คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 264

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 438 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1928/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมหลายกระทง แม้ใช้พร้อมกัน แต่เป็นเอกสารคนละประเภท
ป.อ.มาตรา268วรรคสองหมายความว่าความผิดฐานปลอมเอกสารแต่ละกระทงนั้นถ้าผู้ใช้หรืออ้างเอกสารปลอมเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้นก็ให้ลงโทษฐานเป็นผู้ใช้เพียงกระทงเดียว จำเลยปลอมป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถกระทงหนึ่งและปลอมป้ายทะเบียนรถแสดงการจดทะเบียนใช้รถอีกกระทงหนึ่งแม้จำเลยจะได้นำป้ายทั้งสองนี้ไปใช้หรืออ้างในเวลาเดียวกันก็เป็นการใช้เอกสารคนละประเภทกันต้องมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้เอกสารดังกล่าว2กระทง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอม แม้บรรยายฟ้องถูกต้อง แต่คำขอท้ายฟ้องไม่ระบุมาตราที่ใช้ลงโทษ ศาลยกฟ้องได้
การใช้เอกสารปลอมเป็นการกระทำอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ฐานหนึ่ง แม้มาตรา 268 จะบัญญัติว่า ผู้ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดตามมาตรา 264, 265 ฯลฯ ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ ก็ตาม ก็มิใช่จะถือว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานเดียวกันกับความผดนั้น ๆ ฉะนั้นเมื่อโจทก์บรรยายการกระทำผิดในข้อหานี้มาในคำฟ้อง แต่คำขอท้ายฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265 มิได้ระบุมาตรา 268 ด้วย จะถือว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษในข้อหาใช้ป้ายวงกลมแสดงการชำระภาษีรถยนต์และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมแล้วหาได้ไม่ จำเลยมิได้เป็นผู้ทำปลอม แต่เป็นผู้ใช้ป้ายและแผ่นป้ายดังกล่าวปลอม ซึ่งโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษ จึงต้องยกฟ้องข้อหานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมและการขอโทษที่ไม่ครบถ้วนตามกฎหมายอาญามาตรา 268 และ 265
การใช้เอกสารปลอมเป็นการกระทำอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา268ฐานหนึ่งแม้มาตรา268จะบัญญัติว่าผู้ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดตามมาตรา264,265ฯลฯต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆก็ตามก็มิใช่จะถือว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานเดียวกันกับความผดนั้นๆฉะนั้นเมื่อโจทก์บรรยายการกระทำผิดในข้อหานี้มาในคำฟ้องแต่คำขอท้ายฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา264,265มิได้ระบุมาตรา268ด้วยจะถือว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษในข้อหาใช้ป้ายวงกลมแสดงการชำระภาษีรถยนต์และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมแล้วหาได้ไม่จำเลยมิได้เป็นผู้ทำปลอมแต่เป็นผู้ใช้ป้ายและแผ่นป้ายดังกล่าวปลอมซึ่งโจทก์มิได้ขอให้ลงโทษจึงต้องยกฟ้องข้อหานี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3535/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายเวลาเกิดเหตุที่ไม่จำเป็นหากไม่ใช่สาระสำคัญของความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2525 เวลากลางวัน โดยร่วมกันทำหนังสือมอบอำนาจปลอมด้วยการกรอกข้อความเท็จลงในใบมอบอำนาจที่โจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้มอบอำนาจไว้แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นวันเวลาเกิดเหตุส่วนโจทก์จะลงชื่อในใบมอบอำนาจดังกล่าวเมื่อใด และมอบให้จำเลยที่ไหน เมื่อวันเวลาใดนั้น มิใช่วันเวลาที่จำเลยกับพวกกระทำผิด จึงหาใช่สาระสำคัญไม่ โจทก์ไม่จำต้องบรรยายไว้ในฟ้อง ฟ้องของโจทก์ย่อมสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3535/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายวันเวลาเกิดเหตุที่ไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดทั้งหมด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำผิดเมื่อวันที่10 มีนาคม 2525 เวลากลางวันโดยร่วมกันทำหนังสือมอบอำนาจปลอม ด้วยการกรอกข้อความเท็จลงในใบมอบอำนาจที่โจทก์ลงลายมือชื่อ เป็นผู้มอบอำนาจไว้แล้วซึ่งถือว่า เป็นวันเวลาเกิดเหตุส่วนโจทก์ จะลงชื่อในใบมอบอำนาจดังกล่าวเมื่อใดและมอบให้จำเลยที่ไหน เมื่อวันเวลาใดนั้นมิใช่วันเวลาที่จำเลยกับพวกกระทำผิดจึงหาใช่สาระสำคัญไม่โจทก์ไม่จำต้องบรรยายไว้ในฟ้องฟ้องของโจทก์ ย่อมสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารสิทธิเพื่อหลอกลวงสถานกงสุล ถือเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
สมุดคู่ฝากบัญชีออมทรัพย์มีข้อความแสดงว่าผู้ฝากได้ฝากเงินไว้กับธนาคารย่อมเป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งสิทธิแก่ผู้ฝากที่จะเรียกถอนเงินฝากคืน หาใช่เพียงแต่เป็นหลักฐานแสดงฐานะของผู้ฝากไม่ การที่มิได้ทำขึ้นเพื่อใช้ถอนเงินฝากนั้นก็ไม่ทำให้ลักษณะของเอกสารเปลี่ยนแปลงไปจึงเป็นเอกสารสิทธิ การที่จำเลยทำปลอมสมุดคู่ฝากให้แก่ ก. และหนังสือรับรองว่าผู้นั้นเป็นพนักงานของธนาคาร ด้วยเจตนาเดียวกันที่จะใช้เป็นหลักฐานหลอกลวงเจ้าหน้าที่สถานกงสุลฯให้ออกหนังสือผ่านแดนให้แก่ผู้มีชื่อคนนั้น ไม่ว่าจำเลยจะปลอมเอกสารนั้นพร้อมกันหรือคนละคราว ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2481/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกรอกเอกสารที่มีลายมือชื่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม ไม่เป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร หากไม่มีเจตนาทุจริตและไม่เกิดความเสียหาย
การกรอกข้อความลงในเอกสารซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมหรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่น จะถือว่าเป็นการปลอมเอกสารก็ต่อเมื่อได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชนการที่จำเลยกรอกข้อความในตราสารการโอนหุ้นซึ่งโจทก์ลงลายมือชื่อไว้แล้ว โดยไม่ได้รับคำสั่งหรือความยินยอมของโจทก์ และโอนหุ้นของโจทก์ที่มิได้สั่งขายไปเป็นของบุคคลอื่น เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของโจทก์และโจทก์มิได้เสียหายทั้งไม่ปรากฏว่าอาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิหรือใช้เอกสารสิทธิปลอม จำเลยทำตราสารการโอนหุ้นขึ้นเองทั้งฉบับโอนขายหุ้นของโจทก์ไปโดยโจทก์มิได้เสียหาย ถึงแม้โจทก์จะมิได้สั่ง หรือให้ความยินยอม จำเลยก็มิได้ทำปลอมเอกสารของผู้ใด การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม โจทก์สั่งให้จำเลยซื้อหุ้น 2,000 หุ้น ต่อมาจำเลยขายหุ้นนั้น 1,000 หุ้นตามคำสั่งของโจทก์ ที่ปรากฏในทะเบียนผู้ถือหุ้นว่ามีการขายหุ้นของโจทก์ไป 2,000 หุ้น เป็นเรื่องทางปฏิบัติในการซื้อขายหุ้นโดยจำเลยจะนำหุ้นของโจทก์ไปโอนให้แก่บุคคลอื่นก่อน เมื่อโอนแล้วจำเลยก็ได้รับรองหุ้นของโจทก์ที่เหลืออยู่ทั้งต่อมาโจทก์ก็ได้รับหุ้น 1,000 หุ้นไปจากจำเลยแล้ว จำเลยไม่มีเจตนาทุจริต แม้จะดำเนินการโอนหุ้นไปโดยพลการก็ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยอมความคดีฉ้อโกง: ผลกระทบต่อการฟ้องร้องและการบังคับชำระหนี้
ผู้เสียหายมีหนังสือถึงจำเลยมีใจความว่าผู้เสียหายได้รับเงิน จำนวน 10,000 บาทจากจำเลยเป็นค่าชดใช้เงินที่ได้ฉ้อโกงไปจาก ผู้เสียหาย ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจแล้วผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ดังกล่าว อีกต่อไปดังนี้ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ตกลงยอมความกัน โดยถูกต้องตามกฎหมายแล้วความผิดฐานฉ้อโกงตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา341 เป็นความผิดอันยอมความกันได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) ลงโทษจำเลย ในความผิดฐานนี้ไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับจำเลย ใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย
ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 268นั้น ไม่ใช่ความผิดอันยอมความได้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ ย่อมไม่ระงับเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารและ ใช้เอกสารที่ตนปลอมนี้ด้วยกรณีเช่นนี้มาตรา 268 วรรคสอง บัญญัติให้ลงโทษตาม มาตรา 268 แต่กระทงเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความในคดีอาญาฐานฉ้อโกง ย่อมระงับสิทธิฟ้องคดีฐานฉ้อโกงได้ แต่ไม่กระทบความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร
ผู้เสียหายมีหนังสือถึงจำเลยมีใจความว่า ผู้เสียหายได้รับเงิน จำนวน 10,000 บาทจากจำเลยเป็นค่าชดใช้เงินที่ได้ฉ้อโกงไปจากผู้เสียหาย ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจแล้วผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ดังกล่าวอีกต่อไป ดังนี้ ถือได้ว่าผู้เสียหายและจำเลยได้ตกลงยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ความผิดฐานฉ้อโกงตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 เป็นความผิดอันยอมความกันได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ลงโทษจำเลย ในความผิดฐานนี้ไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย
ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 268 นั้น ไม่ใช่ความผิดอันยอมความได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมไม่ระงับเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารและใช้เอกสารที่ตนปลอมนี้ด้วยกรณีเช่นนี้มาตรา 268 วรรค 2 บัญญัติให้ลงโทษตาม มาตรา 268 แต่กระทงเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีอาญา: การฟ้องและได้ตัวผู้ต้องหามายังศาลเป็นสำคัญ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 นั้น ต้องฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลแล้ว อายุความจึงจะหยุดนับ บทบัญญัติตามมาตรานี้ไม่ได้ใช้บังคับในกรณีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์เท่านั้น ในกรณีที่ราษฎรเป็นโจกท์ก็ต้องถือหลักอย่างเดียวกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เหตุเกิดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2507 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2514 ความผิดของจำเลยที่โจทก์ฟ้องมีอายุความสิบปี โจทก์จะต้องฟ้องและได้ตัวจำเลยผู้กระทำผิดมายังศาลภายในวันที่ 30 มีนาคม 2524 คดีจึงจะไม่ขาดอายุความ โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยวันที่ 30 มีนาคม 2524 แต่ศาลชั้นต้นต้องทำการไต่สวนมูลฟ้องของโจทก์ต่อไป ระหว่างนั้นจะถือว่าได้ตัวจำเลยมายังศาลและจำเลยอยู่ในอำนาจศาลแล้วไม่ได้ อายุความยังไม่หยุดนับศาลชั้นต้นสั่งคดีมีมูล หมายเรียกจำเลยแก้คดีและได้ตัวจำเลยมาพิจารณาเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2524 เกินสิบปีนับแต่วันที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดคดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1735/2514 ประชุมใหญ่)
of 44