พบผลลัพธ์ทั้งหมด 438 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ป้ายทะเบียนและหมายเลขเครื่องยนต์ปลอม แม้ข้อหาปลอมเอกสารไม่成立 แต่ยังมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
จำเลยเอาป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ส.ฎ.00890 ของรถยนต์ยี่ห้อเฟียตมาติดใช้กับรถยนต์ของกลาง เมื่อป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นเอกสารแท้จริงที่ราชการทำขึ้นไม่ใช่เอกสารปลอม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารและการที่จำเลยนำป้ายทะเบียนนั้นมาใช้กับรถยนต์ของกลางเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน ส.ฎ.00890. จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
จำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลาง 215173 เป็นเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม แล้วจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปตรวจเครื่องยนต์แสดงว่ามีเลขหมายนั้นต่อเจ้าหน้าที่และนำไปขายแก่ผู้อื่น จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม แม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ของห้าง ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าเลขจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่นข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
จำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลาง 215173 เป็นเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม แล้วจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปตรวจเครื่องยนต์แสดงว่ามีเลขหมายนั้นต่อเจ้าหน้าที่และนำไปขายแก่ผู้อื่น จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม แม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ของห้าง ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าเลขจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่นข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ป้ายทะเบียนและหมายเลขเครื่องยนต์ปลอม แม้ข้อกล่าวหาบางส่วนไม่ฟังได้ ศาลยังลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมได้
จำเลยเอาป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ส.ฎ. 00890 ของรถยนต์ยี่ห้อเฟียตมาติดใช้กับรถยนต์ของกลาง เมื่อป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นเอกสารแท้จริงที่ราชการทำขึ้น ไม่ใช่เอกสารปลอมจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสาร และการที่จำเลยนำป้ายทะเบียนนั้นมาใช้กับรถยนต์ของกลางเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน ส.ฎ. 00890 จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
จำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลาง 215173 เป็นเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม แล้วจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปตรวจเครื่องยนต์แสดงว่ามีเลขหมายนั้นต่อเจ้าหน้าที่และนำไปขายแก่ผู้อื่น จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม แม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ ของห้าง ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่า เลขจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่น ข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
จำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลาง 215173 เป็นเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม แล้วจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปตรวจเครื่องยนต์แสดงว่ามีเลขหมายนั้นต่อเจ้าหน้าที่และนำไปขายแก่ผู้อื่น จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม แม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ ของห้าง ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่า เลขจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่น ข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสาร-ช่วยเหลือคนต่างด้าว: กรรมเดียวผิดหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำเลยลงชื่อและลงวันที่ย้อนหลังในทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้านเป็นการกระทำในระหว่างที่จำเลยย้ายไปรับราชการที่อำเภออื่นแล้ว จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่อย่างใดที่กิ่งอำเภอเดิมอีก และการลงวันที่ย้อนหลังนั้น จำเลยมีเจตนาให้เห็นว่าบุคคลเข้ามามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านระหว่างที่จำเลยรับราชการอยู่ที่กิ่งอำเภอเดิม ซึ่งไม่เป็นความจริงการกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารราชการ และเมื่อจำเลยนำเอกสารดังกล่าวไปอ้างและแสดงต่อ ฉ. เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวประชาชน จน ฉ. เชื่อว่าเป็นความจริงจึงได้ถ่ายภาพและออกใบแทนบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บุคคลนั้นไป ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้เอกสารราชการปลอมแล้ว
จ.เป็นคนสัญชาติลาวและจำเลยพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นการช่วยเหลือคนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมิให้ถูกจับกุม
การที่จำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารก็ดี ใช้เอกสารปลอมก็ดีก็เพื่อช่วยเหลือคนต่างด้าวให้มีบัตรประจำตัวเช่นเดียวกับคนสัญชาติไทย ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานช่วยเหลือคนต่างด้าวเพื่อมิให้ถูกจับกุมอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 63 อีกบทหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย มาตรา 265 ซึ่งเป็นบทหนัก
จ.เป็นคนสัญชาติลาวและจำเลยพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นการช่วยเหลือคนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมิให้ถูกจับกุม
การที่จำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารก็ดี ใช้เอกสารปลอมก็ดีก็เพื่อช่วยเหลือคนต่างด้าวให้มีบัตรประจำตัวเช่นเดียวกับคนสัญชาติไทย ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานช่วยเหลือคนต่างด้าวเพื่อมิให้ถูกจับกุมอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 63 อีกบทหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย มาตรา 265 ซึ่งเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ-ช่วยเหลือคนต่างด้าว: กรรมเดียวผิดหลายบท
จำเลยลงชื่อและลงวันที่ย้อนหลังในทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้านเป็นการกระทำในระหว่างที่จำเลยย้ายไปรับราชการที่อำเภออื่นแล้ว จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่อย่างใดที่กิ่งอำเภอเดิมอีก และการลงวันที่ย้อนหลังนั้นจำเลยมีเจตนาให้เห็นว่าบุคคลเข้ามามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านระหว่างที่จำเลยรับราชการอยู่ที่กิ่งอำเภอเดิมซึ่งไม่เป็นความจริง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารราชการ และเมื่อจำเลยนำเอกสารดังกล่าวไปอ้างและแสดงต่อ ฉ. เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวประชาชน จน ฉ. เชื่อว่าเป็นความจริงจึงได้ถ่ายภาพและออกใบแทนบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บุคคลนั้นไป ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้เอกสารราชการปลอมแล้ว
จ. เป็นคนสัญชาติลาวและจำเลยพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นการช่วยเหลือคนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมิให้ถูกจับกุม
การที่จำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารก็ดี ใช้เอกสารปลอมก็ดี ก็เพื่อช่วยเหลือคนต่างด้าวให้มีบัตรประจำตัวเช่นเดียวกับคนสัญชาติไทย ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานช่วยเหลือคนต่างด้าวเพื่อมิให้ถูกจับกุมอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 มาตรา 63 อีกบทหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย มาตรา 265ซึ่งเป็นบทหนัก
จ. เป็นคนสัญชาติลาวและจำเลยพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นการช่วยเหลือคนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมิให้ถูกจับกุม
การที่จำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารก็ดี ใช้เอกสารปลอมก็ดี ก็เพื่อช่วยเหลือคนต่างด้าวให้มีบัตรประจำตัวเช่นเดียวกับคนสัญชาติไทย ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานช่วยเหลือคนต่างด้าวเพื่อมิให้ถูกจับกุมอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 มาตรา 63 อีกบทหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย มาตรา 265ซึ่งเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดลิขสิทธิ์และการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า: จำเลยพิมพ์ปกหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์และใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยพิมพ์ปกหนังสือแบบเรียนซึ่งเป็นหนังสือที่โจทก์ร่วมมีลิขสิทธิ์ขึ้นมีจำนวนถึง 5,000 แผ่น แสดงว่าเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพิมพ์คัดลอกหนังสือแบบเรียนนั้นขึ้นใหม่ทั้งเล่มเพื่อขาย การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้โดยเฉพาะหาใช่ลักษณะของการทำเอกสารปลอมไม่ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แต่การที่จำเลยเอาเครื่องหมายอักษร "ประชาช่าง" อยู่ภายในวงกลมของโจทก์ร่วมมาพิมพ์ไว้ที่ปกหนังสือของกลาง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าหนังสือที่ใช้ปกดังกล่าวเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมนั้น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิมพ์ปกหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์และการใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยพิมพ์ปกหนังสือแบบเรียนซึ่งเป็นหนังสือที่โจทก์ร่วมกันมีลิขสิทธิ์ขึ้นมีจำนวนถึง 5,000 แผ่น แสดงว่าเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพิมพ์เพื่อคัดลอกหนังสือแบบเรียนนั้นขึ้นใหม่ทั้งเล่มเพื่อขาย การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดไว้โดยเฉพาะ หาใช่ลักษณะของการทำเอกสารปลอมไม่ จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แต่การที่จำเลยเอาเครื่องหมายอักษร "ประชาช่าง" อยู่ภายในวงกลมของโจทก์ร่วมมาพิมพ์ไว้ที่ปกหนังสือของกลาง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าหนังสือที่ใช้ปกดังกล่าวเป้นสินค้าของโจทก์ร่วมนั้น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3297/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เจ้าหน้าที่เบียดบังเงินวัด ศาลฎีกาพิพากษากลับ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลรักษาเอกสารเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินของวัด ได้บังอาจร่วมกันปลอมเอกสารคือใบเสร็จรับเงินของคณะกรรมการวัดขึ้นทั้งฉบับ เพื่อรับเงินบำรุงวัดไปโดยอาศัยที่ตนมีหน้าที่นั้น และจำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันเบียดบังเอาเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตนเองโดยทุจริต อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กรรมการวัดและเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงศึกษาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาชนทั่วไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 และ 161 ดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 ไว้ครบถ้วนและประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดดังกล่าวด้วย เมื่อได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารตาม-มาตรา 264 ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องไว้ จึงลงโทษจำเลยตามมาตราดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3297/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานปลอมเอกสารครบถ้วน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลรักษาเอกสารเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินของวัด ได้บังอาจร่วมกันปลอมเอกสารคือใบเสร็จรับเงินของคณะกรรมการวัดขึ้นทั้งฉบับ เพื่อรับเงินบำรุงวัดไปโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และจำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันเบียดบังเอาเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตนเองโดยทุจริต อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กรรมการวัด และเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงศึกษาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาชนทั่วไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 และ161ดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 ไว้ครบถ้วน และประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดดังกล่าวด้วย เมื่อได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องไว้ จึงลงโทษจำเลยตามมาตราดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการปลอมเอกสารราชการ แม้ไม่ได้ลงมือเองก็มีผิดฐานร่วมกันปลอมแปลง
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อและรับเงินจากผู้ต้องการได้ประกาศนียบัตรปลอม กับจดชื่อวันเดือนปีเกิดของผู้นั้นให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ไปติดต่อกับคนที่ปลอมเอกสาร เมื่อได้เงินมาก็แบ่งปันกัน ดังนี้ แม้จำเลยทั้งสองมิได้ลงมือกระทำการปลอมเองก็ตาม แต่ก็เป็นที่เห็นได้ชัดแจ้งว่าได้ร่วมกันกับคนที่ทำปลอมขึ้นโดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยทั้งสองจึงต้องมีความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารราชการด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2497/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารราชการ แม้ไม่ได้ลงมือปลอมเอง แต่มีส่วนร่วมในการแบ่งหน้าที่และรับเงิน
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อและรับเงินจากผู้ต้องการได้ประกาศนียบัตรปลอมกับจดชื่อวันดือนปีเกิดของผู้นั้นให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ไปติดต่อกับคนที่ปลอมเอกสาร เมื่อได้เงินมาก็แบ่งปันกัน ดังนี้ แม้จำเลยทั้งสองมิได้ลงมือกระทำการปลอมเองก็ตาม แต่ก็เป็นที่เห็นได้ชัดแจ้งว่าได้ร่วมกันกับคนที่ทำปลอมขึ้นโดยแล่งหน้าที่ทำกันทำ จำเลยทั้งสองจึงต้องมีความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารราชการด้วย