พบผลลัพธ์ทั้งหมด 676 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1349/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองกัญชาเพื่อจำหน่ายและขอบเขตการปรับบทลงโทษตามพ.ร.บ.ยาเสพติด
ฎีกาจำเลยที่ว่า ตามฟ้องและทางนำสืบของโจทก์ได้ความว่าจำเลยมีกัญชาน้ำหนักเพียง 15.90 กรัม แต่ตามมาตรา 26 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 กำหนดว่าต้องมีกัญชาไว้ในครอบครองมีปริมาณถึง 10 กิโลกรัม ขึ้นไป จึงจะให้ถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 26 วรรคสอง และ76 วรรคสอง นั้น เป็นฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่าจำเลยมีกัญชาจำนวน 15.90 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลย ครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 76 วรรคสอง ดังกล่าวหรือไม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีจำเลยจึงไม่อาจฎีกาในปัญหาดังกล่าวได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จำเลยมีความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายสถานเดียว อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 76 วรรคสอง เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามบทมาตราดังกล่าวแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรับบทลงโทษ จำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 26 วรรคแรก และ 76 วรรคแรกอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อหาความผิดอาญา พนักงานสอบสวนไม่จำเป็นต้องแจ้งทุกข้อหาหากแจ้งความผิดหลักแล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 กำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาก็เพื่อประสงค์ให้ผู้ต้องหาทราบว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิด และให้ผู้ต้องหาเข้าใจถึงการกระทำของผู้ต้องหาซึ่งเป็นความผิดโดยไม่ต้องระบุตัวบทกฎหมายที่ผู้ต้องหากระทำผิด ในกรณีการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทก็ไม่ต้องระบุกฎหมายที่เป็นความผิดทุกบททุกมาตรา หากได้แจ้งข้อหาอันเป็นหลักความผิดทั่วไปแล้วไม่จำต้องแจ้งข้อหาความผิดอันเกี่ยวพันกันด้วย พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนได้ทุกข้อหา พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาว่าจำเลยพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยไม่แจ้งว่าจำเลยมิได้รับใบอนุญาตด้วย ก็มีอำนาจสอบสวนความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อหาความผิดเกี่ยวพัน พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนความผิดอื่นได้ แม้ไม่แจ้งข้อหาโดยเฉพาะ
ที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134กำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหานั้นก็เพื่อประสงค์ให้ผู้ต้องหาทราบว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิด และเพื่อให้ผู้ต้องหาเข้าใจถึงการกระทำของผู้ต้องหาซึ่งเป็นความผิดนั้น โดยไม่ต้องระบุอ้างถึงตัวบทกฎหมายที่ผู้ต้องหากระทำผิด ในกรณีที่การกระทำอันหนึ่งผิดกฎหมายหลายบท พนักงานสอบสวนไม่จำต้องระบุถึงกฎหมายที่เป็นความผิดทุกบทมาตรา ในเมื่อได้แจ้งข้อหาอันเป็นหลักความผิดทั่วไปแล้ว ไม่จำต้องแจ้งข้อหาความผิดอันเกี่ยวพันกันด้วย พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนความผิดทุกข้อหาได้ เมื่อพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาว่า จำเลยพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรแล้วแม้ไม่แจ้งข้อหาว่าพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตด้วย ก็มีอำนาจสอบสวนความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตได้ ถือได้ว่ามีการสอบสวนความผิดฐานนี้แล้ว พนักงานอัยการย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดดังกล่าวได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อหาความผิด – ไม่จำเป็นต้องระบุทุกบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ที่ ป.วิ.อ. มาตรา 134 กำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหานั้นก็เพื่อประสงค์ให้ผู้ต้องหาทราบว่าการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิด และเพื่อให้ผู้ต้องหาเข้าใจถึงการกระทำของผู้ต้องหาซึ่งเป็นความผิดนั้น โดยไม่ต้องระบุอ้างถึงตัวบทกฎหมายที่ผู้ต้องหากระทำผิด ในกรณีที่การกระทำอันหนึ่งผิดกฎหมายหลายบท พนักงานสอบสวนไม่จำต้องระบุถึงกฎหมายที่เป็นความผิดทุกบทมาตรา ในเมื่อได้แจ้งข้อหาอันเป็นหลักความผิดทั่วไปแล้ว ไม่จำต้องแจ้งข้อหาความผิดอันเกี่ยวพันกันด้วย พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนความผิดทุกข้อหาได้เมื่อพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาว่า จำเลยพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรแล้ว แม้ไม่แจ้งข้อหาว่าพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตด้วย ก็มีอำนาจสอบสวนความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตได้ ถือได้ว่ามีการสอบสวนความผิดฐานนี้แล้ว พนักงานอัยการย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดดังกล่าวได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 120
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1340/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย: การฎีกาที่ไม่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างชัดเจน
จำเลยกล่าวอ้างในฎีกาแต่เพียงว่าจำเลยกระทำผิดโดยบันดาลโทสะจำเลยเห็นว่าข้อเท็จจริงยังฟังไม่เป็นข้อยุติว่าการกระทำของจำเลยและโจทก์ร่วมเป็นการสมัครใจทะเลาะวิวาทเช่นนี้ ฎีกาของจำเลยมิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีไม่ถูกต้องในข้อใดอย่างใด จึงไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 216
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่า & การวินิจฉัยปัญหาอายุความที่มิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลล่าง
คำแถลงการณ์เป็นหนังสือนั้นจำเลยมีสิทธิยื่นได้ก่อนวันศาลฎีกาพิพากษา ไม่จำเป็นต้องให้ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตก่อน เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นตามที่มีสิทธิจะยื่นได้ จึงถือว่าจำเลยไม่ติดใจยื่นคำแถลงการณ์ดังกล่าว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยมิได้อุทธรณ์ในปัญหานี้ ปัญหาเรื่องอายุความจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฎีกาจำเลยที่ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้ ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า การที่ บ. ได้มอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ซื้อแล้ว จึงเป็นการโอนสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ซื้อโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำต้องทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การที่โจทก์นำพยานบุคคลมาสืบถึงสิทธิในที่ดินพิพาทว่าบิดาโจทก์ซื้อที่พิพาทจาก บ. จึงมิใช่เป็นการนำพยานบุคคลมาสืบแทนเอกสาร หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษโดยศาลอุทธรณ์เป็นการเพิ่มโทษหรือไม่: ข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๓ มีกำหนด ๑ เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำคุกจำเลยที่ ๓ มีกำหนด ๑ เดือน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี เป็นการแก้ไขมาก แต่ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับ ๒,๐๐๐ บาท และ รอการลงโทษจำคุกไว้นั้น ไม่เป็นการเพิ่มเติมโทษ จึงต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๙
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษของศาลอุทธรณ์ที่ไม่เป็นการเพิ่มโทษ ทำให้ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 1 เดือนและปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีเป็นการแก้ไขมาก แต่ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับ 2,000 บาท และรอการลงโทษจำคุกไว้นั้น ไม่เป็นการเพิ่มเติมโทษ จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าโดยใช้กระสุนปืนที่ไม่มีเม็ดกระสุน ความผิดฐานมีอาวุธปืนของผู้อื่น
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย 1 นัด ขณะจำเลยอยู่ห่างจากผู้เสียหายประมาณ 1 เมตร มีเพียงแต่เขม่าดินปืนไปกระทบที่คางกับคอของผู้เสียหายเกิดบาดแผลมีเลือดซึมเล็กน้อยรักษาบาดแผลเพียง7 วันหาย กระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงเป็นกระสุนปืนที่ไม่มีเม็ดกระสุนปืนบรรจุไว้ด้วย แสดงว่ากระสุนปืนดังกล่าวไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะปัจจัยที่ใช้ในการกระทำ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,81 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าจากอาวุธปืนที่ไม่มีเม็ดกระสุน ศาลลดโทษจากเจตนาฆ่าเป็นทำร้ายร่างกาย
จำเลยใช้อาวุธลูกซองสั้นยิงผู้เสียหาย 1 นัด ขณะจำเลยอยู่ห่างผู้เสียหายประมาณ 1 เมตร มีเพียงเขม่าดินปืนไปกระทบที่คางกับคอของผู้เสียหายบาดแผลมีเลือดซึมเล็กน้อย รักษา 7 วันหาย กระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงเป็นกระสุนที่ไม่มีเม็ดกระสุนบรรจุ ย่อมแสดงว่ากระสุนปืนดังกล่าวไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้โดยแน่แท้การกระทำของจำเลยจึงมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,81 วรรคแรก