พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับจำนองต้องฟ้องผู้รับโอนทรัพย์สิน ผู้รับโอนไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ไม่มีสิทธิยึด
ผู้ร้องเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนองมาก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ การที่โจทก์เพียงแต่บอกกล่าวบังคับจำนองไปยังผู้ร้องตาม ป.พ.พ. มาตรา 735 โดยมิได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลยด้วยนั้น จึงไม่ใช่เป็นการบังคับจำนองที่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ในป.พ.พ. มาตรา 728 เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงไม่มีสิทธิยึดที่ดินของผู้ร้องได้ เพราะการบังคับคดีตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 278 นั้น จะต้องเป็นกรณีที่โจทก์อ้างว่าทรัพย์ที่จะบังคับคดีเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์รับว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นของผู้ร้องมิใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเช่นนี้ จึงต้องปล่อยทรัพย์พิพาทที่ยึดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมือเปล่าโดยทราบชื่อเจ้าของเดิมใน ภ.บ.ท.5 ย่อมถือเป็นการซื้อขายโดยสมัครใจ การอ้างสิทธิภายหลังไม่เป็นฉ้อโกง
โจทก์ร่วมทั้งสองทราบดีว่า ที่ดินที่ตนทำสัญญาซื้อจาก จ.นั้น ยังมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5)เมื่อโจทก์ร่วมทั้งสองชำระราคาครบแล้ว จ. จัดการให้จำเลยที่ 1เปลี่ยนชื่อในใบเสียภาษีบำรุงท้องที่มาเป็นชื่อโจทก์ร่วมที่ 1การซื้อขายดังกล่าวจึงเกิดจากความสมัครใจของคู่สัญญาตามความเป็นจริง การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้คัดค้านการซื้อขายมาแต่แรกไม่ยอมออกจากที่ดินอ้างว่าเป็นของตน เป็นการกล่าวอ้างสิทธิในทางแพ่งขึ้นภายหลังการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จและฉ้อโกงเกี่ยวกับการซื้อขายบุหรี่เงินเชื่อ ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
จำเลยทั้งสองเคยติดต่อซื้อบุหรี่จำนวนมากจาก ณ. ซึ่งซื้อมาจากร้านสหกรณ์ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ณ. เป็นลูกค้าซื้อบุหรี่เงินเชื่อประเภทขายส่งของร้านสหกรณ์มานาน ในวันเกิดเหตุ จำเลยทั้งสองได้มอบเงินให้ ณ. ไปซื้อบุหรี่ด้วยความหวังว่าจะได้บุหรี่ตามจำนวนที่ขอซื้อเช่นเคย แต่ ณ. เป็นหนี้ค่าบุหรี่ร้านสหกรณ์จำนวน 98,282.20 บาท โจทก์ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของสหกรณ์รับเงินจาก ณ. แล้ว แทนที่จะมอบบุหรี่ตามจำนวนเงินที่มาขอซื้อ กลับนำเงินมาหักหนี้ที่ ณ.ค้างชำระอยู่ โดยเชื่อว่าเป็นเงินของ ณ. เอง เมื่อจำเลยทั้งสองไม่สามารถเรียกเงินคืนจาก ณ. ได้ จึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนอันเป็นเท็จว่า จำเลยที่ 1 กับ จ. ซึ่งได้รับมอบหมายจากจำเลยที่ 2 ได้นำเงินจำนวน56,205 บาท และ 45,000 บาท ตามลำดับ มาขอซื้อบุหรี่จากร้านสหกรณ์ด้วยตนเองไม่เกี่ยวกับ ณ. โจทก์รับเงินแล้วไม่ส่งมอบบุหรี่ตามจำนวนที่ขอซื้อเป็นการฉ้อโกงจำเลยทั้งสองเพื่อบีบบังคับให้โจทก์คืนเงิน เป็นเหตุให้โจทก์ถูกดำเนินคดีและต้องถูกควบคุมตัว ย่อมได้รับความเสียหาย จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4945/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์มรดกของคู่สมรสที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และคุณสมบัติของผู้จัดการมรดก
ที่ดินทรัพย์มรดกที่ผู้ตายได้มาระหว่างอยู่กินกับผู้คัดค้านและทำมาหาได้ร่วมกัน หลังจากผู้ตายหย่ากับภริยาคนเดิมแล้วผู้คัดค้านจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย เมื่อผู้ร้องมีพฤติการณ์เป็นปรปักษ์ต่อผู้คัดค้านและ ส. ซึ่งเป็นบุตรของผู้ตายที่ได้รับรองแล้ว และปฏิเสธบุคคลทั้งสองว่าไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกซึ่งขัดกับพยานหลักฐานที่มีอยู่ ผู้คัดค้านแสดงความตั้งใจที่จะแบ่งปันทรัพย์มรดกด้วยความชอบธรรม หากผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียวหรือเป็นผู้จัดการมรดกร่วมด้วยก็จะมีข้อขัดแย้ง และเป็นอุปสรรคในการจัดการมรดกให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ผู้ร้องจึงไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก สมควรให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4944/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์: เหตุผลความล่าช้าในการคัดเอกสารไม่ถือเป็นพฤติการณ์พิเศษ
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อ้างว่า โจทก์ขอ คัดคำพิพากษาและคำเบิกความพยานโจทก์ไว้แล้ว แต่ยังคัดไม่ได้ โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ขวนขวายมาติดต่อเจ้าหน้าที่ศาลอย่างไร หรือไม่ อันจะมีเหตุขัดข้องคัดไม่ได้ทั้งตามคำร้องของโจทก์ถือ ไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ จึงต้องยกคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4944/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์: เหตุผลความล่าช้าในการคัดเอกสารไม่เพียงพอ
คำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของโจทก์อ้างเหตุแต่เพียงว่าโจทก์ขอคัดคำพิพากษาและคำเบิกความพยานโจทก์ไว้แล้ว แต่ยังคัดไม่ได้เท่านั้นโดยไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้ขวนขวายมาติดต่อเจ้าหน้าที่ศาลอย่างไรหรือไม่ ถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษกรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4944/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลายื่นอุทธรณ์: เหตุขอคัดเอกสารไม่อาจถือเป็นพฤติการณ์พิเศษ
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อ้างว่า โจทก์ขอคัดคำพิพากษาและคำเบิกความพยานโจทก์ไว้แล้ว แต่ยังคัดไม่ได้โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ขวนขวายมาติดต่อเจ้าหน้าที่ศาลอย่างไรหรือไม่ อันจะมีเหตุขัดข้องคัดไม่ได้ทั้งตามคำร้องของโจทก์ถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15จึงต้องยกคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4607/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีสัญญาจ้างแรงงานและค้ำประกันความเสียหาย: คดีไม่ขาดอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คดีที่โจทก์ฟ้อง ผ. ต่อศาลแรงงานกลางเป็นคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเกี่ยวกับทำงานตามสัญญาจ้างแรงงานหาใช่คดีละเมิดอย่างเดียวไม่ เพราะโจทก์กับ ผ. เป็นนายจ้างลูกจ้างมีข้อผูกพันตามสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน จำเลยค้ำประกันการทำงานของผ.ต่อโจทก์โดยยอมรับผิดในความเสียหายที่ผ.ทำงาน จึงต้องผูกพันค้ำประกันความรับผิดของ ผ.ตามสัญญาจ้างแรงงานด้วยสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาจ้างแรงงาน ไม่มีกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164(193/30 ที่ได้ตรวจชำระใหม่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4564/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มติพิเศษเพิ่มทุน: การลงคะแนนเสียงและการถอนคำขอ
การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเรื่องการเพิ่มทุนของบรรษัทซึ่งต้องใช้มติพิเศษเมื่อที่ประชุมครั้งแรกลงคะแนนเสียงโดยวิธีชูมือ ผู้ถือหุ้นบางคนทักท้วงการลงคะแนนเสียงและขอให้ลงคะแนนลับ ประธานที่ประชุมไม่ได้แสดงว่าการลงคะแนนเสียงดังกล่าวเป็นมติที่ผ่านไปแล้วตามข้อบังคับของบรรษัท จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นมติของที่ประชุมเป็นเด็ดขาดการที่ประธานที่ประชุมให้มีการลงคะแนนเสียงด้วยวิธีชูมืออีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีการถอนคำขอให้ลงคะแนนลับแล้ว ผลการประชุมปรากฏว่า มีผู้ถือหุ้นในที่ประชุมทั้งหมด 78 คน ออกเสียงอนุมัติการเพิ่มทุน 63 เสียง จึงเป็นการลงมติในที่ประชุมครั้งแรกด้วยคะแนนเสียงข้างมากไม่ต่ำกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4564/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นต้องใช้คะแนนเสียงข้างมากไม่ต่ำกว่าสามในสี่ การลงคะแนนใหม่หลังทักท้วงเป็นไปตามกฎหมาย
การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเรื่องการเพิ่มทุนของบริษัทซึ่งต้องใช้มติพิเศษ เมื่อที่ประชุมครั้งแรกลงคะแนนเสียงโดยวิธีชูมือผู้ถือหุ้นบางคนทักท้วงการลงคะแนนเสียงและขอให้ลงคะแนนลับประธานที่ประชุมไม่ได้แสดงว่าการลงคะแนนเสียงดังกล่าวเป็นมติที่ผ่านไปแล้วตามข้อบังคับของบริษัท จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นมติของที่ประชุมเป็นเด็ดขาด การที่ประธานที่ประชุมให้มีการลงคะแนนเสียงด้วยวิธีชูมืออีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีการถอนคำขอให้ลงคะแนนลับแล้วผลการประชุมปรากฏว่า มีผู้ถือหุ้นในที่ประชุมทั้งหมด 78 คนออกเสียงอนุมัติการเพิ่มทุน 63 เสียง จึงเป็นการลงมติในที่ประชุมครั้งแรกด้วยคะแนนเสียงข้างมากไม่ต่ำกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดแล้ว