พบผลลัพธ์ทั้งหมด 933 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้อง ส่งผลให้ศาลยกฟ้อง แม้จะมีการสืบพยานไปบ้างแล้ว
เมื่อตัวโจทก์ ทนายโจทก์และจำเลยทราบวันเวลานัดไต่สวนมูลฟ้อง ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นแล้ว ข้ออ้างของโจทก์ว่า ทั้งตัวโจทก์และทนายโจทก์เข้าใจว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องไปตามวันเวลาที่ทนายจำเลยแถลง ซึ่งเป็นวันหลังจากที่ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องต่อ 1 วัน แม้จะเป็นความจริง ก็เป็นความผิดของโจทก์เอง กรณียังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอ ที่จะอนุญาตให้ยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องต่อไป การที่จะพิจารณาว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไปแล้วใน การไต่สวนมูลฟ้องจะพอฟังว่าคดีมีมูลหรือไม่ต้องเป็นกรณีที่โจทก์ มาศาลตามนัดแล้ว และไม่ติดใจนำพยานเข้าไต่สวนต่อไป เมื่อโจทก์ ไม่มาศาลเสียแล้ว แม้จะมิใช่วันนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรก ศาลก็ต้อง ยกฟ้องโจทก์เสียตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยตามมาตรา 879 พ.ร.บ.แพ่งฯ ต้องตีความโดยเคร่งครัด การกระทำของบุตรไม่ถือเป็นการประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย
มาตรา 879 ของ ป.พ.พ.เป็นบทบัญญัติยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัย จึงต้องตีความโดยเคร่งครัด ตามมาตราดังกล่าวผู้รับประกันภัยจะพ้นความรับผิดเมื่อความเสียหายเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือของผู้รับประโยชน์เท่านั้น ดังนั้น เมื่อบุตรของผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ขับรถไปเกิดเหตุขึ้น วินาศภัยที่เกิดขึ้นจึงมิได้เกิดเพราะการกระทำของผู้เอาประกันภัย จำเลยผู้รับประกันภัยจึงไม่พ้นความรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย: ผู้ขับไม่ใช่ผู้เอาประกันภัย ไม่ถือเป็นความประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย
ผู้เอาประกันภัยมิได้เป็นผู้ขับรถคันเกิดเหตุที่ เอาประกันภัยไว้กับผู้รับประกันภัย แต่บุตรของผู้เอาประกันภัยเป็นผู้นำรถคันดังกล่าวไปใช้และเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเหตุได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัยจึงไม่พ้นความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลาย: เจ้าหนี้ต้องเสนอหลักฐาน, เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนแต่ไม่ผูกพัน
แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนในเรื่องหนี้สินเมื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้โดยกล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของลูกหนี้หน้าที่ในการพิสูจน์ตามข้ออ้างย่อมตกเป็นของเจ้าหนี้ที่จะต้องนำพยานหลักฐานมาให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนเพื่อแสดงถึงมูลหนี้ตามที่กล่าวอ้าง เมื่อเจ้าหนี้มิได้ส่งหลักฐานการซื้อขายที่ดินตามที่อ้างโดยแถลงอ้างพยานบุคคลเพียงผู้เดียว ดังนี้ เป็นเรื่องอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหนี้ในการเสนอพยานหลักฐานมิใช่หน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะต้องมีหมายเรียกพยานหลักฐานดังกล่าวมาด้วยตนเอง การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนในเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระ แล้วทำความเห็นเสนอศาลและศาลมีอำนาจพิจารณาสั่งตามกฎหมายต่อไป ดังนั้น แม้หนี้ที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จะเป็นหนี้ตามคำพิพากษาหรือหนี้ที่เป็นมูลให้ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ก็ไม่ผูกพันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลให้จำต้องถือตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1615/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีและการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย หนี้ขาดอายุความย่อมไม่สามารถขอรับชำระได้
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้ศาลออกคำบังคับ ถือไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเริ่มต้นบังคับคดีแล้ว เพราะหากลูกหนี้ตามคำพิพากษายอมปฏิบัติตามคำบังคับโดยครบถ้วน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ย่อมได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงโดยไม่ต้องขอให้บังคับคดีและศาลไม่ต้องออกหมายบังคับคดี เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอหมายบังคับคดีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ย่อมหมดสิทธิที่จะบังคับคดี หนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวจึงเป็นหนี้ที่จะร้องขอให้บังคับคดีไม่ได้ซึ่งต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 94(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1615/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีและผลกระทบต่อการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ขอให้ออกคำบังคับ ยังไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดี เพราะหากลูกหนี้ตามคำพิพากษายอมปฏิบัติตามคำบังคับโดยครบถ้วน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ย่อมได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงโดยไม่ต้องขอให้บังคับคดี และศาลก็ไม่ต้องออกหมายบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 275,276 ดังนั้น แม้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะได้ขอให้ศาลออกคำบังคับภายใน 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ก็ถือไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้เริ่มต้นดำเนินการบังคับคดีตามมาตรา 271 แล้ว การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีถือได้ว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้เริ่มต้นดำเนินการบังคับคดีแล้ว แต่ถ้า ได้ดำเนินการบังคับคดีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวได้กลายเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหมดสิทธิที่จะบังคับคดีเสียแล้ว เมื่อเจ้าหนี้นำมาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย หนี้ดังกล่าวย่อมอยู่ในฐานะเป็นหนี้ที่จะร้องขอให้บังคับคดีไม่ได้ จึงต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯมาตรา 94(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1595/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้มีส่วนได้เสียในมรดก - การงดสืบพยานกระทบสิทธิผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านในฐานะส่วนตัวที่เป็นภริยามิได้จดทะเบียนสมรสของผู้ตาย และในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรของผู้ตายหากกรณีฟังได้ตามคำร้องคัดค้าน ย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถือหุ้นและการชำระค่าหุ้น: สิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้นตามบัญชีรายชื่อและการสันนิษฐานตามกฎหมาย
ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ในวันประชุมตั้งบริษัทจำเลยเอกสารหมาย จ.2 ปรากฎลายมือชื่อของผู้ร้องคัดค้านทั้งสองลงชื่อจองหุ้น และค้างชำระค่าหุ้น อยู่ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปและยังมีบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันประชุมสามัญครั้งที่ 1/2525 ที่บริษัทจำเลย ส่งต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานครเอกสาร หมาย จ.9 เป็นพยานสนับสนุนอีกซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1024 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า บรรดาสมุดบัญชีเอกสารของบริษัทนั้นย่อมเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องตามข้อความที่ได้บันทึกไว้ทุกประการ ผู้ร้องคัดค้านไม่สามารถนำสืบหักล้างพยานหลักฐานดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายได้ ดังนี้ฟังได้ว่า ผู้ร้องคัดค้านทั้งสองยังคงถือหุ้นและค้างชำระค่าหุ้น และค้างชำระค่าหุ้นอยู่ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทวงหนี้ไปจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1537/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: พยานหลักฐานเพียงพอเชื่อได้ว่ามีหนี้จริง
ปี 2518 ลูกหนี้ได้เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไว้กับเจ้าหนี้ ลูกหนี้ได้ใช้เช็คเบิกเงินจากบัญชีเงินฝากและนำเงินเข้าฝากหักทอนบัญชีหลายครั้งจนถึงปี 2522ลูกหนี้จึงขาดการติดต่อกับเจ้าหนี้ ปี 2529 ลูกหนี้เป็นหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยเป็นเงิน 35,850,401.97 บาท เจ้าหนี้มีพยานบุคคลและพยานเอกสารนำสืบได้สอดคล้องต้องกันว่า ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้ส่วนการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เคยสอบสวนกรรมการของลูกหนี้ไว้โดยกรรมการของลูกหนี้ว่าลูกหนี้เป็นบริษัทในเครือของเจ้าหนี้ก็เป็นคำกล่าวอ้างลอย ๆ หรือที่ว่าลูกหนี้ไม่เคยประกอบธุรกิจใด ๆก็ปรากฏว่ากรรมการดังกล่าวไม่เคยเข้าร่วมบริหารงานของลูกหนี้กรรมการลูกหนี้บางคนก็เพิ่งเข้าเป็นกรรมการของลูกหนี้หลังจากบริษัทลูกหนี้ตั้งได้ 2-3 ปีแล้ว คำให้การของกรรมการลูกหนี้ดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักให้เชื่อว่า หนี้ระหว่างเจ้าหนี้ลูกหนี้เกิดจากการสมยอมหรือเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ดังกล่าวได้ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 130(8).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งหมายบังคับคดี ตัวแทน vs. ตัวการ การส่งหมายให้ตัวการชอบแล้ว แม้ไม่ได้แจ้งตัวแทน
การที่จำเลยที่ 1 ได้มอบอำนาจให้ ว. ไปดำเนินการควบคุมการขายทอดตลาดเข้าสู้ราคา คัดค้านราคาและอื่น ๆ จนเสร็จนั้นว. เป็นเพียงตัวแทน จำเลยที่ 1 เป็นตัวการ และยังคงมีฐานะเป็นจำเลยที่ 1 อยู่ตามเดิม จำเลยที่ 1 มิได้กลายเป็นผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีต่อไป อันศาลจะต้องส่งคำคู่ความหรือหมายนัดให้แก่ว. แต่เพียงผู้เดียวไม่ และในกรณีเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องส่งคำคู่ความหรือหมายนัดให้ทั้งสองคน คงเพียงแต่ส่งให้แก่บุคคลหนึ่งคนใดคือจำเลยที่ 1 หรือ ว. ก็ได้ เมื่อปรากฏว่าการส่งหมายต่าง ๆ ใช้วิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์มาตลอด ตั้งแต่ชั้นพิจารณาและบังคับคดี การขายทอดตลาดครั้งที่ 1ถึงครั้งที่ 3 ก็ได้แจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบโดยประกาศทางหนังสือพิมพ์จำเลยที่ 1 เองก็ไม่เคยคัดค้านว่าเป็นการส่งไม่ชอบ การส่งหมายให้จำเลยที่ 1 ครั้งที่ 4 โดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์จึงชอบแล้ว.