คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมาน เวทวินิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6269/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด: สิทธิลูกหนี้ร่วมและข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
แม้หนี้ค่าภาษีอากรค้างตามฟ้องโจทก์เป็นหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัดส.แต่จำเลยในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดส.ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดซึ่งต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1077(2)และมาตรา1087จำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมดังนั้นเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดส.ผิดนัดไม่ชำระหนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกชำระหนี้จากห้างหุ้นส่วนจำกัดส.หรือจำเลยคนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงก็ได้ตามแต่จะเลือกทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา291เมื่อหนี้ดังกล่าวอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนไม่น้อยกว่า50,000บาทโจทก์จึงฟ้องให้จำเลยล้มละลายได้โดยตรงทันทีมิใช่ว่าต้องขอให้จำเลยล้มละลายร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดส.หรือต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา89แต่ทางเดียวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6269/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกหนี้ร่วมและสิทธิในการฟ้องล้มละลาย: หุ้นส่วนผู้จัดการรับผิดชอบหนี้ของห้างหุ้นส่วน
แม้หนี้ค่าภาษีอากรค้างตามฟ้องโจทก์เป็นหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัดส. แต่จำเลยในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดซึ่งต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนไม่จำกัดจำนวน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1077 (2) และมาตรา 1087 จำเลยย่อมอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วม ดังนั้นเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.ผิดนัดไม่ชำระหนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกชำระหนี้จากห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. หรือจำเลยคนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงก็ได้ตามแต่จะเลือกทั้งนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 291 เมื่อหนี้ดังกล่าวอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนไม่น้อยกว่า 50,000 บาท โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยล้มละลายได้โดยตรงทันที มิใช่ว่าต้องขอให้จำเลยล้มละลายร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. หรือต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 89 แต่ทางเดียวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6266/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้า VERSACE: ความสับสนในความเป็นเจ้าของและแหล่งกำเนิดสินค้า
โจทก์ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า VERSACEL' UOMO" อ่านว่า เวอร์แซค แอล อูโอโม เพื่อใช้กับสินค้าจำพวก 38 รายการสินค้าเสื้อยืด เสื้อเชิ้ต กระโปรง กางเกงขายาว ส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยที่ได้จดทะเบียนแล้วมี 4 รูปแบบ คือคำว่า V'E VERSACE, GIANNIVERSACE, V 2 by VERSACE และ VERSUS GIANNI คำว่า VERSACE เป็นส่วนหนึ่งของชื่อสถานการค้าของจำเลยซึ่งได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลที่ประเทศอิตาลีจำเลยใช้คำว่า VERSACE ประกอบกับคำอื่นรวมเป็นเครื่องหมายการค้าหลายรูปแบบใช้กับสินค้าจำพวก 38 ที่จำเลยผลิตขึ้น ส่วนที่เป็นสาระสำคัญของเครื่องหมายการค้าจำเลยจึงอยู่ที่คำว่า VERSACE แม้เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ขอจดทะเบียนจะใช้คำว่า VERSACE โดยมีคำว่า L' UOMO ต่อท้ายก็ตาม แต่คำว่า VERSACEของโจทก์ก็ตรงกับคำว่า VERSACE ของจำเลยในส่วนสาระสำคัญ อาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6195/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.216 โต้แย้งเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาจำเลยกล่าวถึงคำฟ้องของโจทก์คำให้การจำเลยคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วย่อหน้าใหม่ว่า"ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังเหตุผลและข้อเท็จจริงที่จำเลยจะได้ประทานกราบเรียนต่อศาลดังนี้"และลงท้ายว่า"ดังเหตุผลที่จำเลยได้ประทานกราบเรียนต่อศาลมาแล้วข้างต้นขอศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งแล้วมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย"ส่วนเนื้อหาที่เป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล้วนเป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นทั้งสิ้นแม้คำขอท้ายฎีกาก็ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นฎีกาจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งคัดค้านเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้นมิได้โต้แย้งคัดค้านว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบอย่างไรไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพราะเหตุใดจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา216

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6195/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย: ไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยตรง แต่โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นซ้ำ
ฎีกาจำเลยกล่าวถึงคำฟ้องของโจทก์ คำให้การจำเลยคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แล้วย่อหน้าใหม่ว่า"ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังเหตุผลและข้อเท็จจริงที่จำเลยจะได้ประทานกราบเรียนต่อศาลดังนี้" และลงท้ายว่า "ดังเหตุผลที่จำเลยได้ประทานกราบเรียนต่อศาลมาแล้วข้างต้นขอศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แล้วมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย" ส่วนเนื้อหาที่เป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล้วนเป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นทั้งสิ้นแม้คำขอท้ายฎีกาก็ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นฎีกาจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งคัดค้านเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้นมิได้โต้แย้งคัดค้านว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบอย่างไรไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพราะเหตุใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6195/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 216: โต้แย้งเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาจำเลยกล่าวถึงคำฟ้องของโจทก์ คำให้การจำเลยคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แล้วย่อหน้าใหม่ว่า "ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังเหตุผลและข้อเท็จจริงที่จำเลยจะได้ประทานกราบเรียนต่อศาลดังนี้..." และลงท้ายว่า "ดังเหตุผลที่จำเลยได้ประทานกราบเรียนต่อศาลมาแล้วข้างต้นขอศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แล้วมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย" ส่วนเนื้อหาที่เป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล้วนเป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นทั้งสิ้น แม้คำขอท้ายฎีกาก็ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ฎีกาจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งคัดค้านเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิได้โต้แย้งคัดค้านว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบอย่างไร ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพราะเหตุใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 216

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6195/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย: โต้แย้งเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาจำเลยกล่าวถึงคำฟ้องของโจทก์คำให้การจำเลยคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วย่อหน้าใหม่ว่า"ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังเหตุผลและข้อเท็จจริงที่จำเลยจะได้ประทานกราบเรียนต่อศาลดังนี้"และลงท้ายว่า"ดังเหตุผลที่จำเลยได้ประทานกราบเรียนต่อศาลมาแล้วข้างต้นขอศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งแล้วมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย"ส่วนเนื้อหาที่เป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล้วนเป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นทั้งสิ้นแม้คำขอท้ายฎีกาก็ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นฎีกาจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งคัดค้านเฉพาะคำพิพากษาศาลชั้นต้นมิได้โต้แย้งคัดค้านว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบอย่างไรไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพราะเหตุใดจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา216

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6183/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการวางท่อประปาผ่านที่ดินของผู้อื่น และการพิพากษาเกินคำขอ
เมื่อการวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยมีระยะทางใกล้ที่สุด และโจทก์ได้เสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยตามสมควรแล้วโจทก์ย่อมใช้สิทธิขอวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1352 ฟ้องโจทก์เพียงขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์วางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยตามแนวในแผนที่ท้ายฟ้องหากจำเลยไม่ยอมให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยการที่ศาลพิพากษาว่าหากไม่สามารถวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยตามแนวในแผนที่ได้ให้จำเลยยอมให้โจทก์ต่อท่อจากท่อประปาของจำเลยที่จำเลยวางไปยังทาวน์เฮาส์ที่จำเลยก่อสร้างได้ซึ่งโจทก์ไม่มีสิทธิอันใดที่จะไปต่อจากท่อนั้นได้จึงเป็นการพิพากษาเกินคำขอไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6183/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการวางท่อประปาผ่านที่ดินของผู้อื่น และขอบเขตการบังคับคดีเกินคำขอ
เมื่อการวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยมีระยะทางใกล้ที่สุด และโจทก์ได้เสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยตามสมควรแล้ว โจทก์ย่อมใช้สิทธิขอวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยซึ่ง อยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1352 ฟ้องโจทก์เพียงขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์วางท่อประปา ผ่านที่ดินของจำเลยตามแนวในแผนที่ท้ายฟ้อง หากจำเลยไม่ยอม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย การที่ศาล พิพากษาว่าหากไม่สามารถวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยตาม แนวในแผ่นที่ได้ ให้จำเลยยอมให้โจทก์ต่อท่อจากท่อประปา ของจำเลยที่จำเลยวางไปยังทาวน์เฮาส์ที่จำเลยก่อสร้างได้ ซึ่งโจทก์ไม่มีสิทธิอันใดที่จะไปต่อจากท่อนั้นได้ จึงเป็น การพิพากษาเกินคำขอ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6183/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการวางท่อประปาผ่านที่ดินของผู้อื่น: การพิพากษาเกินคำขอ
ที่ดินในส่วนที่พิพาทเป็นของจำเลย และปรากฏว่าการที่โจทก์ขอวางท่อประปาไปยังที่ดินของโจทก์ผ่านที่ดินของจำเลยมีระยะทางใกล้ที่สุด ประกอบกับโจทก์ได้เสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยตามสมควรแล้ว โจทก์ย่อมใช้สิทธิขอวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ทั้งสองได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1352
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์วางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยตามแนวในแผนที่ท้ายฟ้อง หากจำเลยไม่ยอม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ไม่ได้มีคำขอว่าหากไม่สามารถวางท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยตามแนวในแผนที่ได้ ให้จำเลยยอมให้โจทก์ต่อท่อจากท่อประปาที่จำเลยวางไปยังทาวน์เฮาส์ที่จำเลยก่อสร้างได้ ทั้งท่อประปาดังกล่าวเป็นของจำเลยที่วางไว้โจทก์ไม่มีสิทธิอันใดที่จะไปต่อจากท่อนั้นได้ ดังนี้ คำพิพากษาของศาลล่างที่พิพากษาว่าหากโจทก์ไม่สามารถเดินท่อประปาผ่านที่ดินของจำเลยได้ให้ต่อจากท่อประปาที่จำเลยวางไว้ไปยังทาวน์เฮาส์ที่จำเลยก่อสร้างไว้ จึงเป็นการพิพากษาเกินคำขอ ไม่ชอบด้วยป.วิ.พ.มาตรา 142 วรรคหนึ่ง
of 99