พบผลลัพธ์ทั้งหมด 744 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6966/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงขอกู้เงินโดยใช้เอกสารสิทธิปลอมเพื่อเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
จำเลยกับพวกหลอกลวงโจทก์ร่วมว่าพวกของจำเลยชื่อ ก.และขอกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมโดยพวกของจำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินลงชื่อก. กับมอบโฉนดที่ดิน ซึ่งมีชื่อ ก. ให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้การกระทำของจำเลยกับพวกมีเจตนาทุจริตเพื่อให้ได้เงินจากโจทก์ร่วมและมิให้โจทก์ร่วมใช้สัญญากู้ยืมเงินนั้นเป็นหลักฐานฟ้องร้องเรียกเงินคืน ทำให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหาย จำเลยกับพวกจึงมีความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ เมื่อจำเลยกับพวกได้มอบสัญญากู้ยืมเงินนั้นให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้ จำเลยกับพวกจึงมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมอีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6966/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงขอกู้เงินโดยใช้เอกสารสิทธิปลอมและความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิ
จำเลยกับพวกหลอกลวงโจทก์ร่วมว่าพวกของจำเลยคือผู้มีชื่อและขอกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมโดยทำสัญญากู้ยืมเงินกับมอบโฉนดที่ดินซึ่งผู้มีชื่อดังกล่าวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้โดยมีเจตนาทุจริตเพื่อให้ได้เงินจากโจทก์ร่วม และมิให้โจทก์ร่วมใช้สัญญากู้ยืมเงินนั้นเป็นหลักฐานฟ้องร้องเรียกเงินคืน จึงมีความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ เมื่อจำเลยกับพวกได้มอบสัญญากู้ยืมเงินนั้นให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้ จึงมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมอีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6966/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงกู้ยืมเงินพร้อมปลอมแปลงเอกสารสิทธิและใช้เอกสารปลอม
จำเลยกับพวกหลอกลวงโจทก์ร่วมว่าพวกของจำเลยชื่อ ก. และขอกู้ยืมเงินโจทก์ร่วมโดยพวกของจำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินลงชื่อ ก. กับมอบโฉนดที่ดิน ซึ่งมีชื่อ ก. ให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้ การกระทำของจำเลยกับพวกมีเจตนาทุจริตเพื่อให้ได้เงินจากโจทก์ร่วม และมิให้โจทก์ร่วมใช้สัญญากู้ยืมเงินนั้นเป็นหลักฐานฟ้องร้องเรียกเงินคืน ทำให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหาย จำเลยกับพวกจึงมีความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ เมื่อจำเลยกับพวกได้มอบสัญญากู้ยืมเงินนั้นให้โจทก์ร่วมยึดถือไว้ จำเลยกับพวกจึงมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมอีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6863/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งดุลพินิจศาลในการรอการลงโทษ จำเลยต้องโทษจำคุกไม่เกินสองปี จึงห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 326จำคุกกระทงละ 1 เดือน รวม 3 กระทง จำคุก 3 เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าให้ปรับจำเลยกระทงละ 1,000 บาท อีกสถานหนึ่ง รวม 3 กระทง ปรับ3,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นให้รอการลงโทษแก่จำเลย เป็นการแก้ไขมาก แต่ก็ถือว่าศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินสองปี จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 219 โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษ เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลว่าสมควรลงโทษจำเลยเพียงใด เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 219 ประกอบด้วยพ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง ฯ มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6863/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: โจทก์ฎีกาขอไม่รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์แก้โทษเป็นรอการลงโทษ ถือเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 จำคุกกระทงละ 1 เดือน รวม 3 กระทง จำคุก 3 เดือนศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าให้ปรับจำเลยกระทงละ 1,000 บาทอีกสถานหนึ่ง รวม 3 กระทง ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นให้รอการลงโทษแก่จำเลย เป็นการแก้ไขมาก แต่ก็ถือว่าศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินสองปี จึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษ เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลว่าสมควรลงโทษจำเลยเพียงใด เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6863/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์และฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษเป็นรอการลงโทษ โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษ ถือเป็นการโต้เถียงดุลยพินิจ จึงต้องห้ามฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา326จำคุกกระทงละ1เดือนรวม3กระทงจำคุก3เดือนศาลอุทธรณ์ภาค1พิพากษาแก้เป็นว่าให้ปรับจำเลยกระทงละ1,000บาทอีกสถานหนึ่งรวม3กระทงปรับ3,000บาทโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด2ปีแม้ศาลอุทธรณ์ภาค1พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นให้รอการลงโทษแก่จำเลยเป็นการแก้ไขมากแต่ก็ถือว่าศาลอุทธรณ์ภาค1ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินสองปีจึงเป็นคดีต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา219โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลว่าสมควรลงโทษจำเลยเพียงใดเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา219ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯมาตรา4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6799/2537 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอนุมัติลดอัตราอากรศุลกากรขึ้นอยู่กับคุณสมบัติสินค้าตามประกาศกระทรวงการคลัง ไม่ใช่ประกาศของกรมศุลกากร
เมื่อสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมและโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมพิจารณา และขอลดอัตราอากรโดยระบุว่า ไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่และเป็นของใหม่ กรมศุลกากรจำเลยที่ 1 ก็ต้องอนุมัติให้โจทก์ได้ลดอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 จะไม่อนุมัติโดยอ้างว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527 และประเมินเพิ่มให้โจทก์เสียแก่จำเลยทั้งสองโดยไม่ลดหย่อนอัตราอากรศุลกากรให้โจทก์ไม่ได้ อำนาจในการอนุมัติขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำเข้านั้นว่า เข้ากรณีตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.9/2526 กับหลักเกณฑ์ของเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 หรือไม่ หาได้ขึ้นอยู่กับจำเลยที่ 1 หรือตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527 โดยเด็ดขาดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6799/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดหย่อนอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลัง การตีความอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมศุลกากร
การลดอัตราอากรสำหรับเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงการคลังที่ศก.9/2526ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไว้แล้วตามประกาศกระทรวงการคลังที่58613/2526โดยกำหนดเป็นหลักเกณฑ์และเงื่อนไขด้วยว่าเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์นั้นไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่ผู้นำของเข้าจะต้องยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมพิจารณาเสียก่อนว่าเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่นำเข้าอยู่ในข่ายที่จะได้รับการพิจารณาลดอัตราอากร โจทก์ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาตามเงื่อนไขทั้งระบุด้วยว่าเครื่องกำเนิดไอน้ำเป็นของใหม่และมีหนังสือรับรองด้วยว่าเครื่องจักรไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ข้อ3.2และ3.3ของประกาศกระทรวงการคลังที่58613/2526ซึ่งไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่ดังนี้แม้ประกาศกระทรวงของจำเลยที่1ที่60/2527กำหนดเป็นระเบียบพิธีเกี่ยวกับการขอลดอัตราอากรศุลกากรให้ผู้นำเข้ารับรองในใบขนสินค้าว่าของที่นำเข้า"ไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นมาใหม่"อันมีอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการลดอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่58613/2526ประกาศของจำเลยที่1ก็เป็นเพียงระเบียบพิธีการเกี่ยวกับการลดอัตราศุลกากรเพื่อจำเลยที่1จะใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติในการให้ลดอัตราศุลกากรในรายที่คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้แจ้งผลการพิจารณาซึ่งจำเลยที่1มีอำนาจตามประกาศกระทรวงการคลังที่58613/2526แล้วเท่านั้นระเบียบพิธีการดังกล่าวเป็นเพียงระเบียบภายในของจำเลยที่1หาใช่กฎหมายที่จะทำให้มีผลลบล้างการปฏิบัติของโจทก์ไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงการคลังที่58613/2526ครบถ้วนแล้วให้โจทก์หมดสิทธิที่จะลดอัตราอากรไปได้ไม่จำเลยที่1ต้องอนุมัติให้โจทก์ได้ลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ศก.58613/2526จะอ้างว่าโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยที่1ที่60/2527ไม่ได้อำนาจในการอนุมัติหาได้อยู่กับประกาศของจำเลยที่60/2527โดยเด็ดขาดไม่การประเมินและคำวินิจฉัยของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6799/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดอัตราอากรเครื่องจักรประหยัดพลังงาน ต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ก.คลังฯ 58613/2526 ไม่ใช่ระเบียบภายในของกรมศุลกากร
เมื่อสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมและโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักรวัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมพิจารณา และขอลดอัตราอากรโดยระบุว่า ไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่และเป็นของใหม่ กรมศุลกากร จำเลยที่ 1ก็ต้องอนุมัติให้โจทก์ได้ลดอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 จะไม่อนุมัติโดยอ้างว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527 และประเมินเพิ่มให้โจทก์เสียแก่จำเลยทั้งสองโดยไม่ลดหย่อนอัตราอากรศุลกากรให้โจทก์ไม่ได้อำนาจในการอนุมัติขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำเข้านั้นว่า เข้ากรณีตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.9/2526 กับหลักเกณฑ์ของเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 หรือไม่ หาได้ขึ้นอยู่กับจำเลยที่ 1 หรือตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527 โดยเด็ดขาดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6799/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดหย่อนอัตราอากรศุลกากร: การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำคัญกว่าระเบียบวิธีปฏิบัติ
การลดอัตราอากรสำหรับเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ ที่ประหยัดพลังงานหรือที่รักษาสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงการคลังที่ศก.9/2526 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไว้แล้วตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526โดยกำหนดเป็นหลักเกณฑ์และเงื่อนไขด้วยว่า เครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์นั้นไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่ ผู้นำของเข้าจะต้องยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมพิจารณาเสียก่อนว่าเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่นำเข้าอยู่ในข่ายที่จะได้รับการพิจารณาลดอัตราอากร โจทก์ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาตามเงื่อนไข ทั้งระบุด้วยว่าเครื่องกำเนิดไอน้ำเป็นของใหม่ และมีหนังสือรับรองด้วยว่า เครื่องจักรไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์ ข้อ 3.2 และ 3.3 ของประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 ซึ่งไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นใหม่ ดังนี้ แม้ประกาศกระทรวงของจำเลยที่ 1ที่ 60/2527 กำหนดเป็นระเบียบพิธีเกี่ยวกับการขอลดอัตราอากรศุลกากรให้ผู้นำเข้ารับรองในใบขนสินค้าว่าของที่นำเข้า "ไม่เป็นของเก่าใช้แล้วหรือซ่อมแซมขึ้นมาใหม่" อันมีอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการลดอัตราอากรศุลกากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่58613/2526 ประกาศของจำเลยที่ 1 ก็เป็นเพียงระเบียบพิธีการเกี่ยวกับการลดอัตราศุลกากร เพื่อจำเลยที่ 1 จะใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่ อนุมัติในการให้ลดอัตราศุลกากรในรายที่คณะกรรมการพิจารณาเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้แจ้งผลการพิจารณา ซึ่งจำเลยที่ 1 มีอำนาจตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 แล้วเท่านั้น ระเบียบพิธีการดังกล่าวเป็นเพียงระเบียบภายในของจำเลยที่ 1 หาใช่กฎหมายที่จะทำให้มีผลลบล้างการปฏิบัติของโจทก์ไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงการคลังที่ 58613/2526 ครบถ้วนแล้วให้โจทก์หมดสิทธิที่จะลดอัตราอากรไปได้ไม่ จำเลยที่ 1 ต้องอนุมัติให้โจทก์ได้ลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.58613/2526จะอ้างว่าโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยที่ 1 ที่ 60/2527ไม่ได้ อำนาจในการอนุมัติหาได้อยู่กับประกาศของจำเลยที่ 60/2527โดยเด็ดขาดไม่ การประเมินและคำวินิจฉัยของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบ