คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สนัด หมายสวัสดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 289 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเคลื่อนย้ายทรัพย์สินสำเร็จถือเป็นความผิดลักทรัพย์
การที่เครื่องยนต์สูบน้ำถูกยกจากรถไถมาวางอยู่กับพื้น เป็นการพาทรัพย์เคลื่อนที่ไปแล้ว จึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปเป็นความผิดลักทรัพย์สำเร็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อชำระหนี้ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ: ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
หนี้เงินกู้ยืมเกินกว่าห้าสิบบาทไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมไว้เป็นหนังสือเป็นหนี้ที่ไม่อาจฟ้องร้องบังคับกันได้ตามกฎหมาย การที่จำเลยออกเช็คพิพาทเปลี่ยนเอาเช็คเดิมซึ่งจำเลยออกให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืมและโจทก์มิได้นำเข้าเรียกเก็บเงินเช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าวไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระหนี้เงินกู้ยืมไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจฟ้องบังคับได้ และไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
เช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมเกินกว่า 50 บาท โดยมิได้มีการทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไว้เป็นหนังสือ เมื่อไม่มีการนำเช็คนั้นเข้าเรียกเก็บเงิน เช็คพิพาทซึ่งออกมาเพื่อเปลี่ยนเอาเช็คเดิมไป จึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าวซึ่งไม่อาจฟ้องร้องบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท การออกเช็คพิพาทจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่อาจฟ้องบังคับได้ การออกเช็คพิพาทไม่เป็นความผิด
เช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมเกินกว่า 50 บาท โดยมิได้มีการทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไว้เป็นหนังสือ เมื่อไม่มีการนำเช็คนั้นเข้าเรียกเก็บเงิน เช็คพิพาทซึ่งออกมาเพื่อเปลี่ยนเอาเช็คเดิมไป จึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าว ซึ่งไม่อาจฟ้องร้องบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท การออกเช็คพิพาทจึงไม่เป็นความผิดตามพระราช-บัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังโดยใช้อาวุธ แม้ไม่ได้ชักปืนแต่เตรียมพร้อมใช้ก็ถือเป็นความผิด
จำเลยทั้งสามมีอาวุธปืนติดตัวขึ้นไปบนสถานีตำรวจ จำเลยที่ 1ขอให้ผู้เสียหายไปตรวจค้นบ้านบุคคลอื่น แต่ผู้เสียหายไม่ยอมทำตามจำเลยที่ 1 จึงใช้อาวุธปืนจี้บังคับไม่ยอมให้ผู้เสียหายออกจากห้องแล้วใช้มือล็อกคอและกอดปล้ำบังคับผู้เสียหายให้นั่งบนโซฟาโดยจำเลยที่ 2 ถืออาวุธปืนสั้นและจำเลยที่ 3 ยืนจับด้ามปืนสั้นที่เอว แม้จำเลยที่ 3 จะไม่ได้ชักปืนออกมาก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยที่ 3 แสดงว่าจำเลยที่ 3 ได้เตรียมพร้อมที่จะใช้อาวุธปืนบังคับผู้เสียหายด้วย จำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1และที่ 2 หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังโดยมีอาวุธ การกระทำที่แสดงเจตนาเตรียมพร้อมใช้ความรุนแรงถือเป็นความร่วม
จำเลยทั้งสามมีอาวุธปืนติดตัวขึ้นไปบนสถานีตำรวจ จำเลยที่ 1ขอให้ผู้เสียหายไปตรวจค้นบ้านบุคคลอื่น แต่ผู้เสียหายไม่ยอมทำตาม จำเลยที่ 1จึงใช้อาวุธปืนจี้บังคับไม่ยอมให้ผู้เสียหายออกจากห้องแล้วใช้มือล็อกคอและกอดปล้ำบังคับผู้เสียหายให้นั่งบนโซฟา โดยจำเลยที่ 2 ถืออาวุธปืนสั้นและจำเลยที่ 3 ยืนจับด้ามปืนสั้นที่เอว แม้จำเลยที่ 3 จะไม่ได้ชักปืนออกมาก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยที่ 3 แสดงว่าจำเลยที่ 3 ได้เตรียมพร้อมที่จะใช้อาวุธปืนบังคับผู้เสียหายด้วยจำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 188/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขัง: การกระทำเตรียมพร้อมใช้ปืนถือเป็นความผิดร่วม
จำเลยทั้งสามมีอาวุธปืนติดตัว ขึ้นไปบนสถานีตำรวจ จำเลยที่ 1 ขอให้ผู้เสียหายไปตรวจค้นบ้านบุคคลอื่น แต่ผู้เสียหายไม่ยอมทำตาม จำเลยที่ 1 จึงใช้อาวุธปืนจี้บังคับไม่ยอมให้ผู้เสียหายออกจากห้องแล้วใช้มือล็อกคอและกอดปล้ำบังคับผู้เสียหายให้นั่งบนโซฟา โดยจำเลยที่ 2 ถืออาวุธปืนและจำเลยที่ 3 ยืนจับด้ามปืนสั้นที่เอว แม้จำเลยที่ 3 จะไม่ได้ชักปืนออกมาก็ตามแต่การกระทำของจำเลยที่ 3 แสดงว่าจำเลยที่ 3 ได้เตรียมพร้อมที่จะใช้อาวุธปืนบังคับผู้เสียหายด้วยจำเลยที่ 3 จึงมีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5604/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินมีลำดับสิทธิเหนือกว่าสิทธิครอบครองตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แม้มีการครอบครองก่อน
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์กรมที่ดินจำเลยให้การโต้เถียงว่าที่พิพาทเป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันเป็นการพิพาทกันด้วยสิทธิในที่ดิน จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5596/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดิน น.ส.3 ที่ผิดแบบและห้ามโอน สิทธิครอบครองเกิดขึ้นได้หลังพ้นระยะห้าม
การซื้อขายที่ดิน น.ส.3 ซึ่งทางราชการห้ามโอนภายใน 10 ปีตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงตกเป็นโมฆะ เพราะไม่ถูกต้องตามแบบและเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย แม้โจทก์ซื้อและยึดถือที่พิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนต่อมาในระยะเวลาห้ามโอนก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง แต่เมื่อโจทก์ยังคงครอบครองต่อมาจนล่วงเลยระยะเวลาห้ามโอนแล้ว โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 นับแต่วันที่พ้นกำหนดห้ามโอนนั้น เมื่อสัญญาซื้อขายที่พิพาทเป็นโมฆะ จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะต้องไปจดทะเบียนโอนที่พิพาทให้แก่โจทก์ จึงบังคับจำเลยไปจดทะเบียนโอนที่พิพาทไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5596/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.3 โมฆะหากไม่ทำตามแบบและฝ่าฝืนห้ามโอน แต่หากครอบครองหลังพ้นห้ามโอน ย่อมได้สิทธิครอบครอง
การซื้อขายที่ดิน น.ส.3 ซึ่งทางราชการห้ามโอนภายใน 10 ปีตาม ป.ที่ดิน มาตรา 31 เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงตกเป็นโมฆะ เพราะไม่ถูกต้องตามแบบและเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายแม้โจทก์ซื้อและยึดถือที่พิพาทโดยเจตนายึดถือเพื่อตนต่อมาในระยะเวลาห้ามโอนก็ไม่ได้สิทธิครอบครอง แต่เมื่อโจทก์ยังคงครอบครองต่อมาจนล่วงเลยระยะเวลาห้ามโอนแล้วโจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 นับแต่วันที่พ้นกำหนดห้ามโอนนั้น
เมื่อสัญญาซื้อขายที่พิพาทเป็นโมฆะ จำเลยย่อมไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะต้องไปจดทะเบียนโอนที่พิพาทให้แก่โจทก์ จึงบังคับจำเลยไปจดทะเบียนโอนที่พิพาทไม่ได้
of 29