คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สังเวียน รัตนมุง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 355 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อ - เจ้าของรถไม่รู้เห็นการกระทำผิดของผู้เช่าซื้อ - สิทธิในการรับคืนรถ
ผู้ร้องกับจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่คนละอำเภอต่างจังหวัดกัน ผู้ร้องย่อมไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยเอารถจักรยานยนต์ของกลาง ไปกระทำผิดเมื่อใด และที่พยานผู้ร้องเบิกความว่า หากจำเลยนำ ค่าเช่าซื้อมาชำระก็จะรับและให้เช่าซื้อต่อไปก็เป็นเรื่องที่ ผู้ร้องไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญาแม้จำเลยจะนำรถไปกระทำความผิด เท่านั้นกรณีไม่อาจถือได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด ของจำเลย ต้องคืนรถของกลางแก่ผู้ร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปยังภูมิลำเนาหลายแห่งของจำเลย การขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
แม้จำเลยมีสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดงว่าขณะที่ถูกฟ้องจำเลยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี แต่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งแก่โจทก์ขณะทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ว่าอยู่บ้านเลขที่ 389/4 จังหวัดนครราชสีมา และจำเลยอ้างว่าขณะนั้นอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 357 จังหวัดนครราชสีมา แต่เมื่อพนักงานเดินหมายไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่บ้านตามภูมิลำเนาในคำฟ้องคือ บ้านเลขที่ 96 จังหวัดอุบลราชธานี ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยเต็มใจยอมรับหมายไว้แทนโดยไม่มีผู้ใดปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้อยู่ที่บ้านตามที่กล่าวในคำฟ้องและไม่ปรากฏว่าภริยาจำเลยรับหมายไว้แทนจำเลยโดยหลงผิด พฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อได้ว่าจำเลยอยู่อาศัยในบ้านเดียวกับภริยา และถือได้ว่าจำเลยมีถิ่นที่อยู่หลายแห่งซึ่งอยู่สับเปลี่ยนกันไป ดังนั้นบ้านที่ระบุในคำฟ้องจึงเป็นภูมิลำเนาอีกแห่งหนึ่งของจำเลย ถือได้ว่าได้ส่งหมายนั้นให้แก่จำเลยทราบโดยชอบแล้ว เมื่อจำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่ไปศาลในวันสืบพยานจึงต้องถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดยจงใจจำเลยไม่อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยมีภูมิลำเนาหลายแห่ง และการขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ
จำเลยที่ 1 มีถิ่นที่อยู่หลายแห่งซึ่งอยู่สับเปลี่ยนกันไปบ้านเลขที่ที่ระบุในคำฟ้องเป็นภูมิลำเนาอีกแห่งหนึ่งของจำเลยที่ 1 แม้จะมิใช่บ้านที่จำเลยที่ 1 มีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านก็ตาม การที่พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับหมายนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งที่บ้านดังกล่าวโดยมีภริยาของจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับไว้แทน จึงถือว่าได้ส่งหมายนั้น ๆ ให้แก่จำเลยที่ 1 ทราบโดยชอบแล้ว จำเลยที่ 1 ไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่ไปศาลในวันสืบพยานโจทก์ ถือว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ จำเลยที่ 1 จึงไม่อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกไปยังถิ่นที่อยู่หลายแห่งของจำเลย และผลของการขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยมีถิ่นที่อยู่หลายแห่งและอยู่สับเปลี่ยนกันไป บ้านเลขที่ที่ระบุในคำฟ้องจึงเป็นภูมิลำเนาอีกแห่งหนึ่งของจำเลย การที่พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกับหมายนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งตามที่อยู่ของจำเลยในคำฟ้อง โดยมีภริยาของจำเลยเป็นผู้รับไว้แทน จึงถือได้ว่าส่งหมายให้แก่จำเลยโดยชอบแล้ว จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่ไปศาลในวันสืบพยานโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ จำเลยไม่อาจขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิทธิการขอเป็นผู้จัดการมรดกเมื่อผู้ร้องถึงแก่ความตายระหว่างการพิจารณาคดี
คำสั่งศาลฎีกา (895/2534) การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้ร้องถึงแก่ความตายในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา สิทธิของผู้ร้องจึงระงับไป ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของผู้ร้องต่อไป ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
of 36