พบผลลัพธ์ทั้งหมด 676 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: อำนาจฟ้องของพนักงานสอบสวน และผลของการถอนฟ้องคดีอาญาต่อความรับผิดตามสัญญา
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหากับพนักงานสอบสวน โดยมีว. พนักงานสอบสวนเป็นผู้รับสัญญาเป็นตัวแทนคู่สัญญากับจำเลยเมื่อจำเลยผิดสัญญาประกัน ช. สารวัตรใหญ่ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยตามสัญญาประกันได้ จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของโจทก์และสัญญาว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาให้โจทก์ตามกำหนดนั้น แม้ต่อมาผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์ในคดีนั้นซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวก็หาเป็นเหตุให้จำเลยซึ่งเป็นนายประกันพ้นความรับผิดตามสัญญาประกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายประกัน แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง และอำนาจฟ้องของพนักงานสอบสวน
ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ผิดสัญญาประกัน ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหาย และค่าปรับที่ศาลอุทธรณ์กำหนดสูงเกินสมควรนั้น เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทจึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหากับพนักงานสอบสวนสถานี-ตำรวจนครบาลบางเขน โดยมีร้อยตำรวจเอก ว. ผู้รับสัญญาเป็นตัวแทนคู่สัญญากับจำเลย เมื่อจำเลยผิดสัญญาประกัน พันตำรวจโท ช. สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของโจทก์และสัญญาว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาให้โจทก์ตามกำหนดนัด แม้ต่อมาผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์ ในคดีนั้นซึ่งเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ก็หาเป็นเหตุให้จำเลย ซึ่งเป็นนายประกันพ้นจากความรับผิดตามสัญญาประกันไม่
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหากับพนักงานสอบสวนสถานี-ตำรวจนครบาลบางเขน โดยมีร้อยตำรวจเอก ว. ผู้รับสัญญาเป็นตัวแทนคู่สัญญากับจำเลย เมื่อจำเลยผิดสัญญาประกัน พันตำรวจโท ช. สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
จำเลยทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของโจทก์และสัญญาว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาให้โจทก์ตามกำหนดนัด แม้ต่อมาผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์ ในคดีนั้นซึ่งเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ก็หาเป็นเหตุให้จำเลย ซึ่งเป็นนายประกันพ้นจากความรับผิดตามสัญญาประกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ: ผู้เช่าซื้อไม่ต้องชำระภาษีการค้าจากการดัดแปลงก่อนทำสัญญา หากสัญญามิได้ระบุ
ตามสัญญาเช่าซื้อระบุให้ผู้เช่าซื้อต้องชำระภาษีอากรใด ๆค่าภาษีรถยนต์ประจำปี และภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์คันที่เช่าซื้อทุกชนิด และถ้าผู้เช่าซื้อดัดแปลงทรัพย์สินที่เช่าซื้อเป็นเหตุให้ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นผู้เช่าซื้อยอมชำระภาษีนั้นโดยตรงฝ่ายเดียว แต่ยังมิได้ระบุให้ผู้เช่าซื้อต้องชำระค่าภาษีในกรณีทำการดัดแปลงทรัพย์สินที่เช่าซื้อมาก่อนทำสัญญา ดังนั้นจำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อและจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องชำระภาษีการค้าและดอกเบี้ยในกรณีดังกล่าวแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งข้อเท็จจริงเรื่องการใช้ดินระเบิดในการยิงปืน เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายตาม ป.อ. มาตรา 376
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยิงปืนในหมู่บ้านและทางสาธารณะในเวลากลางคืน อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 376ถือได้ว่าศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงโดยปริยายแล้วว่าจำเลยยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดที่จำเลยฎีกาว่าข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังมานั้นยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 376 นั้น ก็เพื่อประสงค์จะให้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ว่าจำเลยยิงปืนซึ่งไม่ได้ใช้ดินระเบิด อันเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้แย้งการใช้ดินระเบิดในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยิงปืนในหมู่บ้านและทางสาธารณะในเวลากลางคืน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376 ถือได้ว่าศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงโดยปริยายแล้วว่าจำเลยยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดที่จำเลยฎีกาว่าข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังมานั้นยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376 นั้น ก็เพื่อประสงค์จะให้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ว่าจำเลยยิงปืนซึ่งไม่ได้ใช้ดินระเบิดอันเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ที่ขัดกับคำพิพากษาศาลล่างในคดีอาญา
จำเลยฎีกาอ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองว่า จำเลยยิงปืนในหมู่บ้านและทางสาธารณะในเวลากลางคืน ข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376 เพราะไม่ได้ความว่าปืนที่ใช้ยิงนั้นเป็นปืนซึ่งใช้ดินระเบิดด้วย การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376ถือว่า ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงโดยปริยายแล้วว่าจำเลยยิงปืนที่ใช้ดินระเบิด ดังนี้ ฎีกาจำเลยจึงประสงค์จะให้ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่ว่าจำเลยยิงปืนซึ่งไม่ได้ใช้ดินระเบิด อันเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองได้วินิจฉัยเป็นยุติ ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวจะครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376 หรือไม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับสิทธิฟ้องคดีอาญาเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องคดีก่อนหน้า แม้เป็นการยกฟ้องเนื่องจากไม่มีพยาน
โจทก์ร่วมเคยยื่นฟ้องจำเลยในความผิดกรณีเดียวกันนี้ต่อศาลชั้นต้น ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องทนายโจทก์คดีดังกล่าวแถลงต่อศาลว่าไม่มีพยานมาสืบ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันความผิดของจำเลย คดีจึงไม่มีมูลและพิพากษายกฟ้องซึ่งมีผลเช่นเดียวกับการพิพากษายกฟ้องโดยศาลเห็นว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคแรกจึงถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้พิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว สิทธินำคดีอาญานี้มาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) หาใช่เป็นคดีที่ศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าวพิพากษายกฟ้องโดยโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคแรก ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ กรณีระบุสภาพรถเสียหายในคำฟ้อง แม้ไม่ได้บรรยายรายละเอียด ศาลฎีกาเห็นว่าไม่เคลือบคลุม
โจทก์กล่าวในคำฟ้องเกี่ยวกับการที่โจทก์ยึดรถยนต์ซึ่งให้จำเลยที่ 1 เช่าซื้อคืนมาได้ในสภาพเสียหายมาก เนื่องจากใช้โดยปราศจากความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชน โจทก์นำรถยนต์ดังกล่าวออกให้ผู้อื่นเช่าซื้อไปในราคา 460,000 บาท ยังขาดราคาค่าเช่าซื้ออยู่อีก 295,416 บาท โจทก์เรียกค่าเสียหายส่วนนี้จากผู้เช่าซื้อตามสัญญาข้อ 9 เป็นคำฟ้องที่บังคับให้ผู้เช่าซื้อชำระราคาค่าเช่าซื้อส่วนที่ขาดอยู่ โดยอาศัยสัญญาเช่าซื้อข้อ 9 แม้มิได้บรรยายถึงว่า รถยนต์ที่ยึดคืนมาได้มีสภาพชำรุดเสียหายอย่างใด ก็ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ใช่สภาพแห่งข้อหาไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่เกินกำหนดหลังทราบเรื่องฟ้อง พ้นระยะเวลาตามกฎหมาย
คำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลยอ้างว่า จำเลยเพิ่งทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องในวันที่จำเลยมาขอตรวจสำนวนที่ศาล ย่อมถือได้ว่าพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ดังกล่าวสิ้นสุดลงแล้วในวันที่จำเลยทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง กรณีตกอยู่ในบังคับ ป.วิ.พ.มาตรา 208 วรรคแรก ที่จำเลยต้องยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้สิ้นสุดลงเมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ล่วงพ้นระยะเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลเมื่อหุ้นส่วนตาย และการมีอำนาจร้องขอตั้งผู้ชำระบัญชี
หุ้นส่วนผู้จัดการในห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลตายหุ้นส่วนอื่นที่คงเหลืออยู่เพียงแต่ได้แสดงเจตนาจะขอซื้อหุ้นของหุ้นส่วนดังกล่าว กรณียังไม่เป็นการรับซื้อหุ้นของหุ้นส่วนที่ตาย ตามบทบัญญัติ ป.พ.พ. มาตรา1060 ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลจึงเป็นอันเลิกกันและต้องมีการชำระบัญชีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 1069,1055(5) ผู้จัดการมรดกของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ตาย เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคสอง มีอำนาจร้องขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนนั้นได้