พบผลลัพธ์ทั้งหมด 323 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับคดีอาญาเนื่องจากจำเลยเสียชีวิตระหว่างการพิจารณา และการพิจารณาคดีเฉพาะจำเลยที่เหลือ
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จและส่งให้ศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟัง ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์และจำเลยที่ 1ฟังแล้ว และได้ส่งคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวไปยังศาลอีกแห่งหนึ่งเพื่ออ่านให้จำเลยที่ 2 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำท้องที่ศาลนั้นฟัง แต่เมื่อปรากฎว่า จำเลยที่ 2 ได้ถึงแก่ความตายก่อนวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์และจำเลยที่ 1 ฟังศาลที่จำเลยที่ 2 ถูกคุมขังอยู่ในท้องที่ได้ส่งคำพิพากษาศาลฎีกาคืนศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นส่งคำพิพากษา ศาลฎีกาและสำนวนมายังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ดังนี้ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาเดิมโดยทำเป็นคำพิพากษาใหม่ สั่งแก้ไขปรับปรุงคำพิพากษาเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาศาลฎีกาต่อจำเลยที่เสียชีวิตก่อนการอ่านคำพิพากษาและการแก้ไขคำพิพากษา
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จและส่งให้ศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟัง ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์และจำเลยที่ 1 ฟังแล้ว และได้ส่งคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวไปยังศาลอีกแห่งหนึ่งเพื่ออ่านให้จำเลยที่ 2 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำท้องที่ศาลนั้นฟัง แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้ถึงแก่ความตายก่อนวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์และจำเลยที่ 1 ฟังศาลที่จำเลยที่ 2 ถูกคุมขังอยู่ในท้องที่ได้ส่งคำพิพากษาศาลฎีกาคืนศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นส่งคำพิพากษาศาลฎีกาและสำนวนมายังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ดังนี้ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาเดิมโดยทำเป็นคำพิพากษาใหม่ สั่งแก้ไขปรับปรุงคำพิพากษาเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาเมื่อจำเลยถึงแก่ความตายระหว่างพิจารณา และการรับฟังพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จและส่งให้ศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟัง ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์และจำเลยที่ 1ฟังแล้ว และได้ส่งคำพิพากษาศาลฎีกาไปอีกศาลหนึ่งเพื่ออ่านให้จำเลยที่ 2 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำท้องที่ศาลนั้นฟัง แต่จำเลยที่ 2 ได้ถึงแก่ความตายก่อนวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้โจทก์และจำเลยที่ 1 ฟัง ศาลนั้นจึงส่งคำพิพากษาศาลฎีกาคืนศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นส่งคำพิพากษาศาลฎีกาและสำนวนมายังศาลฎีกาศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาเดิมโดยทำเป็นคำพิพากษาใหม่ปรับปรุงคำพิพากษาเดิมและให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องด้วยเหตุอันสมควร มิใช่การอาศัยอนุญาตจากเจ้าของกรรมสิทธิ์
การที่จำเลยปลูกบ้านในที่พิพาทโดยเจ้าของกรรมสิทธิ์พิพาทอนุญาตให้จำเลยอยู่อาศัย แม้จำเลยจะอยู่เรื่อยมาโดยไม่มี ผู้ใดโต้แย้งนั้นถือได้ว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทแทนเจ้าของ แม้จะครอบครองนานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยถึงการกระทำผิด
ก่อนเกิดเหตุมีพยานพบเห็นจำเลยที่ 7 กับพวก 2-3 คน ขนของมาอยู่ที่ทาวเฮาส์ ที่เกิดเหตุ หลังจากเกิดเหตุแล้วมีการตรวจพบรอยนิ้วมือและฝ่ามือแฝง ของจำเลยที่ 7 บริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อจับจำเลยที่ 7 ได้เจ้าพนักงานตำรวจค้นพบบัตร เอ.ที.เอ็ม. ของผู้ตายจากตัวจำเลยที่ 7 ทั้งชั้นสอบสวนจำเลยที่ 7 ก็ให้การรับสารภาพและนำชี้ ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีดังกล่าวประกอบคำรับสารภาพในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 7 แล้วมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 7 ได้ร่วมกับคนร้ายกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์และฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย ตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจำหน่ายคดีล้มละลาย: ศาลฎีกาเป็นผู้มีอำนาจจำหน่ายคดีหลังจากรับฎีกาแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสามเด็ดขาดจำเลยทั้งสามยื่นฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสามแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานว่า จำเลยที่ 2 ถูกศาลแพ่งธนบุรีสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ขอให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 15 ดังนี้ ย่อมเป็นอำนาจของศาลฎีกาที่จะสั่งจำหน่ายคดีจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจำหน่ายคดีล้มละลาย: ศาลฎีกาเป็นผู้มีอำนาจเมื่อรับฎีกาแล้ว แม้มีการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อน
จำเลยทั้งสามยื่นฎีกาและศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาแล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รายงานต่อศาลว่า จำเลยที่ 2 ถูกศาลอื่นสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 แล้ว อำนาจสั่งจำหน่ายคดีเป็นอำนาจของศาลฎีกา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องโดยมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสพยาม้าโดยรู้เท่าทันและไม่ถูกขืนใจ ไม่สามารถยกเว้นโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 ได้
จำเลยมิได้ถูกขืนใจให้เสพยาม้า และจำเลยก็รู้ว่ายาม้ามีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท คือ เมื่อเสพแล้วจะไม่ง่วงนอน แต่จำเลยก็ยังซื้อมาเสพร่วมกับการดื่มสุรา จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเสพโดยรู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้มึนเมาและมิได้ถูกขืนใจให้เสพ ดังนั้นจำเลยไม่อาจยกเอาความมึนเมาดังกล่าวเป็นข้อแก้ตัวเพื่อไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 66
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสพยาโดยรู้เห็นและเจตนา การไม่สามารถอ้างความมึนเมาเป็นข้อแก้ตัว
จำเลยมิได้ถูกขืนใจให้เสพยาม้า และจำเลยก็รู้ว่ายาม้ามีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท คือ เมื่อเสพแล้วจะไม่ง่วงนอน แต่จำเลยก็ยังซื้อมาเสพร่วมกับการดื่มสุรา จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเสพโดยรู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้มึนเมาและมิได้ถูกขืนใจให้เสพ ดังนั้น จำเลยไม่อาจยกเอาความมึนเมาดังกล่าวเป็นข้อแก้ตัวเพื่อไม่ต้องรับโทษตาม ป.อ. มาตรา 65 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 66
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและการป้องกันตัว: ศาลไม่รับฟังคำเบิกความขัดแย้งเรื่องการถูกทำร้ายก่อน
จำเลยและพยานจำเลยคือ ว.ภรรยาจำเลยร. น้องภรรยาจำเลยและ ด. ต่างเบิกความขัดแย้งกันในเรื่องของคำด่า และพฤติการณ์ที่ผู้เสียหายใช้ขวดตีจำเลยอันเป็นสาระสำคัญตามข้ออ้างของจำเลยโดยจำเลยเบิกความว่าผู้เสียหายด่า ว่า "เย็ดแม่หมาเย็ดแม่"แล้วเดิน เข้ามาคว้าขวดสุราบนโต๊ะ ตีจำเลย ว.และด. เบิกความทำนองเดียวกันว่า ผู้เสียหายด่า "เย็ดแม่มึงหมาไม่มีเขี้ยว"พร้อมกับคว้าขวดโซดาซึ่งวางอยู่บนโต๊ะตีจำเลยร. เบิกความว่าผู้เสียหายด่า "เย็ดแม่หมาเย็ดแม่หมาคาบลูกไปแดก" จำเลยเดิน เข้าไปหาผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลบเข้าไปหยิบขวดโซดา ข้างโต๊ะ ตีจำเลยกรณีจึงรับฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายด่า จำเลย และใช้ขวดจะตีทำร้ายจำเลยก่อน.