พบผลลัพธ์ทั้งหมด 706 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้อาวุธปืนเกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกทำร้ายก่อน ศาลลดโทษ
จำเลยลงจากรถจักรยานยนต์ไปยืนพูดจาเพื่อปรับความเข้าใจกับผู้ตายซึ่งมีอาการมึนเมาสุราแต่ไม่สำเร็จและผู้ตายได้ใช้มีดฟันจำเลยก่อนแต่ไม่ถูกซึ่งหากจำเลยเพียงแต่ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวออกมาขู่หรือยิงขู่ผู้ตายผู้ตายก็ไม่น่าจะกล้าฟันทำร้ายจำเลยอีกต่อไปการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตายที่บริเวณลำคอและช่วงบนเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุแม้ยิงเพียงนัดเดียวก็เป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุและเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันจึงไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาว่าเพิ่มโทษจำเลยได้หรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็เห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 140/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานจัดและเป็นเจ้ามือการพนันสลากกินรวบเป็นความผิดต่างกรรมกัน ต้องลงโทษทุกกรรม
ความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบและความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันสลากกินรวบต่างเป็นความผิดอยู่ในตัวเองไม่เกี่ยวข้องกันเมื่อคำฟ้องโจทก์ระบุยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบและเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และจำเลยให้การรับสารภาพจึงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวซึ่งเป็นความผิด2กรรมต่างกันต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป นอกจากเงินของกลางที่ยึดได้จากจำเลยมีจำนวนเล็กน้อยเพียง20บาทซึ่งแสดงว่าจำเลยมิใช่ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบและเจ้ามือรับกินรับใช้รายใหญ่แล้วยังไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยกระทำความผิดมาก่อนจึงสมควรรอการลงโทษให้จำเลยโดยกำหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติของจำเลยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด โทษจำคุกตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์
พยานโจทก์ทั้งสามไม่เคยมีสาเหตุกับจำเลยที่2มาก่อนเบิกความถึงพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายอย่างสอดคล้องเชื่อมโยงกันกอปรด้วยเหตุผลและจำเลยที่2ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนโดยสมัครใจคำรับสารภาพดังกล่าวย่อมใช้ยันจำเลยที่2ในชั้นพิจารณาได้และโจทก์ยังมีคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่1ที่ให้การว่าจำเลยที่2มีส่วนร่วมในการกระทำผิดซึ่งแม้จะเป็นคำซัดทอดของผู้กระทำผิดด้วยกันแต่ก็ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้รับฟังศาลมีอำนาจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักเชื่อได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยที่2ได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่1จริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขายทอดตลาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่ทราบประกาศขาย
ขณะที่ศ.นำหมายนัดไปส่งให้แก่จำเลยที่1นั้นจำเลยที่1ยังมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเมื่อหาบ้านจำเลยที่1ไม่พบก็สมควรที่จะให้โจทก์ยืนยันภูมิลำเนาของจำเลยที่1เสียใหม่หากโจทก์ยืนยันแล้วยังส่งไม่ได้อีกจึงจะมีการปิดหมายเจ้าพนักงานบังคับคดีใช้วิธีการประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายนัดโดยวิธีธรรมดาทั้งๆที่การส่งหมายโดยวิธีธรรมดายังทำได้อยู่ย่อมเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา79วรรคหนึ่งถือได้ว่าจำเลยที่1ไม่ทราบประกาศขายทอดตลาดการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินพิพาทไปโดยไม่แจ้งให้ทราบซึ่งคำสั่งศาลและวันขายทอดตลาดแก่จำเลยที่1ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีจึงเป็นการดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสองและมาตรา306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10155/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อในการขนย้ายสินค้าฝากเก็บ และสิทธิเรียกร้องของบริษัทประกันภัย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในความประมาทเลินเล่อที่ทำให้สินค้าเครื่องจักรของโจทก์เสียหาย จำเลยให้การรับว่าโจทก์ได้นำสินค้าเครื่องจักรมาฝากไว้ในโกดังเก็บสินค้าของจำเลย และขอให้จำเลยช่วยจัดคนงานและรถยกเพื่อขนถ่ายสินค้าเครื่องจักร จำเลยมีรถยกตัวเดียว งารถยกไม่อาจรับความกว้างยาวของสินค้าเครื่องจักรได้จึงตกลงบนพื้น จำเลยรับฝากสินค้าโจทก์โดยไม่มีบำเหน็จและได้ใช้ความระมัดระวังเช่นผู้ประกอบวิชาชีพ ตามคำให้การดังกล่าวเท่ากับจำเลยรับตามฟ้องโจทก์ จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้คนงานและรถยกยกสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้า แต่เนื่องจากสินค้าเครื่องจักรมีขนาดใหญ่และรถยกมีขนาดเล็กเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรตกจากรถยกลงบนพื้นและเกิดความเสียหาย การกระทำดังกล่าวนับเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย เมื่อโจทก์ร่วมได้รับประกันภัยสินค้าเครื่องจักรรายนี้ และได้ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไปแล้ว ย่อมรับช่วงสิทธิจากโจทก์ที่จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
โจทก์ฝากสินค้าเครื่องจักรไว้กับจำเลย แต่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เนื่องจากโจทก์ให้จำเลยทำการขนย้ายสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้า ในการขนย้ายจำเลยได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรเสียหาย อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อและเสียหายต่อโจทก์เป็นการกระทำละเมิดด้วย จึงมีอายุความ ๑ ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๔๘ วรรคหนึ่ง
โจทก์ฝากสินค้าเครื่องจักรไว้กับจำเลย แต่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เนื่องจากโจทก์ให้จำเลยทำการขนย้ายสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้า ในการขนย้ายจำเลยได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรเสียหาย อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อและเสียหายต่อโจทก์เป็นการกระทำละเมิดด้วย จึงมีอายุความ ๑ ปี ตาม ป.พ.พ.มาตรา ๔๔๘ วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10155/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อในการขนถ่ายสินค้าและการรับช่วงสิทธิของบริษัทประกันภัย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในความประมาทเลินเล่อที่ทำให้สินค้าเครื่องจักรของโจทก์เสียหายจำเลยให้การรับว่าโจทก์ได้นำสินค้าเครื่องจักรมาฝากไว้ในโกดังเก็บสินค้าของจำเลยและขอให้จำเลยช่วยจัดคนงานและรถยกเพื่อขนถ่ายสินค้าเครื่องจักรจำเลยมีรถยกตัวเดียวงารถยกไม่อาจรับความกว้างยาวของสินค้าเครื่องจักรได้จึงตกลงบนพื้นจำเลยรับฝากสินค้าโจทก์โดยไม่มีบำเหน็จและได้ใช้ความระมัดระวังเช่นผู้ประกอบวิชาชีพตามคำให้การดังกล่าวเท่ากับจำเลยรับตามฟ้องโจทก์จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้จัดให้คนงานและรถยกยกสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้รถบรรจุสินค้าแต่เนื่องจากสินค้าเครื่องจักรมีขนาดใหญ่และรถยกมีขนาดเล็กเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรตกจากรถยกลงบนพื้นและเกิดความเสียหายการกระทำดังกล่าวนับเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยเมื่อโจทก์ร่วมได้รับประกันภัยสินค้าเครื่องจักรรายนี้และได้ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไปแล้วย่อมรับช่วงสิทธิจากโจทก์ที่จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ โจทก์ฝากสินค้าเครื่องจักรไว้กับจำเลยแต่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เนื่องจากโจทก์ให้จำเลยทำการขนย้ายสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้าในการขนยายจำเลยได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรเสียหายอันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อและเสียหายต่อโจทก์เป็นการกระทำละเมิดด้วยจึงมีอายุความ1ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา448วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10155/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อในการขนถ่ายสินค้าและการรับช่วงสิทธิจากผู้รับประกันภัย
จำเลยรับฝากสินค้าโดยมิได้มีบำเหน็จ จำเลยเป็นผู้จัดให้ คนงานและรถยกสินค้าเครื่องจักรออกจากตู้บรรจุสินค้า แต่เนื่องจากสินค้าเครื่องจักรมีขนาดใหญ่และรถยกมีขนาดเล็กเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรตกลงจากรถยกและเกิดความเสียหายการกระทำดังกล่าวนับเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย เมื่อโจทก์ร่วมได้รับประกันภัยสินค้าเครื่องจักรรายนี้ และได้ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์แล้ว ย่อมรับช่วงสิทธิจากโจทก์ที่จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ โจทก์ร่วมยื่นคำร้องเข้ามาเป็นคู่ความโดยอ้างว่าเป็นผู้รับประกันภัยสินค้าโจทก์ร่วมจึงมีสิทธิเข้ารับช่วงสิทธิของโจทก์สำหรับค่าเสียหายที่ได้ชดใช้แก่โจทก์ไปแล้วและมีความประสงค์จะเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อเรียกค่าเสียหายคืนจากจำเลย ตามคำร้องของโจทก์ร่วมถือได้ว่าโจทก์ร่วมมีคำขอบังคับให้จำเลยชำระเงินค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมแล้ว ประเด็นที่ว่าโจทก์ร่วมรับช่วงสิทธิของโจทก์หรือไม่เพียงใด จึงเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น แม้เป็นเรื่องฝากทรัพย์ แต่จำเลยได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้สินค้าเครื่องจักรเสียหาย ถือเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย จึงมีอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9513/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงชื่อนิติบุคคลไม่กระทบความเป็นนิติบุคคลเดิม และอำนาจทำนิติกรรม
แม้ขณะฟ้องโจทก์ได้เปลี่ยนชื่อจากบริษัท อ.เป็นบริษัท ท.แล้วก็ตาม แต่การที่โจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลเปลี่ยนชื่อใหม่เช่นนั้น ก็ไม่ทำให้ความเป็นนิติบุคคลของโจทก์สิ้นสุดลง โจทก์ยังคงเป็นนิติบุคคลมีตัวตนอยู่เช่นเดิมต่อไป และไม่ว่าโจทก์จะทำนิติกรรมในชื่อเดิมหรือชื่อที่เปลี่ยนใหม่แล้วก็ตาม ก็เป็นการทำนิติกรรมโดยนิติบุคคลคนเดียวกันนั้นเอง การทำนิติกรรมในชื่อเดิมของโจทก์หลังจากที่โจทก์ได้เปลี่ยนชื่อใหม่แล้วนั้น ไม่มีผลให้เป็นการทำนิติกรรมโดยสิ่งที่ไม่มีตัวตนเป็นนิติบุคคล ดังนั้น แม้การมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีนี้แทนโจทก์เป็นการมอบอำนาจภายหลังจากที่โจทก์ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท ท.แล้ว โจทก์ก็ยังมอบอำนาจในชื่อเดิมของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9513/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงชื่อนิติบุคคลไม่กระทบอำนาจฟ้องคดี และการมอบอำนาจยังคงมีผลแม้เปลี่ยนชื่อแล้ว
แม้ขณะฟ้องโจทก์ได้เปลี่ยนชื่อจากบริษัทอ. เป็นบริษัทท. แล้วก็ตามแต่การที่โจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลเปลี่ยนชื่อใหม่เช่นนั้นก็ไม่ทำให้ความเป็นนิติบุคคลของโจทก์สิ้นสุดลงโจทก์ยังคงเป็นนิติบุคคลมีตัวตนอยู่เช่นเดิมต่อไปและไม่ว่าโจทก์จะทำนิติกรรมในชื่อเดิมหรือชื่อที่เปลี่ยนใหม่แล้วก็ตามก็เป็นการทำนิติกรรมโดยนิติบุคคลคนเดียวกันนั้นเองการทำนิติกรรมในชื่อเดิมของโจทก์หลังจากที่โจทก์ได้เปลี่ยนชื่อใหม่แล้วนั้นไม่มีผลให้เป็นการทำนิติกรรมโดยสิ่งที่ไม่มีตัวตนเป็นนิติบุคคลดังนั้นแม้การมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีนี้แทนโจทก์เป็นการมอบอำนาจภายหลังจากที่โจทก์ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัทท. แล้วโจทก์ก็ยังมอบอำนาจในชื่อเดิมของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9312/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานจากเอกสารสำเนา และการชำระหนี้ที่ยังไม่ครบถ้วน
แม้เอกสารหมาย จ.19 เป็นเพียงสำเนาเอกสาร แต่เมื่อโจทก์ทั้งห้าซึ่งถูกจำเลยอ้างเอกสารดังกล่าวมาเป็นพยานหลักฐานยัน มิได้คัดค้านว่าไม่มีต้นฉบับหรือต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วนหรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับก่อนวันสืบพยาน และไม่ได้ขออนุญาตคัดค้านในภายหลังก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา โจทก์ทั้งห้าจึงต้องห้ามไม่ให้คัดค้านการมีอยู่หรือความแท้จริงของเอกสารนั้นหรือความถูกต้องแห่งสำเนาเอกสารนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 125 เอกสารหมาย จ.19 จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้