คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมภพ โชติกวณิชย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6939/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาท กรณีจำเลยรับโอนโดยไม่สุจริต และเป็นการเสียเปรียบต่อผู้มีสิทธิก่อน
โจทก์ที่2มีชื่อในโฉนดที่ดินผู้เดียวแต่เป็นการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทแทนโจทก์ที่1ซึ่งโจทก์ที่1ครอบครองเป็นสัดส่วนแล้วโจทก์ที่2จึงไม่มีสิทธิที่จะขายที่ดินพิพาทให้จำเลยการจดทะเบียนซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์ที่2กับจำเลยเป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ที่1ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของโจทก์ที่1ได้อยู่ก่อนแล้วแม้จำเลยได้รับโอนโดยมีค่าตอบแทนแต่กระทำการโดยไม่สุจริตโจทก์ที่1ย่อมเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินพิพาทนั้นได้ คำฟ้องระบุเลขที่ของโฉนดผิดพลาดไปไม่ตรงกับเลขที่โฉนดในภาพถ่ายเอกสารท้ายฟ้องซึ่งเป็นโฉนดเลขที่39533จำเลยมิได้หลงต่อสู้ทั้งยังแนบภาพถ่ายโฉนดเลขที่39533มาท้ายคำให้การการที่ศาลอุทธรณ์ภาค1ระบุเลขที่โฉนดที่ให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนเป็นโฉนดเลขที่35933ทั้งที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค1ในส่วนอื่นๆก็ระบุเป็นที่ดินโฉนดเลขที่39533ดังนี้ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวให้ถูกต้องได้แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6939/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนโอนที่ดินที่เป็นทางเสียเปรียบต่อผู้มีสิทธิก่อน การเพิกถอนการจดทะเบียน และข้อผิดพลาดเลขที่โฉนด
โจทก์ที่ 2 มีชื่อในโฉนดที่ดินผู้เดียวแต่เป็นการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทแทนโจทก์ที่ 1 ซึ่งโจทก์ที่ 1 ครอบครองเป็นสัดส่วนแล้ว โจทก์ที่ 2จึงไม่มีสิทธิที่จะขายที่ดินพิพาทให้จำเลย การจดทะเบียนซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์ที่ 2 กับจำเลยเป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ที่ 1 ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของโจทก์ที่ 1 ได้อยู่ก่อนแล้ว แม้จำเลยได้รับโอนโดยมีค่าตอบแทนแต่กระทำการโดยไม่สุจริต โจทก์ที่ 1 ย่อมเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินพิพาทนั้นได้
คำฟ้องระบุเลขที่ของโฉนดผิดพลาดไปไม่ตรงกับเลขที่โฉนดในภาพถ่ายเอกสารท้ายฟ้อง ซึ่งเป็นโฉนดเลขที่ 39533 จำเลยมิได้หลงต่อสู้ทั้งยังแนบภาพถ่ายโฉนดเลขที่ 39533 มาท้ายคำให้การ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1ระบุเลขที่โฉนดที่ให้เพิกถอนการจดทะเบียนโอนเป็นโฉนดเลขที่ 35933 ทั้งที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในส่วนอื่น ๆ ก็ระบุเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 39533ดังนี้ ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวให้ถูกต้องได้แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6839/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ตามหมายบังคับคดีไม่ถือเป็นการชำระหนี้ด้วยความสมัครใจ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แม้ขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์จำเลยจะได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่จำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ตามหมายบังคับคดีของศาลชั้นต้นหาได้ชำระหนี้ด้วยความสมัครใจไม่ ดังนั้นคู่ความฝ่ายใดจะต้องรับผิดต่อคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไรในชั้นที่สุดจึงต้องถือตามคำพิพากษาของศาลที่สูงกว่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6839/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ตามคำพิพากษาและการชำระหนี้ตามหมายบังคับคดี: ผลกระทบต่อความรับผิดชอบของคู่ความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ แม้ขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยจะได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่จำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ตามหมายบังคับคดีของศาลชั้นต้น หาได้ชำระหนี้ด้วยความสมัครใจไม่ ดังนั้นคู่ความฝ่ายใดจะต้องรับผิดต่อคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไรในชั้นที่สุดจึงต้องถือตามคำพิพากษาของศาลที่สูงกว่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6674/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งรถผิดกฎหมาย: ศาลฎีกาตัดสินให้ริบได้หากใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด
ในความผิดฐานแข่งรถในทางตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ.2522มาตรา134รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งถือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดสมควรริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา33(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6674/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งรถผิดกฎหมาย โดยศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการใช้ทรัพย์สินในการกระทำความผิด
ในความผิดฐานแข่งรถในทางตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 134 รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งถือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดสมควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6674/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต: รถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำผิด
ความผิดฐานแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 134 นั้นนอกจากจะเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเพราะละเว้นกระทำคือไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรแล้ว ยังเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเพราะการกระทำคือการแข่งรถด้วย รถจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้แข่งขันกันจึงเป็นทรัพย์สินซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)
ถนนหลวงเป็นทางที่คนทั่วไปอาจใช้สัญจรไปมา จำเลยทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์ของกลางแข่งขันกันโดยฝ่าฝืนกฎหมายและคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนรำคาญ และอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น เป็นพฤติการณ์ที่พึงริบรถจักรยานยนต์ของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6674/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งรถผิดกฎหมาย: ศาลฎีกาตัดสินให้ริบได้หากเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด
ในความผิดฐานแข่งรถในทางตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ.2522มาตรา134รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการแข่งถือเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดสมควรริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา33(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6641/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ (น้ำเสียรั่ว) ไม่เป็นคดีมีทุนทรัพย์ อนุญาตฎีกาในข้อเท็จจริงได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายก่อนฟ้อง 78,200บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้แก่โจทก์ นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะโยกย้ายถังส้วมหรือปรับปรุงแก้ไขจนน้ำเสียจากบ้านจำเลยไม่ไหลซึมเข้าบ้านโจทก์ กับมีคำขอให้จำเลยย้ายถังส้วมและห้องน้ำออกไปจากบริเวณข้างบ้านโจทก์ โดยไม่ทำให้น้ำจากถังส้วมและห้องน้ำไหลซึมเข้าบ้านโจทก์ได้ หรือให้จำเลยทำถังส้วมใหม่โดยเทฐานคอนกรีตก่ออิฐมอญฉาบปูนขัดมันภายในถังส้วมของจำเลยและไม่กระทำการใด ๆ ให้น้ำเสียจากบ้านจำเลยไหลซึมเข้าบ้านโจทก์ดังนี้ ความประสงค์โดยตรงของโจทก์นั้น มุ่งที่จะขอให้บังคับจำเลยย้ายถังส้วมและห้องน้ำออกไป ถือได้ว่าเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคสอง ซึ่งมิได้ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แม้จะมีคำขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายก่อนฟ้องพร้อมดอกเบี้ย ก็ไม่ทำให้เป็นคดีมีทุนทรัพย์อันจะทำให้โจทก์ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ.มาตรา 248 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6641/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีขอปลดเปลื้องทุกข์จากการรั่วซึมของน้ำเสีย ไม่ถือเป็นคดีมีทุนทรัพย์ จึงไม่ขัดต่อการฎีกาตามมาตรา 248
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายก่อนฟ้อง78,200บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีให้แก่โจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะโยกย้ายถังส้วมหรือปรับปรุงแก้ไขจนน้ำเสียจากบ้านจำเลยไม่ไหลซึมเข้าบ้านโจทก์กับมีคำขอให้จำเลยย้ายถังส้วมและห้องน้ำออกไปจากบริเวณข้างบ้านโจทก์โดยที่ไม่ทำให้น้ำจากถังส้วมและห้องน้ำไหลซึมเข้าบ้านโจทก์ได้หรือให้จำเลยทำถังส้วมใหม่โดยการเทฐานคอนกรีตก่ออิฐมอญฉาบปูนขัดมันภายในถังส้วมของจำเลยและไม่กระทำการใดๆให้น้ำเสียจากบ้านจำเลยไหลซึมเข้าบ้านโจทก์ความประสงค์โดยตรงของโจทก์มุ่งที่จะขอให้บังคับจำเลยย้ายถังส้วมและห้องน้ำออกไปถือได้ว่าเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา248วรรคสองซึ่งมิได้ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงแม้จะมีคำขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายก่อนฟ้องพร้อมดอกเบี้ยก็ไม่ทำให้เป็นคดีมีทุนทรัพย์อันจะทำให้โจทก์ต้องห้ามฎีกาตามมาตรา248วรรคหนึ่ง
of 47