พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2694/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงมอบข้าวเปลือกสีเป็นข้าวสารถือเป็นการซื้อขาย ไม่ใช่ฝากเก็บ โจทก์มีอำนาจฟ้อง
การที่โจทก์มอบข้าวเปลือกไว้กับจำเลยที่ 1 และให้สิทธิแปรสภาพเป็นข้าวสารออกขายได้ หากโจทก์ต้องการขายราคาข้าวเปลือกดังกล่าวจำเลยจะใช้ราคาเป็นเงินสดโดยคิดราคาข้าวเปลือกชนิดและประเภทเดิมในปริมาณเดียวกันเป็นข้อตกลงที่ให้กรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกตกเป็นของจำเลยแล้ว เพียงแต่จะคิดราคากันในภายหลังและต้องใช้ราคาโดยไม่ต้องคืนทรัพย์ที่รับไว้ ดังนี้ เป็นการซื้อขายวิธีหนึ่งหาใช่รับฝากทรัพย์ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2694/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายข้าวเปลือกและการโอนกรรมสิทธิ์: อำนาจฟ้องของโจทก์
ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการค้าพืชผลทางการเกษตรทุกชนิด ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการโรงสีข้าว โจทก์ได้นำข้าวเปลือกไปมอบให้จำเลยที่ 1 ไว้และให้สิทธิจำเลยที่ 1 แปรสภาพเป็นข้าวสารออกขายได้หากโจทก์มีความประสงค์ต้องการขายข้าวเปลือกเมื่อใดจำเลยที่ 1จะใช้ราคาเป็นเงินสด โดยคิดราคาข้าวเปลือกชนิดและประเภทเดิมในปริมาณเดียวกัน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการให้กรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกตกเป็นของจำเลยที่ 1 แล้ว เพียงแต่จะคิดราคากันในภายหลังเท่านั้นและต้องใช้ราคาโดยไม่ต้องคืนทรัพย์ที่รับไว้ จึงเป็นการซื้อขายวิธีหนึ่งไม่ใช่รับฝากทรัพย์ ไม่นอกวัตถุประสงค์ของโจทก์และจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2682/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขายทอดตลาด: เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจกำหนดลำดับขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ แม้การขายแปลงแรกไม่พอชำระหนี้
ที่ดินทั้งสองแปลงที่ยึดมาขายทอดตลาดมีราคาประเมินรวมทั้งสองแปลงแล้วไม่พอชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงทำการขายทอดตลาดที่ดินแปลงที่มีราคาน้อยก่อน ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจที่จะกำหนดลำดับการขายทรัพย์ที่ยึดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309(3) การขายที่ดินแปลงนี้เป็นการปฏิบัติโดยชอบแล้ว และเมื่อขายทรัพย์รายแรกได้เงินไม่พอชำระหนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินอีกแปลงหนึ่งเป็นอันดับต่อมา แม้การขายทรัพย์สินรายการหลังจะได้เงินพอแก่การชำระหนี้ก็ไม่ทำให้การขายทอดตลาดทรัพย์รายการแรกที่เสร็จไปแล้วโดยชอบนั้นเสียไปหรือถูกยกเลิกไป จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2677/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยุบสภาทำให้คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันเป็นไปไม่ได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรแต่ระหว่างพิจารณาได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรและกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป คดีจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไป ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2594/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้หลักทรัพย์ประกันตัวที่ถูกยึดเป็นประกันอีกครั้ง ถือละเมิดอำนาจศาล
ที่ดินตาม น.ส.3 รายนี้ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เคยนำไปยื่นเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวจำเลยในคดีอาญา แล้วผิดสัญญาประกันศาลสั่งปรับและยึดที่ดินตาม น.ส.3 ดังกล่าวเพื่อนำออกขายทอดตลาด ต่อมามีผู้ทุจริตลักลอบนำเอา น.ส.3 ฉบับดังกล่าวออกมาในระหว่างดำเนินการเพื่อจะขายทอดตลาด ไปให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นำไปเป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัวผู้ต้องหาที่ 1(ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3) ในอีกคดีหนึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ทราบดีอยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิที่จะไปเกี่ยวข้องกับ น.ส.3 ฉบับนี้อีกแต่ก็ยังฝ่าฝืนนำเอา น.ส.3 ฉบับนี้มายื่นเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องหาที่ 1(ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3) ต่อศาลอีก โดยอ้างว่าไม่มีภาระผูกพันใด ๆ จนกระทั่งศาลหลงเชื่อและได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ 1(ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3) การกระทำดังกล่าวถือว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอันเป็นการกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 31(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการบังคับคดีที่เกินกำหนดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง แม้ไม่ทราบวันขายทอดตลาด ก็ต้องยื่นคัดค้านก่อนบังคับคดีเสร็จ
จำเลยอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง จำเลยต้องยื่นคำร้องคัดค้านก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันทราบการฝ่าฝืนนั้น แม้จะฟังได้ว่าจำเลยไม่ทราบวันขายทอดตลาดอันเป็นการบังคับคดีฝ่าฝืน ป.วิ.พ. มาตรา 306 ก็ตามแต่เมื่อจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านภายหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงคำร้องของจำเลยจึงต้องห้ามตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การคัดค้านการบังคับคดีต้องกระทำก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น มิฉะนั้นเป็นเหตุต้องห้าม
ตามคำร้อง ของ จำเลยอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ซึ่งจำเลยต้องยื่นคัดค้านเสียก่อนที่การบังคับคดีได้เสร็จลงหรือภายใน 8 วัน นับแต่วันที่ทราบถึงการฝ่าฝืนนั้นแม้จำเลยจะไม่ทราบวันขายทอดตลาดอันเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ก็ตาม แต่จำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องคัดค้านภายหลังจากที่การบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2569/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยต้องเป็นเหตุที่ศาลไม่อาจขยายเวลา หรือคู่ความไม่อาจยื่นคำขอได้ การขาดความรอบคอบของทนายไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัย
เหตุสุดวิสัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23หมายถึงเหตุที่ทำให้ศาลไม่สามารถมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาหรือเหตุที่คู่ความไม่สามารถมีคำขอขึ้นมาก่อนกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายหรือศาลกำหนดไว้ การที่ทนายจำเลยหลงลืมไม่ได้ยื่นใบแต่งทนายความพร้อมกับคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดนั้น เป็นเพราะทนายจำเลยขาดความรอบคอบหรือไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร จึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัยตามมาตราดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2482/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าเช่าสังหาริมทรัพย์: องค์การโทรศัพท์ฯ ในฐานะผู้ให้เช่า
จำเลยเช่าคู่สายเคเบิลจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยเพื่อใช้บริการเครื่องเทเล็กซ์ โดยเสียค่าเช่าเป็นเดือนองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย จึงเป็นบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(6) สิทธิเรียกร้องค่าเช่าดังกล่าวมีอายุความ 2 ปี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2482/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าเช่าสังหาริมทรัพย์: องค์การโทรศัพท์ฯ มีอำนาจค้าได้
แม้โจทก์จะมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดดำเนินการและนำมาซึ่งความเจริญของกิจการโทรศัพท์ เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน อันถือได้ว่าโจทก์ดำเนินกิจการสาธารณูปโภค แต่โจทก์ก็มีอำนาจดำเนินกิจการได้หลายประการ เช่น มีอำนาจซื้อ เช่า ให้เช่า ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม รวมทั้งสามารถเข้าหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลใด ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจการของบุคคลจำพวกที่ค้าทั้งสิ้น การที่จำเลยเช่าคู่สายเคเบิลจากโจทก์เพื่อใช้บริการเครื่องเทเล็กซ์โดยโจทก์คิดค่าเช่าเป็นรายเดือนนั้น จึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ฟ้องเรียกเอาค่าเช่าจากจำเลย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165 (6) มีอายุความ 2 ปี