คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไพศาล รางชางกูร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 952 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาในศาลแขวงโดยไม่ต้องเคร่งครัด ป.วิ.อ. มาตรา 158 อนุมาตรา 5
การพิจารณาคดีอาญาของศาลแขวงแตกต่างจากคดีอาญาอื่นพ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงฯ มาตรา 19 จึงบัญญัติให้โจทก์ฟ้องด้วยวาจาได้ และให้ศาลบันทึกใจความแห่งคำฟ้องไว้เป็นหลักฐานการฟ้องคดีอาญาในศาลแขวงไม่ต้องปฏิบัติเคร่งครัดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158โดยเฉพาะอนุมาตรา 5 ว่าด้วยรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการกระทำ เป็นหน้าที่ของศาลที่จะต้องสอบถามรายละเอียดพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี คดีนี้เป็นคดีการพนันที่อยู่ในอำนาจศาลแขวง ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นจักรกลไฟฟ้า (วีดีโอเกม) อันเป็นความผิดดังที่ระบุไว้ในบัญชี ข. หมายเลข 28 ท้าย พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 โดยไม่มีพระราช-กฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ซึ่งจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงให้การรับสารภาพคำฟ้องที่โจทก์ฟ้องด้วยวาจาตามที่ศาลบันทึกไว้นั้น ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาในศาลแขวง: คำฟ้องด้วยวาจาและการลดโทษจากผลการรับสารภาพ
การพิจารณาคดีอาญาของศาลแขวงแตกต่างจากคดีอาญาอื่นพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงฯ มาตรา 19 จึงบัญญัติให้โจทก์ฟ้องด้วยวาจาได้และให้ศาลบันทึกใจความแห่งคำฟ้องไว้เป็นหลักฐานการฟ้องคดีอาญาในศาลแขวงไม่ต้องปฏิบัติเคร่งครัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 โดยเฉพาะอนุมาตรา 5 ว่าด้วยรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการกระทำเป็นหน้าที่ของศาลที่จะต้องสอบถามรายละเอียดพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี คดีนี้เป็นคดีการพนันที่อยู่ในอำนาจศาลแขวง ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นจักรกลไฟฟ้า (วีดีโอเกม) อันเป็นความผิดดังที่ระบุไว้ในบัญชี ข. หมายเลข 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยไม่มีพระราชบัญญัติกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ซึ่งจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงให้การรับสารภาพคำฟ้องที่โจทก์ฟ้องด้วยวาจาตามที่ศาลบันทึกไว้นั้น ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยป้องกันตนเองจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรง โดยใช้ปืนยิงตอบโต้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ไม้ที่ผู้ตายจะใช้ตีจำเลยมีขนาดใหญ่และยาวพอสมควรที่จะใช้เป็นอาวุธตีจำเลยให้ถึงแก่ความตายได้ และขณะนั้นผู้ตายมีอาการมึนเมาสุราย่อมขาดความยับยั้ง จำเลยกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นยามป้องกันทรัพย์สินของโรงงาน และสัญชาตญาณป้องกันตนเองจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงไปทางผู้ตายโดยกะทันหันทันที แม้กระสุนจะถูกผู้ตายที่หน้าอกก็ยังไม่พอฟังว่าจำเลยเลือกยิงตรงหน้าอกเพราะเป็นเวลาฉุกละหุกไม่มีโอกาสที่จำเลยจะเลือกยิงส่วนใดของผู้ตายหรือยิงขู่ได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1988/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย: การยิงเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย
ขณะที่จำเลยเฝ้ายามอยู่หน้าโรงงาน ผู้ตายเมาสุราเดินเข้าไปต่อว่าจำเลยเรื่องการเปิดประตูโรงงาน แล้วผู้ตายหยิบไม้ท่อนหนึ่งขนาดเท่าแขนยาวประมาณ 1 เมตร ตรงเข้ามาจะตีจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงไป 1 นัด ถูกผู้ตายที่หน้าอกถึงแก่ความตาย เช่นนี้เมื่อพิเคราะห์ถึงไม้ที่ผู้ตายจะใช้ตีจำเลยนั้นมีขนาดใหญ่และยาวพอสมควรที่จะใช้เป็นอาวุธตีจำเลยให้ถึงตายได้ ยิ่งขณะนั้นผู้ตายมีอาการมึนเมาย่อมขาดความยับยั้งไม่มีอะไรจะยับยั้งผู้ตายได้จำเลยกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นยามป้องกันทรัพย์สินของโรงงานและสัญชาตญาณป้องกันตนเอง จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงไปทางผู้ตายโดยกะทันหันทันทีในเวลาฉุกละหุกไม่มีโอกาสเลือกยิงส่วนใดของผู้ตายหรือยิงขู่ได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาสัญญาเช่าซื้อโดยความยินยอม การยึดรถไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามกำหนด และโจทก์ไปยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืน โดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้โต้แย้งการยึดรถยนต์คืน พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ต่างสมัครใจเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อกัน นับแต่วันที่โจทก์ยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืน มิใช่เป็นกรณีที่ผู้เช่าซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 และมาตรา 574ดังนั้น การที่โจทก์ยึดรถยนต์คืนจากจำเลยที่ 1 จึงหาทำให้โจทก์ตกเป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าซื้อไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเลิกการขายทอดตลาดต้องมีเหตุฝ่าฝืนกฎหมาย การขายราคาต่ำกว่าราคาตลาดไม่ใช่เหตุ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองการที่จะขอให้ศาลยกเลิกการขายทอดตลาดได้ก็ต่อเมื่อปรากฏ ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนบทบัญญัติในลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อตามคำร้องของจำเลยที่ 4 อ้างเหตุแต่เพียงว่าขายได้ราคาต่ำไปจึงไม่เข้าเงื่อนไขตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่อาจจะขอให้ยกเลิกการขายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกเงินค่าใบยาสูบที่เหลือจากการซื้อขาย ไม่ใช่การฟ้องเรียกเงินทดรอง จึงใช้ อายุความ 10 ปี
โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายใบยาสูบแห้งกัน โจทก์จ่ายเงินทดรองให้แก่จำเลยเป็นค่าซื้อใบยาสูบแห้งล่วงหน้า เมื่อจำเลยส่งใบยาสูบแห้งให้โจทก์ก็คิดหักราคากันโดยจำเลยยอมเสียดอกเบี้ยให้โจทก์จากเงินทดรองที่ยังไม่ได้หักหนี้นับแต่วันรับเงินทดรองจนกว่าจะคืนเงินที่เหลือด้วย ต่อมาเมื่อคิดหักหนี้กันแล้วปรากฏว่ายังมีเงินค่าใบยาสูบแห้งที่จำเลยรับล่วงหน้าเหลือและดอกเบี้ย การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยมิใช่เป็นการฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปก่อนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/33(5) ซึ่งมีอายุความ 5 ปี จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตามมาตรา 193/30

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกเงินเหลือจากซื้อขายใบยาสูบ: พิจารณาจากลักษณะการฟ้องเป็นหนี้ค่าของหรือทดรองจ่าย
โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายใบยาสูบแห้งกัน โดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์ เมื่อจำเลยส่งใบยาสูบแห้งให้โจทก์ก็คิดหักราคากัน ต่อมาเมื่อคิดหักหนี้กันแล้ว ปรากฏว่ายังมีเงินค่าใบยาสูบแห้งที่จำเลยรับล่วงหน้าเหลืออยู่และดอกเบี้ย โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยคืนมิใช่เป็นการฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/33 (5) ซึ่งมีอายุความ 5 ปี จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามมาตรา 193/30

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกเงินค่าใบยาสูบที่เหลือหลังหักกลบลบหนี้ ไม่ใช่การฟ้องเรียกเงินทดรองจ่าย
โจทก์จำเลยติดต่อซื้อขายใบยาสูบแห้งกัน โดยจำเลยรับเงินล่วงหน้าไปจากโจทก์ เมื่อจำเลยส่งใบยาสูบแห้งให้โจทก์ก็คิดหักราคากัน ต่อมาเมื่อคิดหักหนี้กันแล้วปรากฏว่ายังมีเงินค่าใบยาสูบแห้งที่จำเลยรับล่วงหน้าเหลืออยู่และดอกเบี้ย โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่เหลือดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยคืนมิใช่เป็นการฟ้องเรียกหนี้ค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/33(5) ซึ่งมีอายุความ 5 ปี จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตามมาตรา 193/30

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1629/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางภารจำยอม/ทางสาธารณะ: จำเลยปิดกั้นทางเดินที่โจทก์ใช้ประโยชน์ต่อเนื่องกว่า 10 ปี โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ทางพิพาทเป็นทางเดินบนคันคลองสาธารณะผ่านที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ทั้งสามโจทก์ทั้งสามและบริวารได้ใช้ทางพิพาทนี้เดินไปมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว โจทก์ทั้งสามจึงได้ภารจำยอมโดยอายุความ หรือมิฉะนั้นทางพิพาทก็เป็นทางสาธารณประโยชน์ที่บุคคลทั่วไปมีสิทธิใช้สอยได้ ถือได้ว่าสภาพของทางพิพาทตามที่โจทก์บรรยายฟ้องมานั้นอาจเป็นได้ทั้งสองกรณี กล่าวคือ หากทางพิพาทเป็นที่ดินของจำเลยก็อาจตกเป็นภารจำยอม หากไม่เป็นที่ดินของจำเลยก็อาจเป็นทางสาธารณะได้ คำบรรยายฟ้องของโจทก์เช่นนี้ไม่ขัดแย้งกันไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
of 96