คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมปอง เสนเนียม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาถูกจำกัดเนื่องจากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในข้อหาที่ถูกยกฟ้องไปแล้ว
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 371ข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ข้อหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 220.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การบุกรุกและทำร้ายร่างกายเป็นความผิดต่อเนื่อง
การที่จำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายแล้วทำร้ายผู้เสียหายทันที เป็นการกระทำต่อเนื่องในคราวเดียวกันจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าบริการโทรศัพท์: องค์การโทรศัพท์ฯ ในฐานะผู้ค้าตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(7)
แม้โจทก์จะเป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยฯ แต่การที่โจทก์ให้จำเลยใช้บริการ โทรศัพท์ แล้วคิดค่าบริการตามอัตราที่โจทก์กำหนดย่อมถือได้ว่า โจทก์เป็นผู้ค้ารับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันพึงจะได้รับจากการนั้น ตาม ป.พ.พ.มาตรา 165(7) ซึ่งโจทก์จะต้องเรียกร้องเอาค่าบริการ ภายใน 2 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าใช้บริการเกิน 2 ปี คดีจึงขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าบริการโทรศัพท์: โจทก์เป็นผู้ค้าหรือไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 165(7)
โจทก์เป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2497 มีอำนาจตามมาตรา 9แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวให้ดำเนินกิจการได้หลายประการ การที่โจทก์ให้จำเลยใช้บริการโทรศัพท์แล้วคิดค่าบริการตามอัตราที่โจทก์กำหนด ถือได้ว่า โจทก์เป็นผู้ค้ำรับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันพึงจะได้รับจากการนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(7) ซึ่งโจทก์จะต้องเรียกร้องเอาค่าบริการภายใน 2 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าบริการคดีนี้เกิน 2 ปี จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาโต้เถียงดุลยพินิจรับฟังพยานหลักฐานศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตาม ม.218
ฎีกาจำเลยที่ 2 ที่ว่า ศาลอุทธรณ์รับฟังข้อเท็จจริงนอกเหนือพยานหลักฐานในสำนวนนั้น เมื่อศาลฎีกาตรวจคำฟ้องฎีกาโดยตลอดแล้วเป็นการฎีกาโต้เถียงดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานแวดล้อมและคำรับสารภาพใช้ได้ แม้ไม่มีพยานประจักษ์พยาน ยืนยันความผิดจำเลย
ในการลงโทษผู้กระทำผิดทางอาญานั้น นอกจากศาลรับฟังพยานหลักฐานจากประจักษ์พยานแล้ว พยานแวดล้อมกรณีหรือพยานพฤติเหตุที่บ่งชี้ว่า จำเลยกระทำผิดศาลก็รับฟังได้ด้วย ศาลจึงรับฟังพยานแวดล้อมกรณี และคำรับของจำเลยกับของผู้ร่วมกระทำผิดประกอบพยานอื่นได้ เพราะคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยันจำเลย ได้ในชั้นพิจารณาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 134 ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้อ้างจำเลย เป็นพยานเพื่อเค้นเอา ความจริงจากจำเลยมาลงโทษจำเลย ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 232 แต่ประการใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการทอดทิ้งการครอบครองที่ดิน การครอบครองต้องต่อเนื่องและเปิดเผย
จำเลยที่ 2 ออกจากที่ดินพิพาทไปเป็นเวลา 10 ปีเศษ โดยไม่ได้มาใช้สิทธิเหนือที่ดินพิพาทเลย เป็นการทอดทิ้งทรัพย์ที่ครอบครองไปแม้การทอดทิ้งนั้นจะเป็นเพราะถูกบุคคลอื่นหลอกว่าทางราชการต้องการที่ดินคืน ก็หาใช่เป็นเหตุขัดข้องชั่วคราวมาขัดขวางการครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 วรรคสองไม่ ที่จำเลยที่ 2เข้ายึดถือครอบครองที่ดินพิพาทครั้งหลังก็ถูกโจทก์โต้แย้งการครอบครองของจำเลยจึงสิ้นสุดลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์สิ้นสุดลงหากมีการทอดทิ้งทรัพย์สินเป็นเวลานาน แม้ถูกหลอกลวงก็ไม่ถือเป็นเหตุขัดข้องชั่วคราว
จำเลยที่ 2 อพยพออกจากที่ดินพิพาทไปเป็นเวลา 10 ปีเศษโดยไม่ได้ใช้สิทธิเหนือที่ดินพิพาทเลย เป็นการทอดทิ้งทรัพย์ที่ครอบครองไป แม้จะถูกบุคคลอื่นหลอกลวงว่าทางราชการต้องการที่ดินคืน ก็หาใช่เป็นเหตุขัดข้องชั่วคราวมาขัดขวางการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 วรรคสองไม่ ที่จำเลยที่ 2 เข้ายึดถือครอบครองที่ดินพิพาทครั้งหลังก็ถูกโจทก์โต้แย้งการครอบครองของจำเลยที่ 2 จึงสิ้นสุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์สิ้นสุดลงเมื่อมีการทอดทิ้งที่ดินเป็นเวลานาน แม้ถูกหลอกลวงก็ไม่ถือเป็นเหตุขัดข้องชั่วคราว
จำเลยที่ 2 ออกจากที่ดินพิพาทเป็นเวลา 10 ปีเศษ โดยไม่ได้มาใช้สิทธิเหนือที่ดินพิพาทเลย แม้จะถูกบุคคลอื่นหลอกลวงว่าทางราชการต้องการที่ดินคืนก็เป็นการทอดทิ้งทรัพย์ที่ครอบครองมิใช่เป็นเหตุขัดข้องชั่วคราวมาขัดขวางการครอบครอง การครอบครองของจำเลยที่ 2 จึงสิ้นสุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีจากความบกพร่องของทนายโจทก์ และการไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลมีสิทธิยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องและกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้แล้ว ทนายโจทก์ลงชื่อทราบคำสั่งดังกล่าว ถึงวันนัดโจทก์ทนายโจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166,181โจทก์จะขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่โดยอ้างว่าจำวันนัดคลาดเคลื่อนซึ่งเกิดจากความบกพร่องของทนายโจทก์เองมิได้และแม้ทนายโจทก์จะป่วยทนายโจทก์ก็สามารถแจ้งให้โจทก์ทราบหรือทำคำร้องขอเลื่อนคดีมอบให้ผู้อื่นมายื่นต่อศาลได้ การที่โจทก์และทนายโจทก์ไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยานโดยไปแจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี จึงไม่ใช่เหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่.
of 89