต้องห้ามการโอนภายใน 10 ปี ซึ่งประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 31 วรรคท้าย บัญญัติว่า ภายในกำหนดเวลาห้ามโอนตามวรรคหนึ่งที่ดินนั้นไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี การยึดที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 282 แม้ผลของการยึดทรัพย์จะยังมิได้ทำให้สิทธิแห่งการครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เมื่อที่ดินพิพาทไม่ตกอยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดีแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไม่มีอำนาจที่จะยึดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ: การไม่ส่งมอบป้ายทะเบียนถือเป็นฝ่ายผิดสัญญา และผลของการเลิกสัญญาสัญญา
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ โดยได้ชำระค่าเช่าซื้องวดแรกแล้วแต่โจทก์ไม่ยอมมอบป้ายทะเบียนรถให้ ดังนี้ถือว่าป้ายทะเบียนรถเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์คันที่เช่าซื้อเมื่อโจทก์ไม่ยอมมอบป้ายทะเบียนรถให้แก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1ย่อมไม่สามารถที่จะใช้หรือรับประโยชน์จากรถยนต์คันที่เช่าซื้อได้เพราะหากจำเลยที่ 1 นำรถออกใช้ก็จะถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมโจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าเช่าซื้อในงวดที่สองจะถือว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาไม่ได้ แต่การที่โจทก์ยึดรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนไป โดยจำเลยที่ 1 มิได้โต้แย้งเป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่า โจทก์กับจำเลยที่ 1 สมัครใจเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อกันนับแต่วันที่โจทก์ยึดรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนไปโจทก์กับจำเลยที่ 1 จะเรียกค่าเสียหายอย่างใดต่อกันอีกไม่ได้เว้นแต่ค่าเสียหายที่เป็นค่าขาดประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างที่จำเลยที่ 1 ครอบครองรถยนต์คันที่เช่าซื้อไว้จนถึงวันเลิกสัญญาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกู้เงินโจทก์ร่วมโดยไม่ทำสัญญากู้ไว้ แต่โจทก์ร่วมได้ให้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้เพื่อชำระหนี้เงินกู้ เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่มิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้ เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่ไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 แม้การที่จำเลยออกเช็คพิพาทจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ก็ตาม แต่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534อันเป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังที่จำเลยออกเช็คการออกเช็คพิพาทของจำเลยไม่เป็นความผิดต่อไป จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์นั่งคร่อมรถและบิดกุญแจถือเป็นการลงมือลักทรัพย์แล้ว แม้จะยังไม่ได้เคลื่อนย้ายรถออกไป
จำเลยเพียงแต่นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ยังไม่ได้เอารถออกเป็นการลงมือลักทรัพย์แล้ว เมื่อกระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายเข้ามากอด เอาไว้ทำให้จำเลยเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปไม่ได้ เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์
of 94