พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,157 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2824/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกเคหสถานเพื่อทำร้ายร่างกาย แม้ไม่เข้าข่ายรบกวนการครอบครอง แต่ผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา
ก่อนที่จำเลยทั้งสองจะเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้ขับรถจักรยานยนต์เกือบจะเฉี่ยวชนจำเลยทั้งสองและเกิดการต่อว่าต่อขานกันขึ้น ผู้เสียหายได้ท้าทายให้จำเลยทั้งสองตามไปที่บ้านจำเลยทั้งสองจึงตามไปและเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกันขึ้นที่บ้านผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการหาเรื่องชวนวิวาทและทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายเท่านั้นจะถือเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายยังไม่ได้ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 แต่การที่จำเลยทั้งสองเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายในเคหสถานของผู้เสียหายเป็นเหตุหนึ่งที่แสดงถึงความที่ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 364อยู่ด้วย ฉะนั้นแม้โจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตรา 364 แต่ได้บรรยายฟ้องเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยทั้งสองมีข้อความอันเป็นความผิดตามมาตรา 364 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เช่นนี้ศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตรา 364 และบทฉกรรจ์ตามมาตรา 365(1)(2) ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยความผิดเกินคำฟ้องและขอบเขตอำนาจศาลอุทธรณ์หลังจำเลยถอนอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีอาวุธปืน พกพาอาวุธปืนและพยายามฆ่า และลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานบุกรุก จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยที่ 1 ขอถอนอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์อนุญาตจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 คดีความผิดสำหรับจำเลยที่ 1 จึงยุติ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยความผิดทุกข้อหาความผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 2รวมกันมาเป็นการพิพากษาเกินคำฟ้องอุทธรณ์ ไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณา ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2792/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองที่ดินจากแทนกันเป็นเพื่อตน ต้องบอกกล่าวภายใน 1 ปี มิฉะนั้นสิทธิเรียกคืนจะเกิดขึ้น
จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งของผู้ตายได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์ทั้งสามซึ่งเป็นทายาทผู้ตายเช่นกัน หากจำเลยจะยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทเพื่อตน จำเลยจะต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือมาเป็นการยึดถือครอบครองเพื่อตนไปยังโจทก์ทั้งสามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ก่อนจำเลยได้ยื่นคำคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ทั้งสามต่อเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อเดือนสิงหาคม 2522 แต่โจทก์ทั้งสามไม่ทราบถึงการยื่นคำคัดค้านดังกล่าว ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2529 เจ้าหน้าที่ที่ดินได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทั้งสามไปรับ น.ส.3 ก. โจทก์ทั้งสามไปรับแต่จำเลยไปคัดค้านไม่ยอมให้รับอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลยถือได้ว่าเดือนพฤษภาคม 2529 จำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือมาเป็นการยึดถือครอบครองเพื่อตน ซึ่งนับถึงวันที่ฟ้องคดีนี้ยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิฟ้องเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากจำเลยได้ ตามมาตรา 1375 จะนำอายุความตามมาตรา 1754 มาใช้บังคับไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2776/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากคำสั่งอายัดทรัพย์ที่ไม่ถูกต้อง แม้ตรวจสอบแล้ว แต่ยังประมาทเลินเล่อ
โจทก์เป็นคนละนิติบุคคลกับบริษัท ต. กรมสรรพากร จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2ออกคำสั่งอายัดเงินค่าจ้างก่อสร้างทางหลวงที่โจทก์พึงจะได้รับจากกรมทางหลวง โดยอ้างว่าโจทก์คือบริษัท ต.ซึ่งค้างชำระค่าภาษีอากรแก่จำเลยที่ 1 โดยอาศัยอำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองกระทำผิดพลาดไปโดยไม่ตรวจสอบให้รอบคอบเสียก่อนออกคำสั่งอายัดเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อโดยผิดกฎหมายทำให้โจทก์เสียหาย ไม่ได้รับเงินดังกล่าวจากกรมทางหลวง เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2776/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากคำสั่งอายัดทรัพย์ที่ไม่ถูกต้อง แม้ตรวจสอบแล้ว แต่ยังประมาทเลินเล่อ
บริษัทโจทก์เป็นคนละนิติบุคคลกับบริษัท ต.กรมสรรพกรจำเลยที่ 1 โดย จำเลยที่ 2 ออกคำสั่งอายัดเงินค่าจ้างก่อสร้างทางหลวงที่โจทก์พึงจะได้รับจากกรมทางหลวงอ้างว่าโจทก์คือบริษัทต. ซึ่งค้างชำระค่าภาษีอากรแก่จำเลยที่ 1 โดย อาศัยอำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองกระทำผิดพลาดไปโดย ไม่ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนออกคำสั่งอายัด เป็นการประมาทเลินเล่อโดย ผิดกฎหมาย ทำให้โจทก์เสียหายไม่ได้รับเงินจากกรมทางหลวงเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่เคลือบคลุม คดีแชร์: รายละเอียดการประมูลและจำนวนเงินเป็นเรื่องสืบพยานในชั้นพิจารณา
คำฟ้องบรรยายว่าโจทก์ได้ตกลงเข้าร่วมเล่นแชร์กับจำเลยจำนวน 2 วง หุ้นละ 300 บาท มีผู้ถือหุ้นวงละ 28 หุ้น เริ่มเล่นวันที่ 1 ตุลาคม 2528 กำหนดชำระค่าหุ้นทุก 15 วัน หลังจากนั้นโจทก์ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงโดยมีการประมูลแชร์กันตลอดมาจนถึงเดือนกันยายน 2529 แชร์ทั้ง 2 วง เลิกโดยที่โจทก์ยังไม่ได้ประมูลซึ่งโจทก์ได้ส่งเงินค่าหุ้นไปแล้วจำนวน 13,800 บาท และมี ดอกเบี้ยที่มีผู้ประมูลได้ 8,652 บาท จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระคืนให้โจทก์ดังนี้ คำฟ้องได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งมีสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองแล้วส่วนจำนวนเงินที่โจทก์ได้ส่งไปและดอกเบี้ยซึ่งมีสิทธิจะได้รับนั้นจะเป็นเงินค่าหุ้นและดอกเบี้ยแชร์วงไหน ผู้เข้าร่วมเล่นรายใดเป็นผู้ประมูลได้ จำนวนเท่าใดเป็นเพียงรายละเอียดที่จะนำสืบกันได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2644/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คเพื่อแลกเงินสด ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค หากไม่มีหนี้สินจริง
คำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องที่ว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อแลกเงินสดเป็นพยานเอกสารที่ใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาได้ เมื่อจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อแลกเงินสดไปจากโจทก์ จึงมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงไม่เป็นความผิด ตามพ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติภายหลังจากจำเลยออกเช็คพิพาท จำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2552/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดิน การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือ และอายุความครอบครอง
ประเด็นที่ว่าจำเลยได้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1381 หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวพันหรือรวมอยู่ในประเด็นข้อพิพาทที่ว่า โจทก์หรือจำเลยที่ 1มีสิทธิครอบครองที่พิพาท เมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ ศาลไม่อาจหยิบยกประเด็นเรื่องเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งการยึดถือขึ้นมาวินิจฉัยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2545/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน แม้มีชื่อในหนังสือรับรองฯ ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายตกไปเมื่อมีข้อเท็จจริงพิสูจน์สิทธิครอบครองที่แท้จริง
แม้ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์จะมีชื่อจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่าจำเลยมีสิทธิเช่นนั้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1373เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท ข้อสันนิษฐานตามมาตราดังกล่าวย่อมตกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2516/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่: การบรรยายรายละเอียดวัสดุในฟ้องแพ่ง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนวัสดุก่อสร้างบ้านที่จำเลยรื้อถอนไปแก่โจทก์โดยได้บรรยายฟ้องระบุเลขที่บ้านและสถานที่ตั้งของบ้านพิพาท ตลอดจนบุคคลที่ขายบ้านพิพาทให้แก่โจทก์กับราคาที่โจทก์ซื้อมาและได้บรรยายต่อไปถึงพฤติการณ์ที่จำเลยรื้อบ้านพิพาทนำเอาวัสดุไปก่อสร้างบ้านหลังใหม่ พร้อมกับแนบสำเนารายการวัสดุของบ้านพิพาทที่จำเลยรื้อไปมาท้ายฟ้องด้วย สามารถรู้ได้ว่ามีวัสดุอะไรบ้างที่จำเลยรื้อไปจากบ้านพิพาท ส่วนบ้านพิพาทเป็นบ้านแบบใด ราคาของวัสดุเท่าใด เป็นรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบในชั้นพิจารณาได้ฟ้องโจทก์จึงแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว ไม่เคลือบคลุม.