คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 264

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 438 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงเอกสารสิทธิ (ใบเสร็จ) และยักยอกทรัพย์โดยพนักงานของรัฐ ฎีกาชี้ว่าฟ้องสมบูรณ์และมีความผิดตามกฎหมาย
แม้โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีทุนทั้งหมดหรือทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐ แต่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ซึ่งเรียกโดยย่อว่า "ร.ส.พ." ก็จัดขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ พ.ศ.2496 ซึ่งมาตรา 9 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวบัญญัติว่า "ให้กำหนดทุนของ ร.ส.พ.เป็นจำนวนเงินห้าสิบล้านบาทโดยรัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิมสิบล้านบาทและจ่ายเพิ่มเติมเป็นคราว ๆ ตามจำนวนที่รัฐบาลเห็นสมควร" และทางราชการได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีทุนห้าสิบล้านบาทโดยทุนทั้งหมดเป็นของรัฐ ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
จำเลยเป็นพนักงานประเภทประจำขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อันเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล มีหน้าที่ช่วยงานในการถ่ายภาพเอ๊กซเรย์ฯ รับเงินค่าเอ๊กซเรย์และออกใบเสร็จรับเงินด้วย จำเลยจึงเป็นพนักงานตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3 เมื่อจำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์จากผู้ที่มาเอ๊กซเรย์รายละ 35 บาทแล้ว จำเลยก็เขียนจำนวนเงินและวันเดือนปีที่รับเงินในใบเสร็จรับเงินท่อนแรกที่เป็นต้นฉบับและมอบให้แก่ผู้ชำระเงินไปตามความจริง ภายหลังจำเลยจึงเขียนใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองและท่อนที่สามที่เป็นสำเนา โดยเขียนจำนวนเงินน้อยลงกว่าที่ได้รับและเขียนวันเดือนปีที่ได้รับไม่ตรงความจริง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินอันเป็นเอกสารสิทธิ ต่อมาจำเลยใช้สำเนาใบเสร็จรับเงินที่จำเลยปลอมขึ้นไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์เพื่อแสดงว่าจำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์ไว้เท่าจำนวนที่ปรากฏในสำเนาใบเสร็จรับเงินปลอม จึงเป็นการใช้เอกสารสิทธิปลอมและยักยอกเบียดบังเงินค่าเอ๊กซเรย์ส่วนที่เหลือจากนำส่งเจ้าหน้าที่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ แต่การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ป้ายเลขทะเบียนปลอมเป็นความผิดทางอาญา
ป้ายเลขทะเบียนรถยนต์มิใช่ป้ายของเจ้าพนักงานที่จัดให้ไว้กับตัวรถ แต่เป็นป้ายเลขทะเบียนรถปลอมผู้ใช้ติดกับรถยนต์มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265,268วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดเดียว: ใช้ตราปลอม-ใบเบิกทางปลอมเพื่อเลี่ยงการจับกุมไม้ผิดกฎหมาย
การที่จำเลยใช้รอยตราปลอมและใช้ใบเบิกทางปลอมในคราวเดียวกันและด้วยเจตนาอย่างเดียวกัน คือเพื่อให้การบรรทุกไม้ของกลางของจำเลยรอดพ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงาน นั้น เป็นความผิดกรรมเดียวกัน มิใช่เป็นความผิดคนละกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดเดียว: ใช้ตราปลอม-ใบเบิกทางปลอม เจตนาเดียวกันเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม
การที่จำเลยใช้รอยตราปลอมและใช้ใบเบิกทางปลอมในคราวเดียวกัน และด้วยเจตนาอย่างเดียวกัน คือเพื่อให้การบรรทุกไม้ของกลางของจำเลยรอดพ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงานนั้น เป็นความผิดกรรมเดียวกัน มิใช่เป็นความผิดคนละกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารโดยมิได้สอบปากคำ และการลงโทษตามมาตราที่ถูกต้อง
จำเลยเขียนบันทึกคำให้การนายจุ้นฮองผู้ขอหนังสือเดินทางโดยมิได้สอบปากคำ ทั้งลงลายมือชื่อนายจุ้นฮองเอาเอง เพื่อให้ทางราชการหลงเชื่อว่าเป็นคำให้การนายจุ้นฮอง ทำให้เสียหายแก่ราชการกรมตำรวจ และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แม้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยปลอมเอกสารราชการ ขอให้ลงโทษตามมาตรา 265 เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าเอกสารที่จำเลยทำปลอมไม่ใช่เอกสารราชการ ศาลจึงลงโทษตามมาตรา 264 ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าได้ และไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารโดยมิได้สอบปากคำและลงลายมือชื่อผู้อื่น ทำให้เสียหายแก่ราชการ
จำเลยเขียนบันทึกคำให้การนายจุ้นฮองผู้ขอหนังสือเดินทางโดยมิได้สอบปากคำทั้งลงลายมือชื่อนายจุ้นฮองเอาเอง เพื่อให้ทางราชการหลงเชื่อว่าเป็นคำให้การนายจุ้นฮองทำให้เสียหายแก่ราชการกรมตำรวจ และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 แม้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยปลอมเอกสารราชการ ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 265 เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าเอกสารที่จำเลยทำปลอมไม่ใช่เอกสารราชการ ศาลก็ลงโทษตาม มาตรา 264 ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าได้และไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร แม้เอกสารนั้นมิได้ถูกนำไปใช้ แต่เจตนาในการทำขึ้นเพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจริงก็ถือเป็นความผิด
จำเลยได้รับทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นตามที่เจ้าพนักงานตำรวจได้วางแผนเพื่อจับกุม และเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านปลอมดังกล่าว เป็นของกลางซึ่งจำเลยฉีดขาดขณะจับกุม ดังนี้ แม้สำเนาทะเบียนบ้านปลอมนั้นจะมิได้นำไปใช้ในกิจการที่จำเลยทำและไม่มีผู้ใดเจตนานำไปใช้ก็ดี แต่ในการทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นที่พึงเห็นได้ว่า จำเลยได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงอยู่ในตัว การกระทำของจำเลยจึงเข้าองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารโดยมีเจตนาให้หลงเชื่อ แม้ไม่ได้ใช้จริงก็เป็นความผิด
จำเลยได้รับทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นตามที่เจ้าพนักงานตำรวจได้วางแผนเพื่อจับกุม และเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านปลอมดังกล่าวเป็นของกลางซึ่งจำเลยฉีกขาดขณะจับกุมดังนี้ แม้สำเนาทะเบียนบ้านปลอมนั้นจะมิได้นำไปใช้ในกิจการที่จำเลยทำและไม่มีผู้ใดเจตนานำไปใช้ก็ดี แต่ในการทำสำเนาทะเบียนบ้านปลอมขึ้นที่พึงเห็นได้ว่า จำเลยได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงอยู่ในตัว การกระทำของจำเลยจึงเข้าองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขแบบแสดงรายการภาษีบำรุงท้องที่โดยลบชื่อผู้ยื่นเดิมและใส่ชื่อใหม่ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากเอกสารใหม่แสดงข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือ
โจทก์ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.6)ไว้ต่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับมอบหมายให้รับแจ้งแบบสำรวจเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันแก้ไขแบบ ภ.บ.ท.6 นี้ โดยลบชื่อโจทก์ในช่องผู้ชี้เขตออก แล้วจำเลยที่ 2 เขียนชื่อจำเลยที่ 1 ลงแทนชื่อโจทก์ และลบลายมือชื่อโจทก์ที่ลงไว้ในช่องผู้ชี้เขต ผู้ยื่น ออก แล้วจำเลยที่ 1พิมพ์ลายนิ้วมือของตนลงแทน เมื่อดูเอกสารที่ถูกแก้ไขนี้แล้ว ย่อมเห็นได้ว่า เอกสารฉบับนี้ได้เปลี่ยนสภาพเป็น ภ.บ.ท.6 ที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ยื่น ซึ่งตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือที่แท้จริงที่จำเลยที่ 1 ได้ลงเป็นผู้ยื่นไว้ ไม่มีทางให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อในเรื่องชื่อและลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 1 เป็นอย่างอื่นไปได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเอกสาร ภ.บ.ท.๖ ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากเอกสารใหม่แสดงข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้
โจทก์ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.6) ไว้ต่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับมอบหมายให้รับแจ้งแบบสำรวจเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันแก้ไขแบบ ภ.บ.ท.6 นี้ โดยลบชื่อโจทก์ในช่องผู้ชี้เขตออก แล้วจำเลยที่ 2 เขียนชื่อจำเลยที่ 1 ลงแทนชื่อโจทก์ และลบลายมือชื่อโจทก์ที่ลงไว้ในช่องผู้ชี้เขต - ผู้ยื่นออก แล้วจำเลยที่ 1 พิมพ์ลายนิ้วมือของตนลงแทน เมื่อดูเอกสารที่ถูกแก้ไขนี้แล้ว ย่อมเห็นได้ว่า เอกสารฉบับนี้ได้เปลี่ยนสภาพเป็น ภ.บ.ท.6 ที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ยื่น ซึ่งตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือที่แท้จริงที่จำเลยที่ 1 ได้ลงเป็นผู้ยื่นไว้ไม่มีทางให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อในเรื่องชื่อและลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 1 เป็นอย่างอื่นไปได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
of 44